O-NET ไม่ใช่โอยั๊วะ
อ่าน: 2086
มุมมองเรื่องการศึกษา ถ้าพิจารณาอย่างใคร่ครวญครอบคลุม เราถึงจะประเมินภาพรวมได้ใกล้เคียง โดยเอาลูกหลานไทยตาดำๆทั่วประเทศมาดูร่วมกัน ไม่ใช่เอาผลโรงเรียนใหญ่-ดี-เด่น-ดังมาเป็นตัวชูโรง แล้วทำเป็นไขสือกับโรงเรียนบ้านเต่าขาหัก ทั้งๆที่ผลการประเมินทั่วประเทศก็สอดส่องให้เห็นความจริงบางประการอยู่บ้างแล้ว ไม่ใช่เรื่องเรียนฟรี หรือเด็กต้องมีที่เรียนทุกคน ถ้าไม่พูดถึงแก่น ยกแต่กระพี้มาตีหน้าไซ ลูกหลานไทยก็ถูกลอยเพอยู่ดีนั่นแหละ อินางเอ๊ย!
(อาหารว่างเด็กในชนบท)
มติชนรายวัน : ฉบับ 20 มี.ค.2554 รายงานออกมาแล้ว อกอีแป้นเชียวละครับ.. ผลการสอบ O-NET ต่ำอย่างน่าใจหาย ป.6 ม.3 เด็กตกกราวรูดแทบทุกวิชา มีเด็กได้0คะแนนเป็นร้อยเป็นพัน ยกตัวอย่างวิชาภาษาไทย ชั้น ป.6 คะแนน0คะแนนถึง2,263คน ชั้นม.3ได้0คะแนนถึง505คน จากคะแนนเต็ม100คะแนน ป.6ได้คะแนนเฉลี่ยเพียง 31.22คะแนน ชั้นอื่นๆก็อาการน่าเป็นห่วงทั้งนั้น !
เกิดอะไรขึ้น !
เรื่องนี้มีเจ้าภาพร่วมรับผิดชอบหลายฝ่าย
ค รู เ ป็ น เ พี ย ง ก ร ะ โ ถ น ลำ ดั บ สุ ด ท้ า ย
ครูก็มีหัวจิตหัวใจเหมือนคนอื่นๆนั่นแหละเธอ
โดนกระทบกระแทกก็ย่อมกระเทือนเป็นธรรมดา
ที่จริงเรื่องเหล่านี้ล้วนน่าเห็นใจ
แต่..ไม่รู้จะทำยังไง ยังหาคำตอบไม่ได้
มีเสียงวิพากษ์..ครู ม อ ง ลู ก ศิ ษ ย์ เ ป็ น ลู ก ค้ า
เมื่อครูกลายสถานะจาก เ รื อ จ้ า ง เ ป็ น ลู ก จ้ า ง
คุณค่าของครูเลยเหลือแค่ ใ ห้ บ ริ ก า ร ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า
ไม่ใช่สร้างคนอีกต่อไป..
ครูดีมีทั่วแผ่นดิน
แต่พลังของครูนะสิครับต่อกันไม่ติด > >
เท่าที่ได้อ่านเรื่องของ แ ม่ ใ ห ญ่
หัวใจก็เบิกบานไสวๆไปถึงไหนๆ
ขอเป็นกำลังใจให้ครูหัวใจเสริมใยเหล็กทุกท่าน
เด็กบางคนโชคร้าย
แต่ผมโชคดีที่เจอครูดีๆเป็นกะตัก
ผมเป็นลูกศิษย์ที่รักและคิดถึงครูสม่ำเสมอ
นานแล้วที่ครูอึ่ง-ครูอุ้ย-ครูอาราม-ไม่เขียนบล็อก
ลู ก ศิ ษ ย์ เ ซ็ ง ทั้ ง วั น เ ล ย ล ะ ค รั บ ค รู
ชิ มิ ชิ มิ ..
« « Prev : ก้างคาคอ ค๊อกๆแค๊กๆ
8 ความคิดเห็น
ระยะนี้ยุ่งๆ กับการทำงานกับพวกหัวสี่เหลี่ยมที่อาจารย์วรภัทร เรียกค่ะ
และก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เจอแต่คนกินรังแตน สงสัยอากาศวิปริตมั้งคะ
ระยะนี้ได้ไปช่วยทำการประเมินตัวเองSAR ของหลายหลักสูตรที่ไปร่วมสอน เรียนรู้อย่างหนึ่งว่า นักการศึกษาที่เล่นกับเรื่องการประเมิน บางทีก็ไม่วิเคราะห์สิ่งที่จะประเมินก่อนค่ะ
อิอิ หัวเหลี่ยม หมุนออกง่ายกว่าหัวกลมๆๆ
ผมเคยไปประชุมแทนอธิการบดี ไปเป็น กก. ยกร่างนโยบายสอบ O A Net บ้าบออะไรนี่กะเขาด้วย จำได้ว่าผมลุกขึ้นประท้วงดังลั่นว่าไม่เห็นด้วย ขอกลับไปสอบไล่ครั้งเดียวแบบสมัยก่อน ตามมาด้วยบทความหลายบท
ครูไทยวันนี้ผมเห็นว่าไม่ต่างอะไรกับ”ตำขวด” คือครูดีก็มีแต่น้อยมาก ไม่น่าเกิน 10%
ผอ. ตีกอล์ฟ รองผอ. ก็ตี เพื่อหวังจะเป็น ผอ. ครูน้อยจำนวนมากก็ตีเพื่อหวังกระทบไหล่ผอ. ทั้งที่เป็นรร.บ้านนอก ต้องขับรถไปไกลเพื่อหาสนามกอล์ฟ
อธิการบดี ศาสตราจารย์ก็ตีกอล์ฟกันระนาว
หัวมันเน่า จะให้หางดีมันยากครับผมว่า
เมืองไทยเราวันนี้โดยเฉลี่ย ทหารฉลาด ครูโง่ ..เพราะวันนี้สอบเข้ารร.นายร้อย นายเรือ สมัครแสนเอาร้อย ส่วนครูสมัครร้อยเอาร้อย เราต้องทำให้เป็นตรงข้ามคือ ทหารโง่ ครูฉลาด
เพราะทหารฉลาดนั้นรบกิ่ครั้งก็แพ้ เพราะคนฉลาดมันมักกลัวตาย
ส่วนครูโง่นั้นก็ลองคิดดู นะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แหมความเห็นท่านจอหงวนร้อนฉ่า ขึ้นมาทันที
ทหารเพิ่งออกมาพูดจะไม่ปฏิวัติ
แต่ผมมองว่านี่แหละสัญญาณ ..
โจทย์ที่เสนอมา เรื่องทหาร กับ อาจารย์
เอายังงี้ดีไหมครับ?
จับ ค รู ม า แ ต่ ง ง า น กั บ ท ห าร
สัดส่วนออกมาอาจจะอยู่ตรงกลาง
ครูสาวๆแหล่มองทหารรูปหล่ออยู่แล้ว
คิคิ..
เรื่องปรากฎการณ์ในวงการศึกษา มันสะสมมานาน
แต่วิธีการแก้จะเอาแบบเร็วๆทันด่วน มันก็เลยสารพัดห่วย!
วิธิคิดผิด วิธีทำผิด ผลลัพธ์ออกมาก็ผิดๆ
โรคการศึกษาถึงขั้นต้องผ่าตัด
การเอายาแดง ยาเหลือง มาทา แก้บ่สำเร็จครับ
ท้ายที่สุดแล้ว..ผมคิดว่า ประชาชนคนไทยนี่แหละจะลุกมาบอกว่า
ไม่ไหวแล้วโว้ย ไอ้พวกบ้ากอล์ฟ
ไม่เอาแล้วโว้ยการจุ้นจ้านที่จัดโดยกระทรวงฯ
แล้วจะพากันหาทางสร้างระบบการศึกษาขึ้นมาใหม่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด
เช่น โรงเรียนเอกชนดีๆ อย่าง ฮักโฮม อย่าง มงคลวิทยา อย่าง ของแม่ใหญ่ อย่าง แห้ววิทยา
ระดับชุมชนก็จะพัฒนาขึ้นเป็นศูนย์เรียนรู้ วิทยาลัยบ้านนอก พัฒนาไต่ระดับไปเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนดีๆ เช่น มหาวิทยาลัยในต่างประเทศ การศึกษาในระบบก็คงถูลู่ถูกังไปสักพัก เมื่อเกิดวิกฤติศรัทธามากๆ คนก็เอาลูกหนีไปเรียนที่อื่น โรงเรียนที่นักเรียนน้อยก็ยุบเสีย เท่าที่ประชุมกับพวกนักการศึกษาก็ยังน่อมแหน้ม ไม่ปิดโรงเรียนขนาดเล็ก เพราะเข้าไม่ถึงแก่นของปัญหา ว่าทำไมชาวบ้านเขาถึงไม่เอาลูกเข้าเรียนทั้งๆที่โรงเรียนอยู่ในหมู่บ้าน มันห่วยจนรับไม่ได้ แต่รัฐฯก็ดื้อตาใสตามเคย
พูดไปก็กระเทือนทราง รอไม่นานหรอก การศึกษาจะล่มจมให้เห็น เด็กที่สอบเรียนอะไรไม่ได้นี่แหละ มันจะก่อหวอด ตอนนี้ก็ขายยาบ้า ติดยาบ้า ครึ่งหมู่บ้านแล้ว บางห้องเรียนเด็กติดยาครึ่งห้อง โรงเรียนยาบ้าวิทยากำลังขยายวิทยาเขต โรคทางสังคมบกพร่องนี่ร้ายนัก แต่หาคนใส่ใจได้น้อยเต็มที วิธีแก้ก็คือ ประชาชนจะต้องเข้ามาจัดการ-มามีส่วนร่วม-มากำกับโดยตรง-
ตอนนี้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เขาก็คิดตั้งโรงเรียนเอง บริหารเอง ที่ดีๆก็มีไม่น้อย จุดนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
อิ อิ
อาทิตย์ที่ผ่านมาตระเวณประชุมแต่เรื่องการศึกษา ที่ตอนขาไปก็อยากทราบแนวทางเพื่อหิ้วกลับมาปรับการปฏิบัติให้มันสอดรับปรากฎว่ากลับมาทีไรต้องหิ้วโอยั๊วะกลับมาทุกที เพราะแต่ละแนวคิดของพ่อเจ้าประคุณเขานะ วิธีคิด การอธิบายความ ความสมเหตุสมผล และความน่าเชื่อถือว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้ว เด็กจะเกิดพัฒนาการได้จริง หรือเปล่าล่ะเพ่?????
ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้กึ๋น สุดท้ายก็เป็นงานจำอวดอีกงานที่เหาะไปจัดประชุมกันในโรงแรมใหญ่โต มีของกินเสิร์ฟทุก 2 ชั่วโมง (อันนี้รำคาญมากจะกินอะไรกันนักกันหนา กำลังก็ไม่ได้ออก สมองยิ่งไม่ต้องพูดถึง งดกินเบรกกันทั่วประเทศแล้วเอาเงินไปช่วยน้ำท่วมดีไหม ค่าเบรกหัวละเป็นร้อยเน่อ โรงแรมหรู ๆ น่ะ)
แม้แต่ท่านผู้ทรงฯ เรื่องการประกันคุณภาพ แน้ จะมาวัดคุณภาพเขานะ แต่ดันหน้าแตกกลางที่ประชุมเพราะคำนวณเกณฑ์มาผิดทั้ง ๆ ที่กำลังขู่เขาฟ่อ ๆ ว่าให้เตรียมตัวนะ จะออกไปประเมินตะเองแล้วนะ เห็นบอกว่าประชาพิจารณ์มาหลายรอบแล้วด้วยนั่น ป่านนี้คงโกยเศษหน้าที่เหลือไปนั่งประเมินหน่วยงานตัวเองอยู่ล่ะม้าง
โอย ว่าจะไม่เซดแล้วเชียวนะ
ทำอะไรได้ก็จะทำค่ะ ไม่รอใครอะไรทั้งนั้น งานเราภารกิจที่มี ถ้ารู้แน่ชัดว่าทำอย่างไรจึงจะเกิดผลดี ก็ทำตามศักยภาพที่เราทำได้น่ะค่ะ ทำเลยไม่ต้องรอ ถ้าเราไม่ทำจะรอให้ใครมาทำ ใครจะรู้งานของเราดีไปกว่าเราอีกล่ะเนอะ ส่วนใครอยากจะมองจากมุมไหน จะวัดประเมินอะไรก็เอา
ไม่รู้ว่า่บ่นมากหรืออย่างไร เมื่อวานนั่งประชุมไป ตึกสั่นอยู่ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 วินาที - 1 นาที วิทยากรก็พยายามรักษาฟอร์มจนทนไม่ไหว ต้องประกาศแนะนำข้อควรปฎิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหวซะเลย แง่ว!
ขนาดฟ้าดินยังไม่เชื่อ สั่นเตือนแล้วนะ
ที่จริงน่าจะพังมาทับหัวพวกขี้โม้ไร้สาระบ้างท่าจะดี
ทะลึ่ง ไม่ประเมินตนเอง เสียก่อน ฟืดส์ๆๆๆๆ
ผลการสอบ O-net ปีนี้แปลกๆ ทีเดียวล่ะค่ะ ชั้น ป.6 มีเด็กเก่งที่ได้คะแนนภาษาอังกฤษ เป็น 0 ชนิดค้านสายตาบรรดาคุณครู เด็กที่ปกติคะแนนไม่ดีนัก กลับได้คะแนนสูงกว่า พยายามจะหาข้อมูลมาช่วยกันหาคำตอบของความผิดปกตินี้ แต่ก็ลำบากเพราะข้อสอบก็ไม่ได้ให้โรงเรียนดู คุณครูที่ไปคุมสอบบอกว่ากระดาษคำตอบและวิธีให้เด็กกาคำตอบค่อนข้างซับซ้อน เด็กมีโอกาสกาคำตอบผิดพลาดได้ง่าย แถมยังใช้ข้อสอบแค่ 4-5 ข้อ เพื่อวัดความสามารถในวิชานี้ทั้งวิชาของเด็ก…ถ้าพลาดแล้วก็พลาดเลย.. ก็คงต้องตามกันต่อไป
เรื่องของการวัดผล มีรายละเอียดในทางปฏิบัติที่พูดออกอากาศไม่ได้อีกมากมาย ไม่ใคร่มีใครสนใจที่มา ที่ไป ของการวัด สนใจแต่ตัวเลขที่ปรากฏเป็นส่วนใหญ่ ส่งครูไปร่วมตรวจข้อสอบกับภาครัฐที่ไร ได้เรื่องราวที่ทำให้ถอนหายใจเฮือกๆ มาทุกทีค่ะ
เป็นครูเิอกชนก็ก้มหน้าก้มตาทำในสิ่งที่ทำได้ เรื่องใหญ่ๆ ไม่มีปัญญา ก็หันมาจูง ชัก ผลัก ลาก กัน ตามกำลังตัวเอง ได้ทั้งดอกไม้ ได้ท้้งก้อนอิฐ หลายรสชาติ
แค่โรงเรียนเล็กๆ ที่ทำอยู่ ทำไมมีงานให้ทำเยอะแยะไปหม๊ดดดด โดยเฉพาะช่วงนี้ ทำเอาไม่ได้เขียนบันทึกสักเท่าไร กลับไปดูลานตัวเองแล้วตกใจ!!! ไม่ได้เขียนบันทึกนานเป็นเดือนแล้วหรือนี่…. เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเสียยิ่งนัก…ฮือๆๆๆ ^^
แสดงว่า เจ้าองค์กรบ้าๆนี่แหละ เป็นตัวปัญหา
ทำแบบไม่นู้ไม่ชี้ ชี้ทั้งๆที่ไม่รู้
ทำไมพวกครูเราไม่สะท้อนให้สะเทือนทรวงบ้างก๋ไม่รู้
ปล่อยข้อมูลผิดๆออกมาซ้ำเติมอยู่เรื่อยๆ
น่าจะเขียนได้นะครับ เอาพอหอมปากหอมคอก็ได้ๆๆๆๆๆๆๆๆ
อิ