ทำไม คนสวยอกหักระนาว

โดย sutthinun เมื่อ 3 เมษายน 2011 เวลา 18:44 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2377

(คำว่าราชินี่ไม่มีให้จับฉลากที่ไหนหรอกนะครับ)

เรื่องนี้คิดต่อจากท่านบางทรายที่เสนอความเห็นว่า นักศึกษาน่าจะช่วยกันเลือกทำหัวข้อวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับผู้ที่ได้รับรางวัลด้านวัฒนธรรม ใครอยู่ภาคไหนก็ช่วยกันทำภาคนั้นๆ ลูกหลายไทยจะได้สัมผัสกับความจริงของนักสู้ชีวิตตัวจริงเสียงจริงในถิ่นฐานของตนเอง เรื่องรู้จักตนเองนี้เป็นจุดอ่อนของเรามานาน นักศึกษารู้จักประวัติและผลานของชาวต่างชาติ แต่กับคนในท้องถิ่นตนเองกลับไม่รู้จักมักจี่อะไรเลย

ทั้ง ๆ ที่ ค น บ้ า น ตั ว เ อ ง ไ ป แ ส ด ง ที่ ป ร ะ เ ท ศ ไ ห น ฝ รั่ ง อ้ า ป า ก ห ว อ

(เธอเอาคำว่าหมอลำไปย่ำให้ทั่วโลกรู้จัก)

เท่าที่ทราบมีนักศึกษาบางส่วนได้ทำเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว

แต่เท่าที่เคยเห็นผลงานยังไม่ลึกซึ้ง

ยังไม่เห็นวิทยานิพนธ์ที่สามารถเปลือยคนที่ตนเองค้นหาได้แบบล่อนจ้อน

เป็นแต่เลียบๆเคียงแล้วก็กล้อมแกล้มจบๆกันไป

เสียดาย..ไ ห น ๆ จ ะ ทำ ทั้ ง ที   ทำ ไ ม ไ ม่ ทำ จ น ถึ ง แ ก่ น

จบแค่กระพี้..มันน่าเสียดายนัก

(กับลูกสาวคนเก่งที่ถอดบทเรียนเก่ามาปรับสไตล์ใหม่)

การจัดงานเชิดชูเกียรติใดๆ ถ้าผลการทำวิทยานิพนธ์มีส่วนในการคัดกรอง ท่านก็ลองนึกดูเถิดว่ามันจะพลิกคุณค่าและความหมายสักปานใด บางแห่งจะจัดงานมอบรางวัล โทรมาถาม..พ่อมีผลงานอะไรบ้าง อิโธ่อิถังเอ๋ย ..เธอดูถูกตัวเองไม่พอ เธอยังดูถูกคนที่อ้างว่าจะเชิดชู เมื่อไม่รู้ความจริงจะมาเชิดชูทำไมครับ? ครั้นบอกให้เสริช์เข้าไปดูในอินเตอร์เน็ท เธอก็ไปก๊อปมาผิดๆถูกๆไม่ตรวจสอบให้ดี บางทีก็พิมพ์นามสกุลผิดหราบนโล่ที่แจกนั่นแหละ เรื่องนี้จะมองว่าเล็กๆก็ได้ แต่มันประจานคนที่มาพบเห็น ทำให้เขารู้ว่าวิธีทำงานของสถาบันนั้นๆอยู่ในระดับขี้ไก่อย่างไร? ทั้งๆที่ตั้งกรรมการไม่รู้กี่ชุดนี่นะ

(น้ำตาคนสวยช่วยให้เธอแกร่งอย่างมาก)

ผมจึงเห็นด้วยกับท่านบางทรายเต็มร้อย สมมุติว่า ผมสนใจคุณบานเย็น รากแก่น เพราะเธอมีแม่เหล็กในตัวดึงดูดให้น่าสนใจมากมาย เอาเฉพาะเบื้องหน้าชื่นชมจนเต็มกลั้นแล้ว แล้วเบื้องหลังของหมอลำระดับเทพละจะขนาดไหน ไม่อยากรู้เลยหรือว่า..เส้นทางราชินีนั้นต้องฝ่าขวากหนามอะไร เสียน้ำตาไปกี่ล้านแม๊ะ

(วันที่ความรักความหลังครอบครัวย้อนมาใกล้ชิดกัน)

กว่าจะเป็นบานเย็นรากแก่น เธอต้องท่องกลอนลำจนขึ้นใจไม่ต่ำกว่า500บท เธอต้องอาศัยความวิริยะอย่างยิ่ง ไม่อย่างนั้นจะไปยืนโต้กลอนลำให้แจ้งจ่างป่างไม่ได้หรอก อาชีพหมอลำนั้น ขึ้นเวทีไปแล้วต้องช่วยเหลือตัวเอง ไม่มีพี่เลี้ยง ไม่มีตัวช่วย ความสามารถแท้ๆเต็มๆเท่านั้นที่สร้างชีวิตของราชินีหมอลำ

ทักษะในอาชีพ ทำให้เธอพัฒนาการแสดงจนเป็นเอกลักษณ์ หลอดเสียงใสมีเอคโค่ยามเอื้อนเป็นธรรมชาติ หน้าตารูปร่าง การเยื้องกาย การรำ การพูด ล้วนผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก ไม่มีลูกฟลุ๊กกับมืออาชีพ ผ่านการทดสอบตำราชีวิตและน้ำตามาอย่างโชกโชน เธอฝึกฝนการออกแบบท่ารำ จนได้รับเชิญให้ไปเป็นอาจารย์พิเศษสอนนักศึกษาหลายสถาบัน ยามว่างยังมานั่งออกแบบตัดเย็บชุดแสดงของตนเอง อดตาหลับขับตานอนตระเวนแสดง บางทีก็เผชิญอะไรต่อมิอะไรที่ยากจะคาดเดา

คนสวยใช่ว่าเส้นทางจะโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป

เธอเป็นหม้ายตั้งแต่ลูกยังเล็ก

กัดฟันเลี้ยงลูก3คนมาอย่างทรหด

คนสวยต้องประคองตนประคองใจยากกว่าคนปกติหลายเท่า

อิทธิพลเชิงไก่แจ้นั้นน่ากลัวนัก

แต่เธอก็เลี้ยงลูกทั้ง3เป็นคนเก่งคนดีได้อย่างน่าทึ่ง

ได้รับรางวัลครอบครัวตัวอย่าง

>> กับพ่อเด็กไม่ค่อยได้คุยกันนานแล้ว ส่วนมากจะคุยผ่านทางลูกๆ เธอเล่าว่าเขาก็มีคนสวยคนใหม่ครอบครัวใหม่ที่อบอุ่น ต่างคนต่างอยู่ ไม่ได้เจอกันมาหลายสิบปี เธอมีงานเต็มมือตลอดเวลา เดินทางไปแสดงทั้งในประเทศและต่างประเทศ เธอเล่าว่าบางทีตั้งใจจะไปแสดงที่สหรัฐอเมริกา 3-4 เดือน เมื่อครบกำหนดลูกๆก็โทรถาม เมื่อไหร่แม่จะกลับ คนไทยในรัฐฯนั้นรัฐนี้เรียกร้องให้ไปแสดง เธอก็ยืดเวลาออกไป บางครั้งเคยตระเวนถึง7-8 เดือน กลับมา-ต้องสนองแฟนคลับทั่วประเทศอีก -ต้องไปเป็นอาจารย์สอนพิเศษในสถาบันต่างๆ -ต้องไปในงานเชิดชูเกียรติรับรางวัลจนถ้วยล้นตู้ -ต้องเตรียมงานออกเทป -ต้องแว๊บไปออกรายการทีวีและแสดงภาพยนตร์ ปัจจุบันเธอมีลูกสาวคนเก่งมาร่วมแสดงบ้างเป็นครั้งคราว

(สังคมไทยรู้จักคุณค่าราชินีหมอลำเพียงเสี้ยวเล็กๆเท่านั้น)

เรื่องที่ผมเล่าหยาบๆนี้เพื่อจะยั่วยุสิ่งที่ท่านบางทรายเกริ่นนำ

ยังมีผลงานของบานเย็นรากแก่นอีกปะเลอะ

ที่เธอบรรจุบทเรียนคนอีสานแทรกไว้รูปกลอนลำ

จารีต ประเพณี วัฒนธรรม มีอยู่แน่นปึก

คมความรู้ความคิดของราชินีหมอลำ

ที่ยังซ่อนอยู่เบื้องหลังชีวิตของเธอมีคุณค่าแก่การเรียนยิ่งนัก

เรื่องราวของราชินีหมอลำท่านนี้อาจจะมีคนทำไว้บ้างแล้วกระมัง

แต่มันแค่ถากๆ เข้าไม่ถึงจิตวิญญาณของบานเย็น

เรื่องนี้ไม่อยากให้อาจารย์เป็นใจอือๆออๆ

ลองประกาศหาคนอยากรู้จักราชินีคนนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย

แล้วมอบโอกาสให้ทำวิจัยแบบกัดไม่ปล่อย

เป็นตัวอย่างสักคนจะได้ไหมครับ?

คงไม่ต้องช่วยถามนะครับว่า

-จะออกแบบวิธีเจาะสาระชีวิตให้ครบถ้วนได้อย่างไร

-อะไรที่เป็นบ่อเกิดของคำว่าราชินีลูกทุ่ง

-วิธีคิดวิธีการเป็นอย่างไร

-คุณสมบัติพิเศษที่นำไปสู่ความเป็นบานเย็น

-บทเรียนจากชีวิตสู่สังคม

-มองมองและทัศนะคติจากราชินี

-ฯลฯ

« « Prev : กระบวนการทำให้คนอีสานรักกัน

Next : ก้างคาคอ ค๊อกๆแค๊กๆ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

3 ความคิดเห็น

  • #1 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 เมษายน 2011 เวลา 22:33

    พ่อครูครับ สมัยหนุ่มๆที่เป็นนักกิจกรรมในมหาวิทยาลัย สมัยนั้นเขาเรียกพวกผมว่า “ไอ้พวกซ้าย” ใส่เสื้อยืด ห้อยย่าม นุ่งกางเกงยีน ใส่รองเท้ายาง…และผมยาวววววว พวกเราก็เถียงคิเป็นเอ็นว่า อย่ามองคนที่รูปร่างหน้าตา มาดูว่าพวกผมพูดอะไร คิดอะไรกัน ทำอะไร…

    ออกชนบทครับตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย และเพลงเพื่อชีวิตก็เคียงคู่กับพวกเรา คนกับควายนี่แหละ เนื้อหาสาระมันกระแทกจิตใจเหลือเกิน ยิ่งเรามาจากพื้นฐานชาวนา แม่ผมเป็นชาวนาที่นอนพะงาบๆอยู่ในห้อง ICU ทุกวันนี้ นั่นแหละชาวนาตัวจริงที่ทำนาส่งลูก 7 คนเรียนหนังสือให้มาเป็นตัวตนจนปัจจุบันนี้ ผมจะไม่อินกับเพลงเหล่้่านี้ได้อย่างไร มารู้ว่าพี่ามคิด สิงสงที่แก้งคร้อ ชัยภูมิเป็นผู้แต่งและมารับรางวัลเมื่อคืนก่อน ผมก็ปลื้มท่าน คนเรากว่าจะสกัดกลั่นคำพูดออกมาได้นั้น มันไม่ได้มาจากความฝัน มันมาจากชีวิตจริง มาจากสองมือที่แตกแล้วแตกอีก แล้วสมัยนั้นเราใช้มือนี่แหละจับข้าวใส่ปาก ก่อนที่จะเป็นตัวตนยืดอกได้นั้น หยากเหงื่อจริงๆ

    หากคนรุ่นใหม่ก้าวลงไปสัมผัสวิถีแบบนี้ ความไพเราะของเพลงนั้นมันเจาะลึกเข้าไปในความรู้สึกด้านใน นี่เองมันจึงเป็นเพลงปลุกเร้าชาวนาให้ลุกขึ้นมาทวงสิทธิทางสังคม
    ไม่ว่ารำเพลิน รำผญาย่อย เนื้อหาสาระมันไปเคาะ เขย่าความรู้สึกคนที่อยู่ในสาระเพลงนั้นๆ

    การที่ให้นักศึกษาลงไปศึกษา สัมผัส เอาเบื้องหลังการถ่ายทำออกมา อย่างพ่อครูกล่าว การศึกษาควรจะดึงคนลงไปซึมซับชีวิตท่านเหล่านี้ให้เกิดสำนึกแห่งสังคมที่เรียกว่าสำนึกแห่งการรับใช้ การรับใช้ไม่จำเป็นต้องออกมาชนบทอย่างผมหรอก อยู่ตรงไหนก็รับใช้ได้ คุณจะเติบโตเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แค่ไหนก็ได้ แต่ขอให้เข้าใจสังคม อย่าเอาเปรียบ อย่าดูถูก อย่ากดขี่ ตรงข้ามทำอะไรก็ให้คิกถึงคนกลุ่มทนี้ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของสังคม มิเช่นนั้นวิวัฒนาการของสังคมก็จะวนเวียนอยู่กับสงครามชนชั้น คนชั้นกลางก็ลอยละล่องอยู่กับความได้เปรียบทางสังคม คนชั้นบนก็เสวยสุขไปกับยศฐาบรรดาศักดิ์ ทรัพย์สินเงินทอง จนลืม มองไม่เป็นวิถีคนระดับล่าง

    วัฒนธรรมชุมชนแสดงความขับแค้นออกมาทางบทเพลง ศิลปแขนงต่างๆ ทั้งตรงและอ้อม ประชดประชัน ยิ่งเป็นผญา….ยิ่งลึกซึ้งยิ่งนักครับ มันสะท้อนวิถีชีวิตชุมชนอย่างแท้จริง มันเป็นภสพชุมชนที่สะท้อนออกมาด้วยเสียงเพลงท้องถิ่น เป็นศิลปะ กินใจ ซึ้ง

    ผมเห็น ผมสัมผัสเช่นนั้นครับ พ่อครูครับ

  • #2 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 เมษายน 2011 เวลา 3:18

    คนสวยใจสวย
    คนสวยใจดำ
    คนดำใจสวย
    คนดำใจดำ

    จะจัดเรียงลำดับอย่างไรดีครับ

    แต่ไม่ว่าเรียงอย่างไร
    ต้องหันมาเห่อไทยกันได้แล้ว
    ก่อนสายเกินไป

    นางสาวไทยทำไมต้องกำหนดให้สูงเกิน 165
    แบบว่า เห่อหุ่นฝรั่ง ทั้งที่คนไทยส่วนใหญ่เตี้ยกว่านั้น
    วุฒิการการศึกษาเกิน..
    และทำไมผิวขาวกันทั้งน้าน (แม้ไม่กำหนดแต่คนผิวดำก็ไม่กล้าสมัคร)

    ทั้งที่คนไทยเดิมมาจากขอม
    ที่ผิวดำตัวเล็กก็มาก
    เช่น สมเด็จพระนเรศวร
    สมเด็จย่า
    รวมถึงล้นเกล้า ร ๕

  • #3 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 เมษายน 2011 เวลา 8:46

    เรื่องหัวใจ พูดไปก็จั๊กกะจี่ อิ อิ..


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.48151016235352 sec
Sidebar: 0.43159294128418 sec