พูดเองเออเอง
อ่าน: 1306ตอน :: เงื่อนไขหรือเงื่อนงำ
ช่วงนี้มีข่าวให้สะดุ้งอยู่เรื่อยๆ ปุ๋ย-น้ำมัน-น้ำตาล-ไข่ไก่-ทำท่าจะแพงแซงคิวกันเป็นหางว่าว ผู้ประโคมเรื่องแจ้งว่า..ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ค่าการตลาดยังไม่จุใจ จำเป็นต้องขึ้นราคา ไม่งั้นบริษัทขาดทุน อิ..ขาดอะไรก็ไม่รู้นะ.. ขาดทุนกำไรหรือขาดทุนความละโมบ ลงทุนด้วยการเรียกร้องให้รัฐบาลชดเชยมันสะดวกจะตาย ..คนไทยอกอีแป้นแตกไม่รู้ครั้งที่ร้อยที่พันแล้วนะเธอ
นายทุนขาดทุนไม่ได้ เสียชื่อป่นปี้
รัฐบาลต้องชดใช้ ชดเชย กำไร กำเริบ กำขี้ ดีกว่ากำตด
วางแผนสร้างเงื่อนไขแย่รังแตน..แสนสบาย
ปั่นเรื่องนิดหน่อยแต่ได้กำรี้กำไรเป็นกอบเป็นกำ
สังคมมนุษย์บนฐานปลาใหญ่กินปลาเล็ก เขาล่อกันยังงี้แหละ
สร้างสถานการณ์สร้างภาพให้ดูน่าพรั่นพรึง แล้วก็ซูเอี๊ยรับเน๊าะๆ
ข้อเท็จจริง จะแค่ไหนอย่างไรยากที่ใครจะไปอาจเอื้อมล่วงรู้ได้
มืออาชีพด้านปั้นน้ำเป็นตัวลื่นยิ่งกว่าปลาไหลทาน้ำมันหมู
เมื่อเรายอมอยู่กับการข่มโคกินหญ้าเหี่ยวมันก็เป็นอย่างนี้ละพี่น้อง
มาดูพวกชาวไร่ชาวนาอย่างโก๋แก่บ้าง ทำมาหากินตัวเป็นเกลียว สุ่มเสี่ยงทุกย่างก้าว ยังมิวายถูกกระทำทุกอย่าง ขาดทุนมาก็รับสภาพหนี้อย่างไม่มีเงื่อนไข ต่อรองอะไรก็ไม่ได้ ไปกู้เงินมาแก้ปัญหาก็โดนอัตราดอกเบี้ยเถื่อนโขกจนงอมพระราม บ้างก็ถูกยึดโฉนดขายทอดตลาด บ้างก็ทิ้งที่ไร่ที่นาพากันดิ้นตายเอาดาบหน้า บ้างก็ไถลไปอยู่ในคุกตะราง ข้อหา โง่ เซ่อ ไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่พัฒนา ไม่ทำเศรษฐกิจพอเพียง ชีวิตจึงหม่นไหม้
ความสามัคคีในชาติเขากระทำกันเยี่ยงนี้หรือเธอ
ความรักชาติลับๆล่อๆเป็นอย่างนี้หรือเธอ
ความเป็นธรรมในสังคมอยู่ตรงไหนละเธอ
ใจคอจะแหกตาแหกอกกันอยู่อย่างนี้ละสิ
จะพัฒนาชาติโดยคนส่วนใหญ่ไส้เป็นน้ำเหลืองนะรึ
นั่งทับขี้ไปเรื่อยๆจนกว่าความยากจนจะเหม็นโฉ่
ถาม ยุบสภาแก้ปัญหาได้ไหม?
ตอบ ไม่รู้สิ ถ้ายุบกิเลศให้เบาบางไม่ได้ มันก็ไอ้แค่นั้นแหละต๋อย !
พูดไปทำไมมี
ปัญหามา ปัญญาเกิด จริงแค่ไหน
กว่าปัญญาจะมา ถั่วงาก็ไหม้ควันโขมง
พิจารณาดูบ่อเกิดแห่งปัญญาของผู้คนในชาตินี้สิ
เมื่อระบบการศึกษาชาติถูกคุมกำเนิด สติปัญญาก็สิ้นไร้ไม้ตอก ช่วยกันวิจารณ์ วิจัย วิเคราะห์ กะเทาะหน้าแว่นอย่างจริงจังทำเป็นไหม? คิดครึ่งเดียว ทำครึ่งเดียว ผลลัพธ์โหลๆมันออกมาก็อย่างนี้แหละ
เธอก็ดีแต่พูด ดีแต่กล่าวหา พูดเอามันส์
เธอทำอะไรบ้างละ
นั่นนะสิ ทำอะไรบ้าง
เออ ไม่ได้ทำอะไรจริงๆด้วย
แม้แต่อ่านบล็อก..ก็ขี้เกียจคอมเมนท์ เบื่อๆๆ..
รู้ไหม ?
รู้สิ ..การต่อยอดความรู้ความคิด มันก็จบ ก็จอด ด้วนๆห้วนๆนะสิ
แทนที่จะเป็นสังคมอุดมปัญญา ก็กลายเป็นอุดมปัญหา หาเหาใส่หัวทีละตัว ละตัว ละตัว ไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายนะหล่อน รู้หรอกน่าว่าเข้าร้านเสริมสวยเช้งอยู่เสมอ ตอนนี้ฝนตก โลกเริ่มเขียวสะพรั่งขึ้นมาแล้ว แต่..จิตใจคนต่างหากที่เหี่ยวเฉาเหมือนเอายางมะตอยร้อนๆราด
ใครหัวใจเหนียวหนึบ ยกมือขึ้น !
ไม่มีแฮะ ..
ทำไมรึ ..ขี้เกียจชูจักกะแร้ นะสิ
ไม่ ไม่ อะไรทั้งนั้น เซ็ง เซ็ง โว้ย! กวนใจอยู่ได้
เดี๋ยวก็ปั๊ด! บักหมอนี่ ..
ฉันอยากนั่งตาลอยเฉยๆมีอะไรรึเปล่า..
โรคสังคมเส็งเค็งอาการมันเป็นเช่นนี้เองละหนอ
จะตัวใครตัวมัน รึจะตัวมันตัวใคร
ยิ้ ม ที่ เ ค ย ใ ห้ ก อ ด ที่ มี สิ่งดีๆทั้งนั้น
มันน่าเสียดาย น่าเสียใจ อาลัยอาวรณ์
ยังไงๆ..ก็อย่าส่งแฟกซ์มาลาออกทางทีวีนะเธอ..
« « Prev : โอ้ยดีใจ โจ๊ะ พรึม พรึม..
Next : ลูกชายเลี้ยวป้ายนี้ » »
2 ความคิดเห็น
รีบคอมเมนท์ เพราะไปเจอประโยค “แม้แต่อ่านบล็อก..ก็ขี้เกียจคอมเมนท์ ” ความจริงไม่ได้ขี้เกียจ แต่อ่านแล้ว มันชอบทุกบล็อค จะชมกันบ่อยๆก็กระไรอยู่ ไม่เชื่อไปถามออตดูได้ค่ะ
ชมก็ได้ บ่ชมก็ได้ แต่..อยากได้ข้อเสนอแนะ คร๊าาาาาบ