เมื่อไม่สอนวิชาเอื้ออาทร
นึกไม่ออก ว่าเราจะป้องกันน้ำไม่ให้เข้าพื้นที่ในวงกว้างทั้งเมืองได้จริงหรือ
ผมเคยป้องกันน้ำในพื้นที่แคบๆก็แทบแย่
นี่จะป้องกันทั้งจังหวัดในสภาพที่ไม่พร้อมสักอย่าง เจ้าประคุณเอ๋ย
ตัวปัญหาใหญ่คือปริมาณน้ำที่มากและรุนแรงเหมือนเขื่อนแตก
น้ำกี่ล้านลูกบาศก์เมตรหนุนเนื่องกันมาไม่ขาดสาย
ฝนก็ตกผสมโรงอยู่เรื่อยๆ
กำแพงรั่วจุดโน้นพังจุดนี้
สุดท้ายน้ำก็บ่ายหน้าลงทะเล
พื้นที่จุดหมายปลายทางย่อมอ่วมสาหัส
เพราะเป็นจุดรวมศูนย์ของน้ำทุกสาย
หน่วยงานฯต้องตัดน้ำประปาตัดไฟฟ้า
ชาวประชานมุษย์น้ำก็เครียดๆๆๆ
เข็นรถบรรทุกมาปิดถนน
เรียกร้องความสนใจ
ไม่มีใครมาดูแลมาช่วยเราเลย มีคนติดอยู่เป็นพันๆคน
ชาวบ้านมารื้อถุงทรายไปใช้ส่วนตัว
พวกเรือแจวทำลายเขื่อนดินเพื่อนำเรือไปรับจ้าง
โจรขะโมยรบกวนทั้งคืน
เราจะเห็นภาพเชิงบวกและเชิงลบไปพร้อมกัน
จังหวัดหนองคายทรายเยอะ
ผู้ว่าราชการจังหวัด>>ให้ช่วยกันบรรจุทรายใส่ถุงขึ้นรถไฟไปลงที่สระบุรี
น้ำใจหนอน้ำใจ
งานนี้มีทั้งคนอดทนอย่างสุดแสน และคนที่ความอดกลั้นสลาย
อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป
ในเมื่อคนไทยขาดมิติทางสังคม
ไม่มีใครเห็นใจใครเหมือนคนญี่ปุ่น
แม้จะประสบชะตากรรมเลวร้ายอย่างไรหัวใจก็ไม่แคลนคลอน
มองเห็นมนุษย์ทุกผู้ทุกนามเป็นเพื่อนร่วมโลก
ยากลำบากก็ทนยากด้วยกัน สุขก็รับสุขด้วยกัน
สังคมที่ไม่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมันก็จะออกอาการอย่างนี้ละครับ
โรคทางสังคม..ใครจะรักษา
Next : ตำนานแม่น้ำตำตาตำใจ » »
ความคิดเห็นสำหรับ "เมื่อไม่สอนวิชาเอื้ออาทร"