สารบัญสารภาพรัก
อ่าน: 3970
เมื่อคืนนี้นะเธอ..ฝนพรำๆ..แต่แมลงเม่าบางตัวก็ยังบินมาเล่นไฟ คงโดนฝนกระแทกปีกเปียกจนหงายเค้เก้..เช้าๆกองทัพมดก็เกณฑ์กันมาขนเอาซากแมลงเม่าไปเข้าอาณาจักรของมด จะเห็นว่าไม่มีอะไรสูญเปล่าในระบบของธรรมชาติเลยนะเธอ
ผมตื่นมาเช็ดโต๊ะ พร้อมกับอาบแดดอุ่น อากาศกำลังสบายๆ ข้อดีของคนอยู่ป่าก็อากาศนี้แหละน้อง ฝนตกอย่างนี้อากาศสะอาดมาก ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีดูกระชุ่มกระชวย ยังนึกเสียดายว่าเย็นวานนี้เราปลูกชำผักน้อยไป ไม่อย่างงั้นจะลงตัวพอดีเป๊ะเลย
ปลูกแล้วเทวดารดน้ำให้ เป็นอะไรที่สุดยอดจริงนะ
ในชีวิตเราถ้าสังเกตสังกาก็จะเห็นว่ามีบรรณาการจากสวรรค์ประทานให้อยู่เสมอๆ
แสงแดดอันแสนอบอุ่น
อากาศสะอาดปราศจากมลพิษ
เสียงนก/ไก่/ร่าเริงแจ่มใส
คนบ้านป่าปรึกษากันว่า..เช้านี้จะกินอะไร แหม..ยอดผักได้น้ำฝนอวบอวดสะพรั่ง ถ้าจะแกงลาวสักหม้อจะฮ้อแรดไหมละเธอ ถั่วฝักยาวกำลังดีมีลูกห้อยอยู่2ฝัก ฟักทองอ่อนลูกเล็กๆกำลังขบเผาะ ยอดตำลึง ยอดแมงลัก ยอดชะอม ยอดผักชีลาว โขกน้ำพริกใส่กะปิปลาทูผงที่ทำไว้ใส่น้ำพริก พอน้ำเดือดปุดๆก็ใส่ผักและเครื่องปรุง ตักใส่จานกินกับข้าวกล้องมะลิแดงร้อนๆ เธอเอ๋ย..
อ้าว! โฉมยงแอบตุ๋นขาสุกรไว้แต่เมื่อคืน
เช้านี้คงจะต้องหลีกทางให้ขาใหญ่เสียแล้ว
แกงพื้นบ้านเลื่อนไปมื้อเที่ยงก็ได้นะ
ระหว่างที่เดินไปเดินมา เจอปรากฏการณ์บนโต๊ะอาหาร ผมเอาผ้าเช็ดแต่ยังไม่แห้งสนิทดี กะเอาแสงแดดช่วยจะได้ฆ่าเชื้อโรคไปด้วย พอพื้นเซรามิคโดนแดด หยัดน้ำเล็กๆเกาะตัวเรียงแถวรอยหยดน้ำที่ใหญ่กว่า ถ้าไม่สังเกตไม่เห็นนะนี่ สวยแปลกดีเหมือนกันนะเธอ ของอย่างนี้คนไม่ขลุกก้นครัวไม่มีโอกาสได้เห็นหรอกนะ แสดงว่า-หู-ตา-ปาก-จมูก-ของเรา เป็นเครื่องมือไขว้คว้าหาความรู้ได้เสมอ ถ้ า เ ร า รู้ จั ก ใ ช้
ตอนนี้ผมมีความรักตุนไว้มากมาย เก็บเอาไว้ก็ไม่มีดอกเบี้ย จึงอยากจะแจกจ่ายออกไปทุกวันๆ ถ้าคนเรามีใจให้แก่กัน ช่วยให้กำลังใจกัน สันติสุขให้หมู่เฮาจะไปไหนเสีย
ลองเปิดสารบัญยิ้มหน้าที่หนึ่งดีไหมเธอ?
จะ อ ยู่ อ ย่ า ง เ วิ้ ง ว้ า ง กั น ทำ ไ ม เ ล่ า ?
บ อ ก รั ก กั น ดี ก ว่ า . . จุ๊บๆๆ
วันใดที่คนไทยรักกัน วันนั้นชาติเข้มแข็งและเจริญ
ยิ้มสยามจะเป็นตำนานอยู่แล้ว
ฝึกเอาไว้จะได้ยิ้มสวยๆขึ้น
อ ย่ า ทำ เ ป็ น เ ล่ น ไ ป น ะ เ ธ อ . .
· ยิ้มเป็นใบเบิกทาง
· ยิ้มเป็นอาวุธที่ทรงอานุภาพ
· ยิ้มเป็นกาวใจที่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่ากาวตราช้าง
· ยิ้มเป็นวิธีเสริมสวยที่ดีที่สุดในโลก
· ยิ้มเป็นตัวชี้วัดอารมณ์บ่มความสุข
· ยิ้มเป็นอะไรที่อยากจะชี้ชวนให้คนสวยยิ้ม
· อ้อ! ยิ้มแล้วอย่าลืมคอมเมนท์เสียละ คิ คิ..
ชีวิต 3 เด้ง
ชีวิต3 เด้ง! ตอน ความรู้เล็กๆน้อยๆ****
คนเรานี่นะเธอ
ถ้าค่อยๆสะสมความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้นวันละเล็กละน้อย เราก็จะมีความรู้รอบตัวมากขึ้นๆ
วันดีคืนดีก็งัดออกมาทดลองปฏิบัติ
แล้วขยายผลไปสู่การคลี่ความรู้เชื่อมโยงให้เบิกบานสู่ภายนอก ในบริบทของ”ผู้สู่รู้”
พัฒนาต่อไปก็จะเป็น ถ้าเราไม่ทำอย่างนี้..ค ว า ม รู้ จ ะ เ พิ่ ม ท วี คู ณ ไ ด้ น ะ ค น ส ว ย
ถ้ายังอ้อยอิ่งกับความรู้ ไม่จัดการความไม่รู้
ความไม่รู้ก็จะสะสมอยู่ตัวเช่นกัน สุดท้ายก็จะโดนแซวว่า..
สวยแต่รูปจูบไม่หอม
แ
ส ด ง ว่ า มี ค น แ อ บ ห อ ม อ ยู่ น ะ จ๊ ะ ..
อย่าลืมอาบน้ำประแป้งเป็นอันขาด!
เพลงลูกทุ่งยังโอดครวญว่า..แก้มนี่อย่าให้ใครมาจูบ แก้มนี้อย่าให้ใครมาลูบซ้ำรอย แหม!..พื้นที่ตรงนี้..ช่างเป็นเขตของหวงของห้ามเสียจริงนะเธอ
ทั้งที่การหอมแก้มแม่วันแม่ หรือหอมแก้วลูกวันลูก เอ๊ะ! วันลูกมีรึเปล่า
อ๋อ..วันเด็กยังไงละ ผมประทับใจในภาพที่ครูแมวหอมแก้มหนูขวัญหนูเพชร
ดังนั้นแก้มที่เธอมีไว้อย่าปล่อยปะละเลยให้เสียประโยชน์
ควรนำพื้นที่ๆเล็กๆนั้นสร้างสรรค์สันติสุขในครัวเรือน..
เรื่องความรู้
ผมไม่ทราบว่าเขาเอาอะไรมาวัดว่าเป็นสิ่งเล็กๆหรือสิ่งใหญ่ๆ
เราแยกความรู้ให้เสียเวลาทำไมกัน ถ้ามีโอกาสก็ควรขวนขวายขยายความรู้
ทดลองโน่นนี้ทุกวัน เหมือนที่หนูกุลนทีประดิษฐ์โน่นนี่มาให้เราชมทุกวัน
ชี
วิ ต เ ธ อ ช่ า ง เ ต็ ม ส า ร ะ เ สี ย เ ห ลื อ เ กิ น
กับท่านอื่นก็ใช่ว่าจะนิ่งดูดาย
เพียงแต่บางท่านไม่ยอมเอามาอวด
ชอบเก็บตัว
เก็บใจ ไว้เงียบๆ แอบทำอะไรเพลินๆในมุมของตนเอง..
ตั้งแต่บ่ายแล้วละครับ
ฝนปรอยๆมาแบบอีลุบตุ๊บป่องไม่ต่อเนื่อง หยอดมาเป็นระยะๆ
มีเพื่อนชาวสวนข้างๆกำลังปลูกยางพารา..ก่อนหน้านี้ก็ลงมือลงแรงปลูกไปหลายแถว
เจอแล้งเข้ายางพาราก็อำลากลับบ้านเก่าไปหลายต้น คิดค่าเสียหายประมาณต้นละ30บาท ปีนี้ฝนทิ้งช่วงด้วยสิเธอ ใครที่ปลูกยางพาราช่วงนี้จึงต้องมาคอยลุ้นว่าฝนจะตกไหม?
ผมเปิดคอมฯ..ที่คุณชายตั้งโปรแกรมดูเมฆฝนทางดาวเทียมไว้ให้ ชี้ให้เขาดูกลุ่มเมฆกำลังพัดมาทางนี้ ดูไม่นานท้องฟ้าก็ครึ้ม
เมฆดำทะมึนลอยมาปกคลุมเหนือเรา ลมพัดอู้ๆ..ลุ้นว่าอย่าพัดแรงพัดเร็วจนหอบเอาฝนหนีเสียละ
แ ล ะ แ ล้ ว พ ร ะ พิ รุ ณ ก็ เ ป็ น ใ จ ..ฝนตกมาจั๊กๆ..ถึงไม่หนักมากแต่ความชุ่มชื้นก็เกิดขึ้นกับต้นยางพาราเล็กๆที่กำลังปลูก
และหัวใจคนปลูกก็ย่อมชุ่มฉ่ำไปด้วย ตอนหัวค่ำก็ยังหยอดมาอีกชุดหนึ่ง
ก่อนหน้าที่ผมเขียนอยู่นี่ฝนก็เทลงมาอีกจนสะดุ้งตื่น ตื่นมาแล้วก็คิดถึงหนูกิ่งก้าน
ป่านฉะนี้ยังจะเป็นนกฮูก รึ!คร๊อกฟี่ๆไปแล้ว ส่วนพี่วิไล..จะตื่นมาตอนตี3 ลุกเข้าห้องน้ำแล้วก็เข้าห้องFB.
พี่แต๋วเอาแน่ไม่ได้ บางคืนฝันหวานตื่นมาช่วงย่ำรุ่ง
บางทีก็นอนเสบยไปจนถึงรุ่งเช้า ตามมาตรฐานของผู้รักสุขภาพเป็นยอด
เมื่อวานทดลองเพาะถั่วงอกตามแนวคิดที่ว่า..รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม
คุณชายบันทึกขั้นตอนส่งภาพขึ้นให้ชมแล้วนะครับ
พรุ่งนี้ก็จะย่างเข้าวันที่2 เอาไว้ฟ้าแจ้งจะรายงานอีกครั้ง
คนเรานี่นะเธอ..ถ้าเอากำลังใจผสมน้ำใจใส่อะไรก็งาม
อยากจะทำสิ่งดีๆให้สนุกๆ..ปลูกต้นไม้สิเธอ เอาต้นไม้ลงดิน
พอมันตั้งตัวได้ ต้นไม้ก็จะหากินเอง ค่อยๆยืนหยัดเติบโตขึ้นตามลำดับ
โดยไม่ต้องให้ใครมาช่วยเหลือตลอดเวลา ต้นไม้พยายามพึ่งตนเอง
ไม่ว่าจะร้อนแล้งหรือโดนพายุโยกคลอน ต้นไม้แก้ปัญหาได้อย่างทรหดเสมอ
ไม้ในป่าไม่มีใครไปใส่ปุ๋ยรดน้ำให้หรอกนะเธอ ก็ยังมีป่าไม้ขึ้นมาปกคลุมโลก
ที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้..เกี่ยวเนื่องกับมนุษย์ทั้งนั้น
นอกจากไม่ปลูกแล้วยังไปเที่ยวระรานทรัพยากรป่าไม้
เปลี่ยนสภาพธรรมชาติที่สมดุลไปเป็นพื้นที่เสื่อมโสโครก
แล้วก็จ่อมจมอยู่กับสภาพแวดล้อมแย่ๆ
คุณภาพชีวิตจึงห่วยแตกหรือประมาณ..
สังคมมนุษย์ก็จะอิหลักอิเหลื่อยังงี้แหละ
งมงายอยู่กับความรู้สะลึมสะลือ..
เหมือนไก่ตาฟางตอนย่ำรุ่งยังไงยังงั้น..
คนเรานี่นะเธอ..ถ้ามีความรับผิดชอบกันบ้าง ช่วยกันแต่งแต้มพื้นที่กระดำกระด่างคนละเล็กละน้อย
ต่างคนต่างพิจารณาจะปลูกอะไรลงไปในพื้นที่ๆตัวเองมี บริเวณบ้าน บริเวณหมู่บ้าน
บริเวณตำบลก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ปีนี้ถ้าจะแล้ง
นั่งรถผ่านมาเมื่อวานข้าวกล้าในนาหลายทีกำลังเหี่ยวเฉา
ช่วงนี้ถ้ามีดีเปรสชั่นเข้ามาสักลูกสองลูกท่าจะดี แต่ก็นั่นแหละเธอ เรื่องนี้มันอยู่ไกลและยากเกินที่จะแห่นางแมวขอฟ้าฝนได้
แต่ถ้ามีต้นไม้เป็นร่มเงาบ้างก็ยังช่วยชะลอความเศร้าซมได้
สีเขียวเป็นสีแห่งชีวิตใช่ไหมละเธอ
เมื่อเป็นเช่นนี้เราจะไปจมอยู่กับสีช้ำเลือดช้ำหนองทำไมละ
ช่วยกันปลูกช่วยกันสร้างสีสันที่สดชื่นขึ้นมามากๆ
ตอนหัวค่ำฝนตกมาซู่หนึ่ง
ก่อนหน้านี้ก็ตกหนักตกเบาๆแบบเอาอกเอาใจคนปลูกป่า เช้านี้จึงชุ่มฉ่ำ..นกเขามาจีบกันคันคูตั้งแต่ปลายฟ้าเปิด ส่วนไก่ชวนกันมาคุ้ยเขี่ยอาหารใกล้ เจ้าโต้งเขี่ยไปแล้วก็หยุดโก่งคอขัน
แสดงความอิสระแห่งชีวิตให้เราอิจฉา ไม่ต้องแต่งตัว ไม่ต้องขับรถ ไม่ต้องทนทรมานติดไฟแดง
ก ร ะ โ ด ด ล ง จ า ก ค อ น อ ย า ก จ ะ ไ ป ไ ห น ก็ ไ ป ไ ด้ ต า ม อำ เ ภ อ ใ จ
เป็นไก่ในป่าก็ดียังงี้แหละน้อง เ พี
ย ง อ ย่ า ไ ป เ ป็ น ไ ก่ ใ น ฟ า ร์ ม ก็ แ ล้ ว กั น ไก่ฟาร์มเปรียบเหมือนไก่ที่อยู่ในเรือนจำ
ถูกจำกัดจำเขี่ยสิทธิ์ทุกอย่าง ถึงจะมีอยู่มีกินแต่มันไม่มีอิสระ
ไม่ทราบว่าคนกรุงจะเปรียบเสมือนไก่ในฟาร์มได้ไหมนะ ยังมีบางคนแหกกรงบินออกมาได้บ้าง
ไม่ยังงั้นก็จมอยู่กับคำว่างาน งาน และ งาน
เคยพิจาณาไหมครับว่า..เรากำลังทำงานอะไร?
ทำมากน้อยแค่ไหน
จำเจแค่ไหน?
ผลลัพธ์เป็นอย่างไร?
เพื่อใคร! มีช่องเว้นวรรคให้หายใจหายคอบ้างไหม?
หรือว่าเคยชินกับการเป็นหุ่นยนต์ไปแล้ว
ไ
ม่ คิ ด แ บ่ ง ง า น แ บ่ ง ชี วิ ต ติ ดโ ช ค
อั พ บ้ า ง เ ล ย ห รื อ เ ธ อ
รึว่า..ชีวิตถูกบังคับจนเหมือนไก่ในฟาร์มเสียแล้ว
รึอยากได้ชื่อว่า..แ ม่ ไ ก่ ย่ า ง ห้ า ด า ว
ตกเป็นเหยื่อของอะไรก็ไม่รู้
ชีวิต
หนอ ชีวิต เ กิ ด ม า เ พื่ อ ติ ด ยึ ด
ติ
ด น็ อ ต ติ ด ห นึ บ.. อ ย่ า ง กั บ ติ ด ก า ว
ต ร า ช้ า ง
ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนักหรอกคนสวย
ที่เธอจะติดFB.และติดการตอบคอมเมนท์
ค น ไ ห น ต อบ . . คนนั้นน่ารักเป็นบ้าเลยเธอรู้ไม๊..
ถ้าหัวใจเธอเป็นพลาสติก..ก็แล้วไป ขออภัยที่มาตอแย อิ อิ..
: เพิ่งได้อ่านร่างโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “การปฏิบัติการสุขภาวะเชิงรุกปลุกกระแสให้ประชาชนดูแลตัวเองและอนามัยสิ่งแวดล้อม”
วันที่ 31 สิงหาคม-2กันยายน 2555
ที่อุ้ย (ผ.ศ.ดร.จันทรรัตน์ เจริญสันติ) แห่งคณะพยาบาลศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ได้กรุณายกร่างโครงการเซาะร่องที่สมบูรณ์แบบมาก
ผมเอามาเป็นแผนเชิงรับของที่นี่ได้อย่างลงตัว
ถ้าเจ้าหน้าที่บริหารกรมอนามัย หรือชาวอนามัยได้อ่านน่าจะเป็นประโยชน์มาก
กระบวนการอบรมดังกล่าวนี้น่าจะนำไปสู่นโยบายเชิงรุก
ที่ต้องการให้ประชากรมีความรู้พื้นฐานที่จะดูแลตัวเองและดูแลกันเองในระดับหนึ่ง
ซึ่งเป็นจุดสำคัญมากในการสร้างวินัยให้แก่สุขภาวะครอบครัวและชุมชน ถ้าดำเนินการได้ต่อเนื่องน่าจะเป็นกรณีศึกษาที่นำไปสู่การขยายผล
ให้แต่ละหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆได้พิจารณา เพิ่มสัดส่วนการส่งเสริมเชิงกระบวนการ นอกเหนือจากการรับหลักการในห้องประชุมตามเวทีใหญ่ๆ
..
ยังไงๆ..การสร้างความตระหนัก ให้รักตนเอง รับผิดชอบตัวเอง
ก็ควรจะเป็นหลักการสำคัญในการที่จะนำไปสู่การสร้างกระแสสุขภาวะแบบองค์รวม ปัญหาอยู่ที่องค์กรที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะแอ็คชั่นแล้วหรือยัง! แต่ก็มีนักพัฒนาสุขภาพบางแห่งติดต่อมาเหมือนกันนะครับ ยกตัวอย่าง เช่น..
“อาจารย์ขา
หนูบุษบา เป็นพยาบาลที่ ร.พ.ตระการ
ร่วมกลุ่มเครือข่าย ทั้งชาวสาสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชาวบ้านประมาณ 60 คน อยากไปเรียนรู้ เพื่อจัดการความรู้ด้วยตนเอง โดยชุมชน
เจ้าหน้าที่เป็นเพียงผู้สนับสนุน ก็เลยอยากจะไปเรียนรู้กับอาจารย์ ไม่ทราบว่า อ.มีเวลาให้ได้ไหมค่ะ สัก2วัน1คืน
เดือนกันยายน 089-2814 822 mail Budsaba.k@hotmail.com
“
มีโปรแกรมคณะพยาบาล
ม.อุบล 22-24 ตุลาคม 2555 มากัน70ชีวิตอีกนะอุ้ย
ยังมีคณะขาจรย่อยอีก
รวมทั้งรายการเอาเถิดเอาล่อ
เฉพาะ
วันที่ 6 กันยายน 2555
·
มีประชุมสภาพัฒนฯประจำปี ที่บางกอก
·
สัมมนาแทนคุณแผ่นดิน โดยบก.เครือเนชั่นที่ ม.ราชภัฏสุรินทร์
·
มีกลุ่มผู้สนใจจากบางกอก
แจ้งผ่านคุณชายจะมาคุยด้วย
วั น เ ดี ย ว เ จ อ เ ข้ า ไ ป 3 เ ด้ ง
ใครจะมาช่วยหิ้วปีก ไปเป่าน้ำ ก็เชิญ นะครับ
มาเพาะถั่วงอกกันดีไหมน้อง
วิชานี้ฮือฮามากตอนน้ำท่วมใหญ่คราวที่แล้ว อาจารย์ถั่ว คุณนิมิตร์ เทียมมงคล ได้เที่ยวตระเวนฝึกอบรมการเพาะถั่วงอกจนระเบิดระบือแกมีวิธีทำง่ายๆ ใช้เวลา3วันก็มีถั่วงอกรับประทานไม่อั้น พรุ่งนี้มาทดลองทำพร้อมๆกันดีไหมครับ มีขั้นตอนง่ายๆดังนี้
1. นำขวดพลาสติกมาจะรูระบายน้ำ2แถวๆละ5รู รวมทั้งหมด10รู เจาะรูระบายที่ใกล้คอขวดอีก 3 รู และเปิดปากขวดด้านตรงกันข้ามกับเจาะรู สำหรับเป็นที่รดน้ำถั่วงอก การเจาะรู้จะใช้หัวแร้งจะสะดวกกว่า ถ้าไม่มีสามารถใช้ธูปแทนได้ เวลาเจาะอย่าลืมเป่าธูปให้ติดไฟแดงๆ จะเจาะฉับๆๆง่ายมาก
2. นำถั่วเขียวแห้งใส่ลงไปในขวด ปริมาณเท่ากับความสูงของรอยควั่นแรก จากนั้นเติมน้ำอุ่นลงไปให้ถึงรอยควั่นที่2 แช่ทิ้งไว้ 6-8ชั่วโมง
3. เปลี่ยนใส่น้ำธรรมดา เขย่าให้เมล็ดถั่วกระจายทั่วขวด วางขวดไว้ในแนวนอน น้ำจะค่อยๆไหลซึมผ่านรูที่เจาะไว้ จากนั้นนำตะแกรงดำมาปิดทับขวดไว้ช่วยพรางแสง และช่วยลดแรงปะทะของน้ำที่รดลงไป และห่อทับอีกชั้นด้วยผ้าขนหนูหรือกระสอบป่าน เพื่อไม่ให้แสงเข้า วัดถัดมาให้รดน้ำด้วยฝักบัวหรือใช้ขันตักราด ให้น้ำค่อยๆซึมผ่านรูวันละ3เวลา
4. ผ่านไป3วัน จะได้ถั่วงอกแน่นเต็มขวด นำถั่วงอกออกจากช่องที่เจาะไว้
ขวดขนาด1,500ซีซี.จะได้ถั่วงอก600 กรัม
ขวดขนาด750ซีซี.จะได้ถั่วงอก300 กรัม
ขวดขนาด600ซีซี. จะได้ถั่วงอก 200 กรัม
ขวดขนาด 5 ลิตร จะได้ถั่วงอก 4-5 กิโลกรัม
: นอกจากวิธีนี้ ยังมีอีกหลายรูปแบบให้ทดลอง ตามวัตถุประสงค์
ถ้าทำเพื่อการค้าก็ทำอีกแบบหนึ่ง
แต่ถ้าทำเพื่อบริโภคในครัวเรือน แบบขวดนี่แหละเหมาะที่สุด
กรมอนามัยในวัย60ปี
อนามัยจะไฉไลต้องติดตามอ่านเรื่องนี้
กรมอนามัยไม่ใช่ธรรมดานะเธอ โอ้โห! ก่อตั้งมาจนครบ60ปี บางคนที่อ่านเรื่องนี้ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ คิดดูสิเธอ..ยุคโน้นคนที่อยู่ในแวดวงกรมอนามัยจะเป็นยังไง อาจจะถีบจักรยานขี่เกวียนช้างม้าพายเรือไปทำหน้าที่บริการประชาชนก็ได้ สมัยที่เป็นเด็กๆผมเห็นนางผดุงครรภ์คนเดียวทำหน้าที่ในสุขศาลา ฉีดยูกฉีดยารักษาคนป่วยไข้ได้สารพัดอย่าง เรียกว่าเจ็บป่วยตั้งแต่แรกเกิดจนเข้าโลงนางผดุงครรภ์จัดการให้ได้ แสดงว่าคุณผดุงครรภ์ยกกระทรวงสาธารณสุขมาไว้ในชุมชนไกลปืนเที่ยง ดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยอย่างน่าอัศจรรย์ ทุกครัวเรือนได้พึ่งพาอาศัยความรู้ความสามารถของนักบริหารสุขอนามัยชุมชนครบวงจร ที่เรียกว่านางผดุงครรภ์
ตลอดเวลา60ปี บุคลากรกรมอนามัยเป็นหน่วยจรยุทธที่ตระเวนบำบัดทุกข์บำรุงสุขไม่น้อยหน้าข้าราชการกรมกองไหน การสะสมทักษะเรื่องการบริการสุขภาพของประชาชนนั้นมีความหมายมาก ถ้าจะมีการแกะรอยมาวางแผนพัฒนาการบริหารสุขภาวะอนามัยในปัจจุบัน
บทบาทใหม่ๆที่ชาวอนามัยควรจะระดมพลังให้ท่วงทันกับความเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย ก็คือการบริการความรู้เชิงรุก เรื่องปลุกกระแสให้ประชาชนมีความรู้ที่จะดูแลตนเอง เรียนรู้ที่จะเข้าใจเข้าถึงการป้องกันและรักษาโรคเบื้องต้น ชี้ชวนให้รักตัวเองใส่ใจในการป้องกันโรคภัยต่างๆ รวมทั้งฝึกฝนทักษะในการดูแลครอบครัวและสังคมรอบข้างด้วย ถ้าไม่ยกระดับความรับผิดชอบและเฉลี่ยบทบาทเรื่องสุขภาวะเชิงรุกแล้ว สภาพการจัดการเรื่องอนามัยชุมชนก็เป็นภาระที่นักอึ้งของชาวอนามัย
ทำอย่างไร? การอนามัยจะมีเจ้าภาพร่วม อบต.อบจ.เทศบาล วัด โรงเรียน กลุ่มจิตอาสา เครือข่ายมูลนิธิ นักธุรกิจ นักอุตสาหกรรม นักพัฒนาสังคม รวมทั้งโครงการเพื่อสังคมต่างๆ จะมายืนเคียงข้าง แล้วร่วมด้วยช่วยกันกับชาวอนามัย ถ้าดึงกลุ่มภาคสังคมมาเป็นเพื่อนได้แล้ว งานบริหารบริการอนามัยในอนาคตก็จะเดินหน้าได้อย่างชื่นมื่น
ประเด็นดังกล่าวข้างต้น ผมคิดว่าชาวอนามัยก็ได้ทำการบ้านเชิงรุกมาโดยตลอด ศูนย์อนามัยในภูมิภาคต่างๆเป็นตัวแม่ มีศูนย์อนามัยจังหวัด,อำเภอ,ตำบล กระจายดูแลความเป็นไปของสุขภาวะที่นับวันจะมีปัญหาแทรกซ้อนและซับซ้อนมากขึ้น การทำงานเชิงรุก จะช่วยให้งานตั้งรับผ่อนคลายไปได้พอสมควร
ขอบอบคุณพี่สุวรรณ แช่มชูกลิ่น แห่งศูนย์อนามัยที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา
ที่ประสานงานให้ได้ไปเรียนรู้กับชาวอนามัยทั่วราชอาณาจักร
ได้เปิดหูเปิดตาเรื่องอนามัยจนเต็มอิ่ม
ในวาระที่กรมอนามัยจัดประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่5 ประจำปี 2555 : ”กว่าจะถึงวันนี้..60 ปี กรมอนามัย” ณ ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ถ้าใครได้มาเห็นมาร่วมงาน ก็จะทึ่งในพลังของชาวอนามัยและรับทราบบทบาทที่ก้าวหน้าทันต่อเหตุการณ์ บอร์ดงานวิจัย นิทรรศการที่ละลานตา ตำราเอกสารต่างๆมีมาแจกจ่ายเพียบ ของดีๆทั้งนั้นเธอเอ๋ย หอบกลับมานอนอ่านได้ประโยชน์เหลือหลาย งานนี้ผมได้พบจอมยุทธนักบุกเบิกงานด้านนี้ ทั้งที่เป็นบุคลากรในแวดวงอนามัย และเครือข่ายที่ชาวอนามัยไปจีบมาเป็นเพื่อนร่วมทาง เรียกว่าคนดีของดีอยู่ที่ไหนอนามัยไปเต๊าะมาเป็นพันธมิตรจนหมดสิ้น งานประชุมวิชาการคราวนี้Hall 9 จึงแทบโป่ง
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ได้มาประทานรางวัลแก่บุคคลประเทต่างๆ138รางวัล ที่แปลกกว่างานอื่นๆก็คือ รางวัลคุณแม่ดีเด่นด้านการดูแลบุตรด้วยนมแม่จากทั่วประเทศนั้น ได้อุ้มลูกเล็กเด็กแดงมาร่วมงานด้วย ส่วนมากจะเป็นเด็กเล็กอายุ1-2ขวบ คุณสามีจึงต้องติดตามมาด้วยทุกคู่ เพื่อจะช่วยกันดูแลคุณลูกในระหว่างเข้าร่วมพิธี เราประทับใจที่เห็นเด็กๆหัดเดินเต๊าะแตะในระหว่างเตรียมพิธีการรับรางวัล ธรรมชาติของเด็ก.. ถ้าคนหนึ่งร้องคนอื่นๆมักจะร้องตาม มีเสียงเด็กร้องพอๆกับรอยยิ้มของผู้เป็นพ่อแม่
คุณแม่..งัดนมเจ้าเต้า..สดๆปลอดภัยและสะดวกมาลดเสียงร้อง
กรมอนามัยจัดงานคราวนี้นับว่าอลังการมาก แต่ละศูนย์ได้คัดบุคคลและองค์กรต้นแบบด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม, จังหวัดส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุดีเด่น, หน่วยงานดีเด่นด้านน้ำประปาได้มาตรฐานคุณภาพน้ำบริโภค, องค์กรปกครองท้องถิ่นต้นแบบด้านการจัดการสุขภาบิบาลอาหาร, องค์กรปกครองท้องถิ่นต้นแบบด้านการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ, ครอบครัวต้นแบบการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ รวมทั้งสิ้น 138 ราย
มาร่วมงานกรมอนามัยเที่ยวนี้ได้รับเอกสาร ได้ความรู้เยอะแยะ เช่น
• อยู่อย่างไรภายใต้มลพิษ ตอน ผักผลไม้ต้านโรคต้านมะเร็ง
• ไม้ประดับดูดสารพิษ
• รู้ไว้เรื่องใกล้ตัว เตรียมตัวเตรียมใจรับภัยน้ำท่วม
• รู้เรื่องใกล้ตัว ทำอย่างไรให้ไกลโรค
• จะท่วมกี่ครั้งก็ยังรับไหว
• รื้อ ล้าง ..หลังน้ำลด
• ทำอย่างไรให้ส้วมสะอาด
• แผนที่..เส้นทางเรียนรู้ ร่วมลดโลกร้อน
งานนี้เจอคุณหมอสุธี เจ้าเก่าจากเทศบาลพิษณุโลกมารับรางวัลด้วย ได้เจอจอมยุทธถั่วงอกที่เคยพาชาวบ้านไปดูงานที่ลพบุรีเมื่อ8ปีที่แล้ว เหมือนสวรรค์จับยัดให้มานั่งลำดับติดกัน คุณนิมิตร์ เทียมมงคล จำได้ทักทายกันชื่นมื่น คุณนิมิตร์ได้มาออกนิทรรศการสาธิตด้วย พบว่ากิจการพัฒนาถั่วงอกระเบิดเทิดเทิงไปไกลมาก มีกรรมวิธีใหม่ๆที่น่าสนใจมากมาย เล่าว่า..ช่วงที่น้ำท่วมใหญ่ก็ได้ตระเวนไปฝึกสอนให้ชาวบ้านเพาะถั่วงอกใส่มาม่า ใช้เวลาเพียง3วันก็มีถั่วงอกสดๆรับประทานกันไม่อั้น
ได้พัฒนาการวิธีเพาะถั่วงอกในขวดพลาสติก
ออกทีวี พิมพ์ตำรา เดินสายอบรมจ้าละหวั่น
เป็นนักสื่อสารสัมพันธ์ชั้นยอด
ใครได้ฟังล้วนประทับใจอ้าปากหวอออออ..
ผมตั้งใจว่ากลับสวนป่าครั้งนี้จะเพาะถั่วงอกในขวดพลาสติกที่ได้รับคำแนะนำทันที ก็ขวดที่ป้าหวานส่งมาให้นั่นแหละเหมาะมาก เพาะถั่วงอกได้ทีละกาละมัง เอาไว้ปรุงอาหารคราที่มีคนมาดูงาน ถ้าจะเพาะถั่วงอกเจี๊ยะกันเองในครอบครัว เพาะด้วยขวดโค๊กลิตรก็พอเพียงแล้วละครับ ชาวมังสะวิรัติควรทดลองดูนะครับ
งานนี้มีของหวานอาหารแห้งอาหารคาวอร่อยๆจากทั่วประเทศ ที่แต่ละศูนย์อนามัยแต่ละเขตส่งมาประชันกัน คุณภาพหายห่วง ผมทั้งซื้อทั้งชิมก็แทบคลานกลับโรงแรม ระหว่างที่เขียนนี้ก็ยังอิ่มแบบอึกทึกอยู่ในท้องนะครับ ในงานนี้มีความรู้เด็ดๆมากมาย ผมเดินไปเจอเรื่องมะเขือพวงอบแห้ง ทำเป็นซองๆแบบซองน้ำชา รับประทานก็แบบชานั่นแหละ วันละซอง
คุณสมบัติแจกแจงว่าไว้ว่า..ช่วยควบคุมโรคเบาหวาน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดแข็งและตีบตัน ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ช่วยระบบขับถ่ายดีขึ้น มีรายละเอียดอธิบายเชิงวิชาการอีกมาก ถ้าดื่มวันละซอง..พบว่าสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี เมื่อรวมกับการปรับพฤติกรรมการบริโภค ลดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานได้อย่างน่าพอใจ อาทิ โรคหลอดเลือดหัวใจ ไตพิการ จอตาพิการ ประสาทพิการ โรคที่เท้าและอวัยวะพิการ
มะเขือพวงสมุนไพร1ซอง ดื่มง่ายเพียงแช่ในน้ำร้อน (ชงได้ 3-4ถ้วย)
ชนิดซองนี้เหมาะกับคนที่ไม่ชอบรับประทานมะเขือพวงสด
ที่สวนป่าไม่เสียเวลามาชงหรอกนะครับ
เก็บมาปรุงอาหารทีละตะกร้า เบาหวานที่ไหนจะกล้ามาวอแว
แต่ยังงั้นก็เถอะ ผมจะปลูกมะเขือพวงเยอะ แล้วจะทดลองทำชามะเขือพวง
อ้อ งานนี้ซื้อมะอึกมาด้วย จะเอาเมล็ดไว้เพาะน่ะครับ
ยังไม่จบง่ายๆหรอกเธอ งานนี้เดินไปสะดุดเรื่องเด็ดอีก โอ้แม่เจ้า ..เรืองผักโขมจีน (Chinese Spinach) ของชอบที่ผมรับประทานแทบทุกวัน งานนี้มีวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตสมุนไพร บ้านเกาะลอย จังหวัดจันทบุรี ได้ผลิตผักโขมผงใส่ซองอย่างดรจำหน่าย สรรพคุณคับซองอีกแล้วละเธอ ..เป็นแหล่งวิตามินเอ วิตามินซี กรดอะมิโน สารต้านอนุมูลอิสระ และสารอื่นๆฯลฯ เป็นผักบำรุงน้ำนม ธาตุเหล็กทำให้สมองตื่นตัว มีสารเบต้าแคโรทีนสูง มีทั้งลูทีน และเซอักแซนทีน ซึ่งเป็นสารแคโรทีนอยด์ สารเหล่านี้ช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตา ลดความเสี่ยงจากจอตาเสื่อม และการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ และยังมีสาร ซาโปนิน ช่วยลดคอลเลสเทอรอลในเลือดได้อีกด้วย มีเส้นใยอาหารมาก ช่วยระบบขับถ่ายได้ดีอีกต่างหาก ผักโขมจีนผง เหมาะกับคนไม่ชอบรับประทานผัก สามารถเอามาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น
• ใช้ผักโขมจีนผง2ช้อนชา ต่อไข่3ฟอง ผสมทำไข่เจียวไข่ตุน
• ผสมในเนื้อสัตว์ บด-สับ ประกอบอาหารเช่น ต้ม ทอด ผัด
• เติมต้มจืด ซุป ข้าวต้ม โจ๊ก ผัดต่างๆ บะหมี่สำเร็จรูป
• ผสมในขนม เช่น คุกกี้ พาย ขนมอบต่างๆ
เรื่องผักโขมจีนนี่นะเธอ ที่สวนป่าเกิดเองก็มี หว่านเมล็ดสายพันธุ์ใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ เป็นผักที่ปลูกง่าย โตเร็ว ผมชอบรับประทานอยู่แล้ว ตัดเอาส่วนยอดอ่อนมาปรุงน้ำซุป ผัด แกงจืด ไม่มากไม่น้อย..ตัดมาทีละตะกร้า ยิ่งตัดก็ยิ่งแตกยอดใหม่ๆอ่อนๆมา แต่แนวคิดเรื่องทำเป็นผงก็มีนะครับ
เอาไว้คุณชายทำโรงอบผักพลังงานแสงอาทิตย์ให้เมื่อไหร่?
ผมจะอบผักโขมจีนแห้งวันละรถสิบล้อให้ดู
เ ล็ ก ๆ ไ ม่ ใ ห ญ่ ๆ . . ช อ บ ค รั บ
อิ อิ..