วันที่ห้ามไปไหน
วันแห่งครอบครัวที่ผ่านมา คณะญาติโกโหติกาทั้งหลายนัดมาพบปะกันที่สวนป่า โฉมยงไปงานสงกรานต์ที่บ้านแม่ยาย ผมอยู่สวนคนเดียว..ตั้งใจจะเลี้ยงมะละกอ+น้ำมะตูมก็เตรียมไม่ทัน ..โทรปุ๊บจะมาปับ โธ่ ใครจะเตรียมตัวทัน ไหนๆก็ไหนๆแล้ว จะมาก็มา ขาดเหลืออะไรหากันเอาเองก็แล้วกัน กลุ่มที่มาวันนี้ส่วนใหญ่เป็นคณะครูที่สอบผ่านป.โท-มีครูมืออาชีพ-นักพัฒนาท้องถิ่นมือฉมัง และนักพัฒนาข้ามชาติ ก่อนจะกลับ เขาบอกว่า..ทุกวันที่ 14 เมษายน ห้ามไปไหน คณะนี้กำหนดเอาเป็นประเพณีชวนกันมารดน้ำดำหัวที่สวนป่า อันที่จริงเขาก็มากันประจำอย่างนี้ละครับ ปีนี้เกิดเฮี้ยนอะไรขึ้นมาไม่รู้ มาบล็อกวัน..ไม่ให้ไปหากิ๊กหรือไปที่อื่นไม่ว่ากรณีใดๆ โธ่ๆๆ…
ประมาณ10.00น.หน่วยสอดแนมมาถึง
เห็นว่าผมยังนุ่งโสร่งนั่งเขียนหนังสือเสบยๆ
ก็กุลีกุจอไปขนเก้าอี้เตรียมน้ำเตรียมท่าจัดสถานที่
(แขกต้องขนเก้าอี้มานั่งกันเอง)
มาที่นี่มันก็ประหลาดๆอย่างนี้ละครับ..ต้องการอย่างไร..จัดเองทำเอง เอาให้โดนใจยังไงก็แสดงสีมือเอง ไม่มีเจ้าภาพรับรอง ทุกคนมีส่วนร่วมกันแบบแท้ๆเพียวๆ ..ไม่นานนักก็โผล่มาที่ละราย บางคนเอาลูกหลานที่เพิ่งเรียนจบมาด้วย ไม่เจอกันนานหน้าตาเปลี่ยนจนจำไม่ได้ ระหว่างที่รอพวกทางไกล เราก็ล้อมวงสนทนาประสาคนกันเอง ผมได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับผู้นำสปท.ลาวเป็นอย่างมาก ยกข้อเปรียบเทียบเรื่องการกระจายอำนาจแล้ว พี่น้องลาวกินขาด การจัดการวางระบบได้ดีกว่าของเรามาก
(รายการอวดจมูกข้าวและข้าวหอมนิลอินทรีย์)
หลายคนกังวลเรื่องความเจ็บป่วยของผม คณะเอาของมาฝาก-ผ้าขาวม้า-เสื้อ-น้ำอบน้ำหอม-ดอกไม้-ข้าวหอมนิล-จมูกข้าว-มะม่วง-ปลาช่อนตัวเป็นๆ-ปลาย่าง-ไก่ย่างมาให้ด้วย-ยังมีกล้วยหอมเป็นหวี-และเอาหน่อกล้วยมาปลูกให้ด้วย หลังจากนั้นก็ทยอยรดน้ำ..ส่วนการให้พรก็เปลี่ยนเป็นการสนทนาทำ..ธรรมเนียมของที่นี้..คณะที่มาจะเล่าความคืบหน้า ใครไปทำอะไรๆดีๆก็เอามาโชว์มาบอกเล่าเป็นการประเมินผลงานในรอบปีแบบไทบ้าน
(ของฝากมีทั้งผลกล้วยหอมและหน่อกล้วย)
ในรอบนี้ผู้นำชุมชนระดับอ๋อง –ที่ทำเรื่องสกัดน้ำมันงา –ทำเรื่องผลิตพันธุ์ข้าวและบดจมูกข้าว –สนใจเรื่องการทำปุ๋ยนาโน -ทำเครื่องมือสีข้าว/รถต๊อกๆ/ฯลฯ ผมจึงชวนมาพบกับท่านจอหงวนในวันที่22-24ที่โคราชด้วย คาดว่าถ้าเขาได้เห็นสิ่งประดิษฐ์ที่ท่านจอหงวนรวบรวมไว้ น่าจะโดนตาโดนใจจนเอาไปสร้างขยายผลในชุมชนได้หลายเรื่อง
(เอามาแล้วก็ต้องปลูกให้ด้วยสิ)
เ ป็ น ก า ร เ อ า นั ก ป ฏิ บั ติ ท้ อ ง ถิ่ น
ม า เ จ อ นั ก วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ น า ซ่ า
ก รุ ข อ ง ท่ า น จ อ ห ง ว น จ ะ แ ต ก . . ก็ ค ร า ว นี้ ล ะ ค รั บ
(ไก่ย่างที่สนใจจะมาต่อยอดกับสูตรท่านจอหงวน)
ผมไปชมหลายที่..เรื่องการจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ภูมิปัญญาไทย
ส่วนมากก็เห็นคนเดินดูผ่านๆไปอย่างนั้นแหละ
ถ้าเติมอีกขั้นหนึ่ง..ดู แ ล้ ว ม า คิ ด ม า ทำ ต่ อ . . มันน่าจะดีไหมละครับ
ไม่อย่างนั้นชุดความรู้ภูมิปัญญาไทยมันก็ผุพังไปอย่างน่าเสียดาย
การพลิกฟื้นภูมิปัญญามันน่าจะเป็นโจทย์ที่มีการขานรับ
เอ้า! ใครจะรับจะขาน..ย ก มื อ ขึ้ น
เ อ า มื อ ล ง . . อิ อิ..
Next : 70% » »
5 ความคิดเห็น
สำหรับเครื่องอะไรทั้งหลายแหล่ของผม ไม่เคยเอาไปแสดงหรือประกวดอะไรกะใครเขาเลยครับบาท่าน แต่สำหรับคนที่ถูกใจ..แสดงให้เห็นแบบเดี่ยวๆ เสมอครับ
คนหลายคนเขาของบวิจัยกันทีละ 50 ล้าน ผลาญภาษีกันเข้าไป เสร็จแล้วเอาไปประกวด ได้ทั้งเงินและกล่อง แต่เอาไปทำอะไรไม่ได้ ขืนไปทำก็เจ๊งกันเป็นแถบๆ
เดือดร้อนเราที่มองเห็นปัญหา จนร้อนอาสน์..ต้องควักเงินส่วนตัวในกระเป๋าไป 5000 บาท เพื่อทำการสร้าง ทดลอง เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่ท่านใช้เงินภาษีไปทำ 50 ล้านนั้นมันใช้ไม่ได้ ขอประชาชนจงอย่าโง่ไปทำตามไอ้พวกนี้เชียวนะ
แต่หลายครั้งที่ผ่านมา..มันสายไปเสียแล้ว
ก็กำลังเรามีเท่านี้..ก็ทำแค่พอตัวแหละครับ คงดีกว่าไม่ทำอะไรเสียเลย
โรคจิตนิดๆแหละครับ สำเร็จความใคร่ทางวิญญาณก็ว่าได้ จากนั้นมาโอ่ว่า ข้าได้เสียสละปิดทองหลังพระแล้วนะ (โว้ย) อย่ามาด่าว่าคนเก่งกล้าอย่างข้าจะไม่ทำอะไรเสียเลย อิอิ
งานเฮ ชวนผู้นำชาวบ้านที่สนใจงานด้านนี้ ไปคุยกับอาจารย์ด้วย อิ
กราบขอสูมาคารวะ ผ่านเน็ตค่ะครูบา
:: ร้อนอย่างนี้หากมีอุ้ยยิ้มใกล้ๆ
เหมือนหัวใจแช่น้ำแข็งเลิกแห้งโหย
เย็นอารมณ์ดั่งลมมาโบกโชย
ขออุ้ยโปรยยิ้มมาหน่อยจะคอยเอย.
คิคิคิ…
ข่าวด่วนครับ ตอนนี้มีคนเอาเครื่องปิ้งไก่และสูตรหมักไก่ผมไปโรดโชว์ ชาวบ้านชอบใจอักโข เขาเลยเอาไปขยายสะเกน (scale) ให้ใหญ่ขึ้นเป็นเชิงพาณิชย์ไปแล้ว ผมว่าจะยกให้ฟรีๆ ไม่มีสิทธิบัตร (ขี้เกียจจดครับ เอาเวลามาเขียนลานปัญญาดีกว่า อิอิ)