น้ำใจน้องพี่สีชมพู

อ่าน: 2469

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ..ฟั ง เ พ ล ง นี้ ที่ นิ สิ ต ร้ อ ง แ ล้ ว ยั ง ก้ อ ง อ ยู่ ใ น หู

เกิดคำถามว่า ..แล้วน้ำใจของคนไทยทั่วไปสีอะไรละ?

อย่าบอกนะว่า..สีช้ำเลือดช้ำหนอง

กลับจากน่านคราวนี้ ไม่รู้จะออกหัวออกก้อย ระโหยโรยแรงเหมือนนกปีกหัก เพราะไปกินสับปะรดแช่เย็นชิ้นเดียวในยามอากาศผันผวนแท้ๆ ทำให้อาการหลอดลม/ภูมิแพ้กำเริบ เรียกว่ามาแบบซึมกะทือเลยละครับ มากระดี๋กระด๊าได้บ้างก็ตอนเจอหน้าพี่น้องชาวเฮนี่แหละ

พลังความรู้สึกที่ดีบรรเทาโรคได้

แต่ก็นั่นแหละเธอ กันไว้ดีกว่าแก้..

จะเล่าอาการคร่าวๆให้พี่หมอเจ๊ฟัง

พอได้จังหวะก้นก็โดนเข็มฉีดยาไป 2ฉึกต่างกรรมต่างวาระ

รู้สีกว่าอาการสั่นคลอนของอวัยวะภายในค่อยยังชั่วขึ้น

ขณะเดียวกันผมก็ไม่ลืมวิธีธรรมชาติบำบัด

มาน่านเที่ยวนี้ขนมะกรูดมาด้วยถึงใหญ่

แบ่งเอาน้ำมันมะพร้าวมากลั้วคอด้วย1ขวด

เตรียมเสื้อยืดเสื้อกันหนามายังกะจะไปเที่ยวไซบีเรียน

เสียงกัปตันประกาศก่อนลงเครื่องที่น่าน..

อุณหภูมิที่สนามบิน 30 องศา

โอ้..แม่เจ้า ..แม้แต่อากาศก็สุดโต้งไปด้วยรึนี่

กลับมานอนสะงึมสะงำที่บางกอก 2 คืน อาการก็เรื่อยๆมาเรียงๆ นั่งเขียนหนังสือ..ไอไปครั้นเนื้อครั้นตัวไป เหนื่อยก็นอน นึกว่าร่างกายมันคงจะปรับสมดุลดีขึ้น แต่ก็เปล่า! ..บางกอกก็ร้อนเป็นบ้า ไม่เหมือนอยู่สวนป่า ป๋ารายงานทุกวันว่าอุณหภูมิ22-24องศา แถมมีหมอกบางๆเย็นๆกำลังดี  ดัชนีชี้วัดว่า อีสานอากาศจะน่าอยู่อาศัยมากขึ้น ภาคเหนือและภาคกลางกำลังเป็นแดนหฤโหดต่อไป ดีไม่ดีอาจจะหนักขึ้นๆ

ปีนี้จะมีฤดูหนาวกันไหมละเนี้ย

จุดเล็กๆที่เปลี่ยนแปลงนี่แหละจะแสดงผลในเร็วๆนี้ ต้นไม้ใบหญ้าเริ่มปรับหน่วยความจำกันแล้ว จะตั้งรับความแห้งแล้งอย่างไร มนุษย์เราเองก็จ้าละหวั่น บางจังหวัดเริ่มประกาศเขตภัยแล้ง ทั้งๆที่ฝนยังไม่สะเด็ดดี น้ำแทบทุกเขื่อนลดลงกว่าปกติ จนทางการประกาศห้าม! ทำข้าวนาปรังอย่างเด็ดขาด พวกปลูกยางพาราก็นอนก่ายหน้าผาก ความแห้งแล้งไม่เข้าใครออกใคร

แม้แต่ความแห้งแล้งน้ำใจก็เถอะ

ปัญหาที่ก่อหวอดเหล่านี้เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ที่ไม่ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติ แต่ละคนเกิดมาทำลายความผิดปกติสุขของโลก ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ตัวชุดความรู้ที่จะอยู่อาศัยในโลกนี้อย่างพอเหมาะพอควรยังไม่มีไม่เกิดเป็นระบบ เล่นแร่แปรธาตุลูบหน้าปะจมูก ไปตามพลังของกิเลศ

ความต้องการสนองกิเลศ..จะให้แถกแถแก้ตัวยังไงก็ได้

อยากจะบอกนิสิตจุฬาฯ-น่าน เพิ่มเติมว่า

เดี๋ยวนี้มนุษย์เริ่มหวนกลับมามองธรรมชาติมากขึ้นแล้ว  ทุกคนโหยหา ..ต้องการไปพักผ่อนตามเมืองท่องเที่ยว บ้างก็สนใจเรื่องการดูแลสุขภาพร่างกายในแนวธรรมชาติบำบัด ซึ่งเริ่มออกอาการเชิงรุกมากขึ้น เพราะมีข้อยืนยันว่าธรรมชาติบำบัดนั้น ถ้าใส่ใจสนใจตั้งใจปฏิบัติกันอย่างจริงจัง ภายใน4เดือน สุขภาพร่างกายดีขึ้นโรคร้ายต่างๆค่อยลดลงจนหายเป็นปกติ โรคอ้วน เบาหวาน ความดัน ไขมัน ภูมิแพ้ แม้แต่มะเร็ง

· ถ้าเราปรับสภาพการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ

· ทุกอย่างดำเนินไปตามครรลองของธรรมชาติ

· เมื่อไม่ฝืนไม่ปีนเกลียวกับธรรมชาติ

· อะไรๆก็เป็นไปตามธรรมชาติ

· ธรรมชาติจะเป็นโอสถที่เยี่ยวยาโรคให้แกเราอย่างน่าอัศจารรย์

· หมอทีมีอยู่ในธรรมชาติดีไม่แพ้หมอในโรงพยาบาลหรอกนะครับ

· แทนที่จะป่วยตาย ก็แก่ตายตามอายุไขธรรมชาติของสังขาร

มานอนแม็บอยู่บางกอกเที่ยวนี้ โชคดีที่ได้อ่านหนังสือเรื่อง “ปฏิวัติชีวิต ปฏิวัติสุขภาพ”ขอบคุณพี่เล็กมากที่กรุณาไปซื้อหามากฝาก นับเป็นของฝากที่ถูกใจที่สุดโลก เพราะเราไม่ได้อ่านเล่นๆแบบรู้ไว้ใช่ว่า แต่จะอ่านเอาประโยชน์ไปทำประโยชน์ให้กับตนเอง เขียนโดย นายแพทย์บุณชัย อิศราพิสิษฐ์ ผู้ปฏิวัติชีวิตพิชิตโรคด้วยธรรมชาติบำบัดให้ตนเองจนเห็นผลจะแจ้ง ..พิชิตโรคร้าย..โดยไม่ใช้ยา ผู้ป่วยหายจาก6โรคร้ายด้วยวิธีปฏิรูปจิต เพื่อปฏิรูปกาย

โรคตุ้ยนุ้ย ไขมันสูง ความดัน เบาหวาน ภูมิแพ้ มะเร็ง

พบทางออกที่ทุกคนสามารถช่วยเหลือตนเองได้

ในกลุ่มของชาวเฮก็กำลังสนใจเรื่องสะสางสังขารปัญหาภายในกายาตนเอง บางคนตั้งใจสวนก้นจนลำไส้สะอาดเอี่ยม บางคนก็ฟิตออกกำลังกาย ขนรถจักรยานจากบางกอกไปปั้นออกกำลังกายกันแล้ว บางคนก็สนใจเรื่องเมนูอาหารสุขภาพ นอกน้ำคลอโรฟิลเริ่มปั่นกันมาชื่นชิมทุกเช้าแล้ว น้ำผลไม้ได้รับการค้นสูตรจนอร่อยถูกใจ-น้ำเสาวรส –น้ำมะขาม -น้ำตะไคร้ -น้ำใบเตย -น้ำดอกอัญชัน -น้ำมะตูม -น้ำมะยม -น้ำมะสัง -น้ำมะตูม -แม้แต่น้ำมะพร้าวอ่อน เราก็รับประทานกันวันละลูกตอนบ่ายๆ การบริโภคผักอินทรีย์ แม่ครัวหัวป่าส์กำลังปรุงหลากหลายรูปแบบ น้ำซุปผักเริ่มโดนใจมากแล้ว ส้มตำมะละกอใส่ตะไคร้หันฝอยก็ได้รสชาติอีกแบบ น้ำพริกต่างๆ ผักดิบผักสดผักต้มผักยำ..สารพัดเมนูกำลังเรียงล่ายส่าย

วันที่ 9-11 เราจะพิสูจน์กันให้สะเทือนสะท้านไปทั้งป่า อิ อิ..

ดอกแค ดอกมะรุม ดอกสะดา บานสะพรั่งเต็มต้น

คนชนบทไม่ได้กินอดกินอยากอะไรเลย

เพียงแต่เรียนรู้คุณค่าของวิธีกินเพื่อบำบัดโรคให้อร่อยก็บรรเจิด

อย่าไปเดินตามก้นคนกรุงที่ประพฤติตนสุ่มเสี่ยงไปด้วยค่านิยมบ้าๆบอๆ

กลับบ้านเราเถอะลูก

นอกจากรักรออยู่แล้ว

อาหาร อากาศ อารมณ์ อนามัย อนาคต มีพร้อมมูล

มาใช้ชีวิต  ให้เหมือนกับการไปปิกนิกทั้งปี

แถมยังกินฟรีอยู่ฟรีกับธรรมชาติด้วยนะ

คิ ด ดู ใ ห้ ถ่ อ ง แท้ เ ถิ ด

เกิดในชนบทแต่ไปหลงแสงสีบางกอก ก็บ้าแล้ว

สภาพสังคมห่วยแตกยังงั้นยังเห็นดีเห็นงามไปได้ลงคอรึเธอ

เอาไว้นิสิตจุฬา-น่าน มาที่สวนป่า

หลังจากมาอยู่กินนอนที่มหาชีวาลัยอีสาน 2 คืน

จะจัดให้โต้วาทีหัวข้อ..”อยู่บางกอกดีกว่าบ้านนอกตรงไหน?”

ข อ ใ ห้ เ ต รี ย ม จั ด ตั้ ง ฝ่ า ย เ ส น อ   ฝ่ า ย ค้ า น ไ ว้ เ ล ย

หาข้อมูลกันแต่เนิ่นๆ ..ต ก ล ง ต า ม นี้ ดี ไ ห ม ?

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ทั้ ง ห ล า ย

อิ อิ ..



Main: 0.54227304458618 sec
Sidebar: 0.064075946807861 sec