จะไปหาหมอหรือจะไปหาครู
ผมมีเรื่องละล้าละลังตั้งแต่ออกจากบ้านมาบางกอกแล้วละครับ ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปประชุมกับหน่วยงานไหนดี ที่บังเอิญมานัดประชุมในเวลาเดียวกัน “ด่วนที่สุด” เป็นหัวจดหมายที่ประทับกำชับมา แต่จดหมายเดินทางมาถึงไม่พร้อมกัน ผู้ประสานงานโทรมาถามว่า “มาร่วมประชุมได้ไหมคะ” เราเว้นวรรคเรื่องอื่นอยู่แล้วก็ตอบไปว่า “ไปได้” รับปากแล้วก็มีเหตุทำให้ไปไม่ได้นี่แหละปวดศรีษะที่สุด งานแรกว่าด้วยเรื่องคณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ
คณะกรรมการฯทำหน้าที่ให้ข้อเสนอแนะในระดับนโยบาย เกี่ยวกับกำลังคนด้านสุขภาพในภาพรวมของประเทศ รวมทั้งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนและผลักดันการดำเนินงาน ตามแผนยุทธศาสตร์ทศวรรษกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งได้มีการประชุมคณะกรรมการฯมาอย่างต่อเนื่องนั้น จึงกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการครั้งที่3/2554 ในวันที่ 26 กันยายน 2554 เวลา 13.30-16.30 น. ห้องประชุม 1 สถาบันวิจัยระบบสาธารณะสุข ชั้น 4 อาคารสุขภาพแห่งชาติ บริเวณกระทรวงสาธารณะสุข
หากท่านไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้
ขอความกรุณาโปรดมอบหมายผู้แทนระดับตัดสินใจได้เข้าประชุมแทน จะเป็นพระคุณ
ท่านที่รัก ถ้าพิจารณาใจความจะเห็นความเอาจริงของกรรมการคณะนี้ ว่าเขาทำงานกันแบบแข็งแรงแข็งขันขนาดไหน ผมเคยร่วมประชุมเมื่อครั้งยกร่างระบบปฏิรูปสุขภาพ ตั้งแต่ปีมะโว้โน่น คุณนายแพทย์ทั้งหลายประชุมกันหามรุ่งหามค่ำ เจอกันหลายเดือน เรื่องก็เลยติดสอยห้อยตามมาจนกระทั้งเดี๋ยวนี้ สิ่งที่ได้จากการประชุมคณะกรรมการฯแห่งนี้คือ เราจะได้เห็นบทบาทของผู้ที่วางแผนระดับนโยบาย ที่ทำการบ้านเชิงรุกอย่างหนักอย่างไร คำว่า “ผลักดันนโยบายยังน้อยไป” ทุกวิถีทางที่จะทำให้สิ่งที่ใคร่ครวญแล้วเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม นพ.มงคล ณ สงขลา นพ.สุวิทย์ วิบูลย์ผลประเสริฐ นพ.อำพล จินดาวัฒนะ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ นพ. พงษ์พิสุทธิ์ จงอุดมสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ฯลฯ ปักหลักลุยปัญหาระดับช้างอย่างทรหด
ผลงานที่เป็นรูปธรรมจึงเรียงล่ายซ่าย เช่น ระบบปะกันสุขภาพ การพัฒนาระบบบริการในโรงพยาบาลทั่วประเทศ รวมทั้งโครงการโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพที่เกิดขึ้นอย่างเร่งรุด อนึ่ง บุคลากรทางด้านสาธารณะสุขทุกระดับมีการขยับเขยื้อนเอาภาคสังคมมาร่วมเป็นเจ้าภาพได้อย่างน่าสนใจ อสม.ผู้นำชุมชน นักวิจัย นักพัฒนาสังคม ครู อาจารย์ เดินกันให้ควักในเวทีสัมมนาต่างๆ ทางด้าน สสส. เองก็เป็นพี่เลี้ยงได้อย่างนี้ ในการที่จะเอื้อให้กระบวนการทำงานในพื้นที่มีความคล่องตัวทำงานสะดวกขึ้น
ถ้าอ่านรายงานการประชุมของกระทรวงสาธารณสุข จะเห็นความแตกต่างจากการประชุมของที่อื่นๆ ตัวแทนหน่วยงานเข้าร่วมก็ธรรมดาที่ไหนเล่า ล้วนเป็นผู้ที่เจ้ากระทรวงฯที่เกี่ยวข้องส่งมือดีมาร่วม เนื้อหาที่นำเข้าสู่ที่ประชุมล้วนแต่มีความสำคัญยิ่งต่อความเป็นไปด้านสุขภาพของประเทศ คำว่า อนุญาตให้ส่งผู้ที่ตัดสินใจได้เข้าประชุมแทน ถ้าคิดให้ดีก็หนาวแล้วละครับ ถ้าไม่จำเป็นขนาดดิ้นปัดๆผมก็จะถ่อสังขารมาประชุมให้ได้ เคยส่งตัวแทนเข้าประชุม 2 ครั้ง โคตรเกรงใจเขาเลยละครับ
อีกรายการหนึ่งเป็นการนัดประชุม ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาวิจัยทรัพยากรการเกษตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เชิญประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานโครงการบัณทิตจิตอาสา ของหลักสูตรศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาบริหารจัดการทรัพยากรการเกษตร เรื่องนี้ผมเข้าไปร่วมตั้งแต่แรกเริ่มที่มีการคิดจะเปิดการศึกษารูปแบบใหม่ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อหล่อหลอมความคิดและทัศนคติชีวิตของนิสิตด้านจิตอาสา ในการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่นฐานเมื่อจบการศึกษาไปแล้ว ในภาคการศึกษาที่ 2/2554 นี้ จะมีนิสิตเดินทางไปศึกษาและใช้ชีวิตในศูนย์เรียนรู้ฯ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จังหวัดน่าน ทางสำนักงานฯจึงเห็นสมควรจัดประชุมหารือวิพุทธิยาจารย์อาสาในโครงการฯ เพื่อสรุปแนวทางในการดำเนินงานต่อไป
ในการนี้สำนักงานฯเรียนเชิญประชุมในวันจันทร์ที่ 19 หรือ วันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2554 เวลา 13.00-16.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานฯ ชั้น 12 อาคารวิทยกิตติ์ สยามสแควร์ มีหนังสือรายงานการประชุมย่อยมากระทุ้งให้เห็นว่าโครงการเดินหน้าเต็มลูกสูบด้วยนะ วันที่ 19 ผมติดรายการดูงานที่บ้าน ยังดีที่มีก๊อก2ให้มาติดตามความคืบหน้าวันนี้
ในการประชุมครั้งก่อน คณาจารย์มีความเห็นว่าควรจัดให้วิพุทธิยาจารย์ไปพบปะนิสิตยังศูนย์การเรียนรู้จังหวัดน่าน ครั้งละ 2 ท่าน ( ต่างสาขา) ทุก2-3สัปดาห์ โดยการพบปะแต่ละครั้งนิสิตจะเป็นผู้เลือกและกำกับหัวข้อการสนทนากับวิพุทธิยาจารย์อาสาตามความสนใจของนิสิตเอง ซึ่งวาระของการประชุมอาจเป็นช่วงเดือนมกราคม 2555 หลังงานกีฬามหาวิทยาลัยแห่งชาติ
ที่เขียนเล่าเป็นคุ้งเป็นแควไม่ได้โอ้อวดว่าไปยุ่งเกี่ยวกับพันธกิจของสถาบันใด แต่ให้เห็นความเป็นไปของงานเชิงโครงสร้างต่างๆที่ไปเกี่ยวข้อง เพื่อที่ญาติแซ่เฮจะเข้ามาแนะนำผมได้ หรือ อาสาไปประชุมแทนในยามขัดสนเวลา หรือ เข้าไปเป็นตัวแทนเสียเลย ยกตัวอย่าง เช่น รายการของกระทรวงสาธารณสุข ถ้าคุณหมอจอมป่วนเข้าไปเป็นตัวจริงจะสะท้อนงานด้านสาธารณะสุขได้อย่างปรุโปร่ง แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ งานสำคัญๆเชิงนโยบายเขามักจะเอาชาวบ้านไปห้อยไว้1คน ในฐานะตัวแทนภาคประชาชน หลายท่านจะได้หายสงสัยว่าทำไมหลายองค์กรลากผมเข้าไปร่วม ไม่มีอะไรหรอก..ไปเป็นเม็ดมะแข่วนในเครื่องลาบเพื่อให้มันครบสูตร นะครับ
อนึ่ง ผมกำลังมองหาแซ่เฮจิตอาสาไปประชุมแทน
ในเวลากระชั้นชิดนี่แหละ ทำไงได้
แถมยังเป็นวันราชการเสียด้วย
ท่านใดลงมาบางกอกช่วงนี้ยกมือขึ้น !
เท่าที่สัมผัสมา พอประมวลได้ว่างานด้านสาธารสุขนั้นเดินหน้าไปฉับๆแล้ว แต่งานด้านการศึกษานี่สิ อาการยังน่าเป็นห่วง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาคนใหม่ยังไม่ได้เรียกประชุมอะไร แต่มีข่าวว่ากำลังเดินหน้าหาประเด็นมาเปิดนโยบายเช่นกัน ดังที่เราอาจจะได้ข่าวเรื่องเอาแป๊ะเจี๊ยะออกมาวางบนโต๊ะ ทำเหมือนเอาหวยใต้ดินมาเป็นหวยออลไลน์ ที่น่าสนใจมีรายงานข่าวเรื่อง “สมัชชาหลักสูตร” ปลดแอกเด็กไทย
การศึกษาไทยใครไปใครมาก็ต้องรื้อๆ
ระบบมันไม่นิ่งสักที
เป็นรายการแก้ผ้าเอาหน้ารอดอยู่ประจำ
ถึงจะคิดดีทำดีอย่างไร อยู่ไม่นานก็เผ่น!ตามวาระเลือกตั้ง
คณะฯใหม่ๆเข้ามาก็อยากจะแก้ๆๆๆอะไรๆให้ดีขึ้น
แต่..แก้ผ้..า า ไม่ทันถูสบู่ ก็ไปเสียแล้ว
ท่านรัฐมนตรีแห่งเมืองแพร่ร่ายยาวว่า..การปรับหลักสูตรครั้งใหญ่คืองานแรกที่ผมต้องทำ และได้ลงมือแล้ว มีมหาวิทยาลัยแกนนำ อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มทร.ธัญบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ฯลฯ ในการระดมสมอง ผู้มีความรู้ความสามารถแต่ละสาขาอาชีพ ในพื้นที่ ในจังหวัด ในชุมชน ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของโรงเรียน เพื่อมาออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอน และเนื้อหาวิชาเรียนให้สอดรับต่อการนำไปพัฒนาศักยภาพของพื้นที่เป็นหลัก
ดังนั้น ความหลากหลายของหลักสูตร จึงขึ้นอยู่กับศักยภาพของพื้นที่ๆแตกต่างกัน แต่เด็กต้องได้เรียนในสิ่งที่ชอบ สาขาที่ใช่ เรียนจบแล้วมีงานทำ เพราะเป็นการบูรณาการหลักสูตรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อาจจะเรียกว่าสมัชาหลักสูตร เพราะวิชาไหนที่ไม่จำเป็น หรือเรียนแล้วไม่เกิดประโยชน์ก็ตัดทิ้งไป มุ่งสู่โลกไฮเทคเทคโนโลยีทางการศึกษามากขึ้น เพราะโลกอนาคตเราต้องเตรียมพร้อมคนไทยเข้าสู่ประชาคมอาเชียน ภาษาที่ 2 ภาษาที่ 3 มีควมจำเป็นที่ลูกหลานต้องได้เรียนแบบเข้มข้นมากขึ้น
“ผมไม่อยากเห็นภาพลูกหลานไปเรียนหนังสือมีความทุกข์อีกต่อไป เรียนกวดวิชาแทบเป็นแทบตาย สุดท้ายไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นหลักสูตรคือหัวใจสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง คุณภาพชีวิตเด็ก คุณภาพชีวิตครู คุณภาพชีวิตของพ่อแม่ต้องดีขึ้นเมื่อผู้เรียนได้เรียนสิ่งที่ชอบ เรียนจบแล้วมีงานทำ ตาม 5 สาขาหลัก คือ เกษตรกรรม พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และอาชีพเฉพาะทาง”
เมื่อยุทธศาสตร์ของรัฐบาลหลอมรวมกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการเสร็จแล้ว
จะทำความเข้าใจให้ตรงกันทั้ง 3 รัฐมนตรี
เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริง
แหม มาตกม้าตายอีตอนรัฐมนตรียังไม่ได้ทำความเข้าใจกันนี่แหละ
ทำได้ก็ดี อย่าให้เป็นเพียงลมปากเหมือนที่ผ่านๆมา
ก่อนออกจากบ้านมีอาการคร๊อกแคร๊ก
มาถึงบางกอกเป็นหวัดจนได้
ที่นัดไว้จะกินข้าวเย็นกับดร.นฤมลของจุฬาฯ
หรือนัดเจี๊ยะสะเต๊กของขาใหญ่กับแห้ว
ก็คงจะแห้ว
งานประชุมมูลนิธิสันติภาพโลกก็วืดหนึ่งไปรายการหนึ่ง
ถ้าแห้วอีกคงไม่กระไรนัก
อ ย า ก จ ะ พั ก ร บ ไ ม่ พ บ รั ก
ตะกี้หนูพิมพ์ผู้ช่วยอาจารย์นฤมล บรรจงจิตร โทรมาถามอ บอกว่าไปประชุมที่ไหนจะรอรับข้างล่าง หลังจากนั้นจะพาไปรับประทานอาหารจีนสักมื้อหนึ่ง น้ำใจนี่หนอ ..ขอเป็นว่าเจี๊ยะแบบเร็วๆแอร์ไม่เย็นมากน่าจะพอไหว มีเหตุให้ต้องใจอ่อนนะเธอ “ขี้เหร่เลือกได้เชียวนะงานนี้” อิ อิ ผมรู้จักอาจารย์มานาน ทำงานร่วมกันประชุมกันมาเป็นสิบปี ให้ไปช่วยสอน ป.โท ที่สถาบันวิจัยสังคมจุฬาฯก็หลายครั้ง ผมได้เรียนงานวิจัยจากที่นี่พอสมควร ทั้งในฐานะอีแอบ ผู้ร่วมวิจัย และ ผู้ ถู ก วิ จั ย
อาจารย์เกษียณปีนี้ ทราบว่าใครขอให้ต่ออายุงานอย่างไรก็ไม่เอาแล้ว ขอวางมือทำให้ชีวิตว่างจะได้พักผ่อนบ้าง ที่ผ่านมาตระเวณสอนตระเวณลุยพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรไทย เดือนนี้ก็จะจบอาชีพอาจารย์จุฬาฯแล้ว ที่สำคัญ อาจารย์ทำวิจัยทิ้งทวนเรื่องมหาชีวาลัยอีสานเป็นเรื่องสุดท้าย ศึกษาแบบกระเทาะเปลือกกระบวนการทำงานของสถานีเรียนรู้ภาคประชาชนที่ชื่อว่า กรมราษฎรส่งเสริม ส่งเสริมตรงไหน ส่งเสริมอย่างไร ผ ล ลั พ ธ์ ผ ล ล บ เ ป็ น อ ย่ า ง ไ ร ? อาจารย์จะถอดรหัสและลีลาของครูบา เรียกว่าเปลือยครูบาก็ได้กระมัง ภายในเดือนหน้าก็จะรวบรวมพิมพ์งานดังกล่าวนี้ให้เบ็ดเสร็จส่งมอบงาน
การพบกันในเย็นนี้จึงมีความหมาย
จะได้ขมวดงานดังกล่าวจนถึงหยดสุดท้าย
จะได้พบปะกันในวาระสุดท้าย
จะได้ขอบคุณอาจารย์และลูกศิษย์ที่ให้การสนับสนุนคนบ้านป่าด้วยดีเสมอมา
ด้วยเหตุนี้ รายการขาใหญ่ ขาเล็ก สมควรหลีกทางให้ใช่ไหมละครับ
รายการตกค้างยกยอดไปวันพรุ่งนี้
อยากจะเรียนต่อเรื่องโปรแกรมโทรศัพท์ และนั่งทำต้นฉบับ “โมเดลอีสาน”
ใครจะอาสาสอนคนขี้โรค เอามือลง อิ อิ
ความคิดเห็นสำหรับ "จะไปหาหมอหรือจะไปหาครู"