เสียงสวรรค์
อ่าน: 1220เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการหาเสียงหรอกนะครับ ประชาชนเดินดินอย่างเราๆไม่รู้จะเอาเสียงไปทำอะไร แต่ที่เขียนๆอะไรเรื่อยเปื่อยมานี้ ก็มีเสียงคอยท้วงติงอยู่บ้าง ซึ่งผมถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ผู้เขียนก็ใช่ว่าจะเขียนอะไรได้ถูกต้องไปเสียทั้งหมด ก็มีบ้างที่จะตกๆหล่นๆหรือข้อมูลไม่เต็มยังคลาดเคลื่อน คนเราย่อมผิดได้พลาดได้โดยไม่เจตนา ถ้ามีเมตตาให้กันอย่างนี้ ผู้เขียนผู้อ่านก็จะอยู่กันอย่างเอื้ออาทร มีบางจังหวะที่บล็อกเงียบเหงา ผมก็เขียนเรื่องเล่าให้หมั้นไส้บ้างนิดๆหน่อยๆ เหมือนเกาหัวใจเล่นยามว่าง ถือว่าเดินอยู่สายกลาง ตึงเกินไปก็ไม่ดี หย่อนมากไปก็ไม่ไหว เอาพอท้วมๆหอมปากหอมคอ อิ อิ
วันนี้จะข้ามไปลาว ผู้ประสานงานบอกว่าลาวจะมีการเลือกตั้ง ถ้าจะข้ามไปต้องทำพาสปอตส์เต็มรูปแบบ ถ้าใช้บัตรผ่านแดนแบบชั่วคราวก็พอไหว แต่ข้ามไปแล้วก็ไม่สะดวกอยู่ดี จึงหาเรื่องไปดูงานในเขต2-3จังหวัดรอบๆนครพนม ได้มีโอกาสฟังนักธุระกิจเขาคุยกันเรื่องอนาคตของผู้ประกอบการระหว่างสองฝั่งโขง แนวโน้มมันจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เรารับฟังไว้เพื่อนำเอาไปเปรียบเทียบกับนโยบายที่มีผู้ร่างเสนอหลายฉบับ ถ้าดูหลักกิโลเมตร จะเห็นว่าระยะทางจากนครพนมไปเวียดนามๅ145 ก.ม. ถ้าต่อไปถึงจีน831 ก.ม. ถ้าการคมมาคมสะดวก ไปเยี่ยมแม่ยายที่อยู่เวียดนามไปเช้าเย็นกลับยังได้เลย หรือจะไปเที่ยวประเทศจีนบึ่งวันเดียวก็ถึงแล้ว โลกแคบเข้าทุกที คนยุคใหม่จะต้องเตรียมรับกับความเปลี่ยนแปลง ไม่แน่หรอกนะ ลูกศิษย์อุ้ยอาจจะข้ามฟากจากจีนมาเรียนที่เชียงใหม่ก็ได้ เรื่องนี้ต้องอ่านผู้สันทัดกรณีในการบุกเบิกลาว อาว์เปลี่ยนหรือท่านบางทรายได้เล่ายั่วเรามาเป็นระยะๆอยู่แล้ว
มีคนเล่าว่า
ถนนมาที่ดินแพง
ถนน2เลนผ่านก็ราคาหนึ่ง
ถ้าถนน4เลนตัดผ่านก็ราคาหนึ่ง
ชาวบ้านที่ขายที่ดินจะรู้ถึงกติกานี้ไหมนะ
ตอนนี้มีผู้เปรียบเทียบระหว่างการพำนักอยู่ในบางกอกกับต่างจังหวัด ทุกสถานที่ย่อมมีข้อดีข้อเสีย แต่ต่างจังหวัดทุกวันนี้ไม่ได้ด้อยกว่าเมืองหลวงสักเท่าไหร่ เชียงใหม่ หาดใหญ่ พิษณุโลก ภูเก็ต ขอนแก่น อุดร พัธยา เริ่มอีนุงตุงนังใกล้เคียงกับบางกอกเข้าทุกที ถ้าต้องการปลีกวิเวกจริงๆต้องใส่เกียร์ถอยไปอยู่ในหมู่บ้าน ในสวนป่า อาจจะพอปะทะปะทังโรคแต๋วแตกได้บ้าง ชนบทวันนี้ น้ำไหล ไฟสว่าง หนทางดี มีอินเตอร์เน็ท ช่วงนี้ราคาน้ำมันยังพอทนที่จะด้นด้นไปมาหาสู่กันได้ ต่อๆไปราคาน้ำมันกระฉูด อาจจะต้องหยอดกระปุกสะสมค่าน้ำมันแทนค่าขนมก็เป็นได้ แต่ก็ยังมีทางเลือก รถทัวร์พัฒนาการขึ้นเยอะ
ที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องแฟชั่น
เดี๋ยวนี้หนูบ้านนาใส่ขาสั้นกันเกร่อ
ทั้งๆที่ยุงกัดขาจนลายพร้อย
ก็สู้ทนเพราะนึกว่าจะสวย
แ ค่ นึ ก นี่ น ะ ยั ง ท ร ม า น ถึ ง เ พี ย ง นี้ . .
ที่สวนป่ามีความเป็นธรรมดาธรรมชาติหลงเหลืออยู่บ้าง
มีถนนดินให้เดินเล่นโดยไม่ต้องกลัวรถชนและควันท่อไอเสีย
มีสายลมและแดดอุ่นมาสัมผัสผิวผ่อง
มีนกเขาโก่งคอขัน บินมาหัวเราะ ร้องไห้ ร้องเพลง
มีตระกร้า มีดน้อย ให้ไปตัดผักมาทำกับข้าว
มีลูกวัวตัวจ้อยกับหมาน้อยมาเย้าหยอกสนุกสนาน
มีงานพัฒนาต้นเรื่องที่ยังค้างเติ่งให้เก็บไปคิดเป็นการบ้าน
สรุปว่า ชนบทมีสิ่งที่ในกรุงไม่มี ในกรุงมีสิ่งที่ชนบทไม่มี
สิ่งเหล่านี้ไม่รู้จะถ่างขาไปได้นานแค่ไหน
ในเมื่อความเสื่อมในนามของความเจริญรุกกระชั้นถี่..
ไม่ รู้ จ ะ ห ล บ ไ ป อ ยู่ เ งี ย บ ๆ ได้ที่ไหน
ที่อยู่ ที่ยึดมั่น ที่ดี ที่เหมาะ ที่สงบจิต
น อ ก จ า ก ใ น ห ลุ ม ..
Key word : “อารมณ์ดีหาได้ ถ้าใจไม่ตะบิดตะบอย”
3 ความคิดเห็น
ที่เมืองฝาหรั่ง บ่อยครั้ง ที่ถนนมาแล้วที่ดินราคาตกทันที โดยเฉพาะในย่านที่อยู่อาศัย พวกเขามักประท้วงการสร้างถนน มันทำให้หนวกหู วุ่นวาย และที่สำคัญบ้านราคาตก เวลาขายต่อก็ขาดทุน
อ่านแล้วนึกถึงคำปรารภของท่านผู้หนึ่งอายุมากแล้ว
ท่าน พูดว่า เมื่อก่อนดีใจที่บ้านใกล้วัด ไปทำบุญสะดวก สงบเงียบดี
แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกไม่น่าอยู่ใกล้วัดเลย หนวกหู
????
วัดไม่ใช่ที่ไปหาความสงบแล้ว วัดบ้านนอกกับในกรุงก็คงคล้ายกัน เก็บเงินทุกตารางนิ้ว
ไม่มีเงินเดินเข้าห้างยังพอได้แอร์เย็นฟรี เดินเข้าวัดไม่มีเงิน แม้แต่ที่นั่งฟรีๆยังไม่มี ตรงไหนก็มีกล่องบริจาค ตรงไหนก็ขึ้นป้ายให้จ่ายเงิน
แล้วจะให้คนบ้านนอกและในกรุงวิ่งเข้าหาอะไร ในยามร้อนรุ่ม???
ยามร้อนรุ่ม ให้เข้ามาลานปัญญา อ่านครูบาและคนถางทาง แล้วจะหายนะแม่อุ๊ย อิอิ
เห็นด้วยจริงๆ วันนี้ อยู่ใกล้วัดแล้วจะบ้า แม่มเปิดลำโพงเทศน์แต่ตีห้า สลับเพลงลูกทุ่ง (ด่าพระว่า “แม่ม” บาปขนาดไหนหนอ)