ทำไมไม่พูด
จากการเปลี่ยนฐานรัฐบาลใหม่ ทำให้หน่วยงาน/องค์กร/สถาบันต่างๆ ต้องเตรียมตัวต้อนรับผู้บังคัญบัญชากันจ้าละหวั่น แต่สำนักงานงานที่รวดเร็วปานกามนิตหนุ่มเห็นจะเป็นสภาการศึกษาแห่งชาติ ที่โทรฯไล่ก้นคณะกรรมการให้มาประชุมในวันนี้ สุดยอดไหมละครับ ประเด็นการประชุมมีเรื่องการรับรองเขตพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ที่เป็นประเด็นสำคัญให้แก่การนำเสนองานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษา มีคณะกรรมการหลายท่านช่วยกันออกความเห็นประมาณ1ชั่วโมงเศษ ก็ล้วนแต่เป็นข้อคิดข้อความห่วงใยหรือข้อเสนอแนะดีๆทั้งนั้นละครับ เท่าที่สังเกตุมีงานวิจัย-งานเชิงนโยบาย-งานพัฒนาการศึกษาดีๆทั้งนั้นละครับที่ออกจากห้องประชุมแเป็นต้องจัดให้เกิดการแข่งขัน สร้างแรงจูงใจ เพื่อนำไปสู่แรงบันดาลใจ
วันนี้มีข้อเสนอจากอาจารย์เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ จอมยุทธจากฮาวาร์ด เสนอว่าควรจัดวางระบบให้เกิดการแข่งขันกัน จะช่วยกระตุ้นการเรียนการสอน ท่านอาจารย์สุมนต์ อมรวิวัฒน์ บอกว่า สิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่นี้ ..”เหมือนเมฆที่ลอยบนฟ้า” ท่านอาจารย์สุมนต์ อมรวิวัฒน์ ให้ความเห็นว่า สิ่งดีๆที่ออกจากห้องนี้ควรมีการสังเคราะห์สงเคราะห์ในเรื่องสำคัญๆ มีผู้อภิปรายโยงไปถุงรัฐบาลใหม่จะแจกแท๊บแล๊ตให้นักเรียนประถมทั่วประเทศ หลายคนยังสงสัยการบริหารจัดการ การนิเทศน์ อย่างไร สรุปว่ายังไม่ทราบที่ไปที่มาแน่ชัด ว่าการแจกแบบทะลุกลางป้องนี้มีประโยชน์ต่อการศึกษาคุ้มค่ากับงบประมาณหรือไม่
มีผู้ทรงคุณวุฒิบางท่านเล่าเรื่องการศึกษาของประเทศต่างๆ สิงคโปร์เขายอมให้เด็กๆเอาหนังสือสูตรต่างๆเข้าไปในห้องสอบด้วย เพราะในชีวิตจริงคงไม่มีใครห้ามดูตำรา บ้างก็บอกว่า เรียนในไทยได้ความรู้ เรียนที่มาเลเซียได้ใช้ความรู้ มีผลประเมินออกมาแล้วว่า ห้องเรียนที่มีคอมพิวเตอร์เต็มห้อง บางทีก็สอบแพ้ห้องเรียนที่มีคอมพิวเตอร์ตามความจำเป็น อุปกรณ์ไม่ใช่จะเป็นตัวชี้วัดเสมอไป
เราผลิตนักศึกษาให้เข้าเมือง-รับใช้โรงงาน
ส่วนกลางไปโลดแต่ชนบทขาดแคลนแรงงาน
ชุมชนชนบทจะเข้มแข็งได้อย่างไร
ถ้าระบบการศึกษาดึงคนออกไปจากท้องถิ่น
คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภาการศึกษานั้นประกอบด้วยท่านผู้หลักผู้ใหญ่ที่คงแก่เรียน ผ่านงานบริหารระดับกรมระดับกระทรวงมาแล้วทั้งนั้น ถ้าเป็นผ้บริหารการศึกษาก็เป็นอธิการบดีมหาวิทาลัยต่างๆ เมื่อมีโอกาสสะท้อนความเห็นเธอเอ๋ย ความคิดความอ่านพรั่งพรูออกมายังกะทำนบแตก ยกมือกันเป็นฝักถั่ว ประธานก็จะจัดคิวให้โม้กันตามความประสงค์ ผมคนบ้านนอกจากไกลปืนเที่ยง ถ้าไม่เหลือดอดจริงๆก็จะไม่ชูจักกะแร้ขอพูด..ไม่อยากจะแย่งท่านผู้อาวุโสฉอดๆ ทั้งๆที่คันในหัวใจเหมือนกันนะเธอ
ตอนเลิกประชุม
อาจารย์สุมนต์ อมรวิวัฒน์ เดินมาบอกว่า
อยากฟังครูบาพูด แต่ก็ไม่พูดสักที
โธ่อาจารย์..คนแย่งกันพูดให้ขวัก
ถ้าผมจะพูดก็จะบอกว่า..
นโยบายดีๆ ความคิดดีๆ งานวิจัยดีๆ ข้อเสนอแนะดีๆ
ที่ส่งลงไปตูมๆๆๆ..ตอนแรกๆก็ดูตื่นเต้นขานรับกันดีอยู่หร๊อก
แต่..ภายหลัง มันมากเข้าๆกระชั้นถี่เข้า ..มันก็ฝือ
ทำไม่ทัน ทำไม่ได้ ติดขัดไปหมด
เพราะท่านที่สั่งไม่ได้คิดถึงความพร้อมความเหมาะสมที่ไม่เท่าเทียมกัน
ยาขนาดเดียว..รักษาคนป่วยทั่วประเทศ
สุดท้ายนโนบายที่สั่งๆๆส่งๆๆลงไป..ก็กลายเป็นกระสุนด้าน!
ส่งมาอะไรมาก็แบ่งๆให้ครูรับทำกันไปพอเป็นพิธี
ทำดี ทำไม่ดี ก็แค่นั้น ได้เงินเดือนเท่ากัน
ขยัน เฉื่อยแฉะ เฉื่อยเฉย ซึมกระทือก็เงินเดินเท่าเดิม
ประเด็น..นโยบายพลาสติกนี่..หอคอยงาช้างไม่ค่อยคิดคำนึงกัน
ประสิทธิผลทางการศึกษามันจึงหาความก้าวหน้ายาก
และยังหา..เจ้าภาพรับผิดชอบไม่ได้
เอาไว้มีรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาคนใหม่
ค่อยเสนอใหม่ ..จะใส่ตระกร้าล้างน้ำ
หรือจะเอาเหล้าเก่ากรอกขวดใหม่ก็ทำได้ทั้งนั้นละครับ
อิ อิ..
Next : แผนผังวิถีชีวิตเกษตรกร » »
1 ความคิดเห็น
พูดเรื่องนี้ทีไรกลุ้ม ทหารปฏิวัติมันเลยดีกว่า แล้วยกให้ผมเป็นรมว ศึกษา หิหิ
ปัญหาเร่งด่วนที่สุด ฝากครูบาคือ ต้องเลิก การเรียนแบบ “ใบงาน” ทันที ไม่งั้นประเทศล่มแน่
สอง ต้องลดปริมาณการเรียนลง สองเท่า ในเร็ววัน