พยาบาลเต็มป่า
สงสัยดวงจะสมพงษ์กับพยาบาลหรือยังไงไม่รู้นะ
ในแต่ละปีจะมีพยาบาลทุกระดับมาให้รู้จัก
หรือไม่ก็ถูกเชิญไปโม้ ตามประสาคนขี้โม้ ..
บ่ายวันนี้มีรถบัสสูงยังกะตึก3ชั้น ไล่กันมา3คัน ขนนักศึกษาพยาบาลมาเต็มรถ ตั้งอาจารย์และลูกศิษย์130กว่าชีวิต ลงรถมายุบยับเต็มลานบ้าน ทะยอยเข้าไปนั่งแน่นเต็มพื้นที่ด้านล่าง คนร้อยเศษทำไมมากมายอย่างนี้ อาจารย์เล่าว่านัดเด็กเตรียมตัวตั้งแต่ตี4 กว่าล้อจะเคลื่อนก็ตี5 แวะโน่นนี้ดูงานไปหลายที กะมาจอดนอนที่สถานีสวนป่า มาถึงก็ออกอาการระโหยโรยแรง เพราะอาจารย์พาลุยเหลือเกิน เด็กยุคนี้ไม่ค่อยมีน้ำอดน้ำทน หรือเป็น ท.ทหารอดทน เหมือนรุ่นอาจารย์หรอกนะ ต้องประคับประคองพอสมควร อนึ่งยังอยู่ในปี1หมาดๆ..
ผมกล่าวต้อนรับ โม้โน่นนี้ให้ฟังนิดหน่อยก็ปล่อยให้แยกย้ายกันเข้าพัก
ระหว่างรอคิวเข้าห้องน้ำ
เด็กบางส่วนก็เดินชมโน่นชมนี่ถ่ายรูปกัน
ปล่อยให้มีช่วงเว้นวรรคสบายๆ
ตอนเย็นนัดกินข้าวกัน
ผมโชว์ไข่เจียวสมุนไพรให้ชิมสดๆร้อนๆ
อร่อยแค่ไหนก็ไม่รู้ มีบางกะทะไฟแรงไป ไข่สุกค่อนข้างไปทางจะไหม้ แต่เด็กในวัยกำลังกินกำลังนอน ยกอะไรมาก็เจี๊ยะพรึบ ผมมาร่วมวงโต๊ะอาจารย์ สอบถามเป้าประสงค์ ทราบว่าเป็นเด็กปี1จะขึ้นไป2 อบรมอยู่ที่วิทยาลัย 2 วัน กะออกเดินทางมาดูงาน2 วัน แล้วกลับไปสรุป เห็นเรียกว่า..ถอดบทเรียนหรืออย่างไรนี่แหละ อาจารย์ต้องการให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง แล้วนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ..โถๆๆๆ อุ้ยอยู่ไหนนนน ช่วยตีก้นที ..
อาจารย์บอกว่า..อยากให้เน้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง
แ ต่ ไ ม่ มี เ ว ล า ใ ห้ เ พี ย ง พ อ
ก็คงเอาเท่าที่ได้
พอเพียงแบบหอมปากหอมคอ
แล้วค่อยไปต่อไปเติมเอาในภายหลัง
พรุ่งนี้จะพาเดินอาบแดด ทราบว่ามีการแบ่งกล่ม 8 กลุ่ม อาจารย์แจกกระดาษให้เด็กสรุปความคิดเห็นตามข้อ1-2-3 นัดให้ส่งการบ้านพรุ่งนี้เช้า ต้องการให้ผมแนะนำอะไรๆส่งท้ายบ้าง ..ผมเห็นว่าบ้านเมืองเราพูดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงกันซ้ำชาก เด็กบางคนคงเบื่อที่จะฟัง ไม่รู้จะเอาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันกันอย่างไร ข้อสำคัญอยู่ตรงนี้ ส่วนมากจะมายกเรื่องการงานอาชีพเกษตรเป็นตัวขยายความนำเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งผมเห็นว่าไม่ถูกต้องนักหรอก อาชีพอะไรๆก็เอามาบริหารให้พอเพียงได้เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะความพอเพียงด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ
จึงตีแตก..ว่ามันเป็นเรื่องหลักการและกระบวนการนะเธอ
ไม่ได้เหมาโหลว่าถ้าจะมาดูเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง
ต้องเป็นเรื่องทำไร่ทำนาทำสวน
ต้องไปหาผู้นำชุมชน ไปคุยกับพ่อนั่นพ่อนี่
แ ม้ แ ต่ ส ว น ป่ า ก็ พ ล อ ย โ ด น ห า ง เ ล ข
โธ่ที่ไหนๆก็ควรทำเรื่องความพอเพียงรอบด้านทั้งนั้นแหละ
เรื่องธรรมดาๆแต่ทำไมทำให้มันซับซ้อนกันนักก็ไม่รู้นะ
ถ้าปฏิบัติศีล5 ได้
ก็พอเพียงได้มาตรฐานกลางแล้วละครับ
กำกับควบคุมกิเลศให้อยู่ในร่องในรอย
อย่าให้มันออกมาทำให้สังคมเดี้ยง
รักกันเอง รับผิดชอบตัวเอง ไม่ลอยเพสังคม
ไม่ดื้อตาใส เอาเบื้องต้นแค่นี้ก่อน อิ
วันนี้เด็กๆแบ่งกลุ่มนำเสนอ 7 กลุ่ม
แต่ละทีมทำหน้าที่ได้ดีมาก
ผมเอาหนังสือครูปูก๊ากกกส์ แจกให้เป็นรางวัลคนเก่ง
เอาเจ้าเป็นไผแจกให้อาจารย์ 2 เล่น
ตอนนี้นักศึกษาพยาบาลราชชนนีขอนแก่นเดินทางกลับไปแล้วครับ
พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ อิ อิ
อิ อิ..
« « Prev : ความรู้ความรักในป่า
Next : ฃวด ใครคิดว่าไม่สำคัญ » »
2 ความคิดเห็น
ตอนเป็นเด็กๆ ป้าหวานมักมีเป้าหมายในใจและไม่ค่อยเข้าใจ คำสอนของผู้ใหญ่อย่างลึกซึ้ง ยังไม่สามารถประมวลถึงการตึความที่กว้างไกลได้ คงเรียกว่าไม่มีสายตา X ray ไม่มีสติและสมาธิที่จะทะลุทะลวงคำสอนได้มากพอ ดื้อตาตี่อยู่ไม่น้อย
มาวันนี้ ป้าหวานมองว่า ผู้ใหญ่อาจไม่ได้สังเกตเด็กให้ดีเสียก่อนที่จะให้ ความปรารถนาดี ความรู้ดีๆ จึงไม่ถึงใจ เด็ก และเด็กๆส่วนใหญ่มักจะรับฟังเหมือนซึมซับ แต่จริงๆไม่แน่นักว่ารับหรือเพียงแต่ฟังผ่านไป
การใช้เวลากับเด็กตั้งแต่แรกพบจึงน่าจะเป็นการแทรกตัวเข้าไปในความเป็นเขาและเธอ หาช่องทางที่จะเป็นพวกเดียวกันให้ได้ก่อน จนกว่าจะได้ความยอมรับจากเพื่อนใหม่ หลังจากนั้น เพื่อนย่อมคุยกับเพื่อนได้ และเพื่อนย่อมแนะนำเพื่อนได้ สิ่งสำคัญคือประโยคที่พ่อครูว่า มันเป็นเรื่องหลักการและกระบวนการนะเธอ โดยเฉพาะความพอเพียงด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ อะไรๆก็เป็นได้ เราเอาสิ่งเหล่านั้น ผลหรืออะไรที่ได้เรียนรู้ มาทำมาปั้นแต่ง เป็นโจทย์ของเราและทุกๆคนทำได้ ไม่ต้องเท่ากัน ไม่ต้องเหมือนกันเพราะชีวิตคือการพัฒนา จะทำอย่างไร ลงมือทำพร้อมๆกับตอบและตั้งคำถามไปเสมอ ๆ ตรวจแบบฝึกหัดเอง ให้คะแนนเอง ทำจิตใจให้เบิกบานกับชีวิต ไม่มีปัญหานอกจากเราเรียกมันว่าปัญหา
อิอิ ไม่ได้เป็นครูสักหน่อย ไม่รู้ไม่ชี้ ลูกศิษย์ใครหลงมาก็ตีหัวเข้าบ้านหน้าตาเฉย จาก คน น่อย..ธรรมดา ค่ะ
แหม ถ้าป้าหวานอยู๋ตรงนี้ จะเชิญให้พูดยังี้ๆๆๆแหละให้ลูกหลานฟัง
ชอบมาก ขอบอก
ไม่รู้หายเหนื่อยแล้วหรือยัง อิ