กระบวนการทำให้คนอีสานรักกัน
อ่าน: 6843เมื่อคืนนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นเจ้าภาพเชิญท่านผู้นำทางด้านวัฒนธรรมอีสานทุกสาขามารับรางวัล งานนี้เสมือนการย่อส่วนอีสานมาไว้ในสนามเวทีศูนย์วัฒนธรรมได้อย่างอลังการ เรื่องอย่างนี้นะครับ ถ้าทำง่ายๆ ทำไม่ถึง มันก็เหมือนชงกาแฟด้วยน้ำเย็นนั่นแหละ แต่..เมื่อคืนสุดยอดจริงๆ เราได้สัมผัสความตั้งใจดีจะที่เชื่อมโยงบทบาทของสถาบันการศึกษา ที่ถือว่าเป็นเสาหลักของภูมิภาคนี้ เข้ากับองค์กรชุมชนหรือสถาบันพื้นที่ถิ่นอย่างสมบูรณ์แบบ
ศิลปินทุกสาขาระดับสุดยอดทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องมาร่วมงานกันกว่า50ท่าน ยังมีคณะติดตามและทายาทที่จะไต่เต้าขึ้นมาในอนาคตอีกหลายร้อยชีวิต ภายในหอวัฒนธรรม มีบอร์ดนิทรรศการจัดแสดงผลงานและประวัติผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างบรรเจิด บริเวณจัดงานเป็นสนามกว้าง โต๊ะประธาน-ผู้รับรางวัลอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยโต๊ะจีนของคณะผู้ติดตาม บรรยากาศสดๆตัวเป็นๆระดับปรมาจารย์ทยอยขึ้นเวที เธอเอ๋ย.. เป็นอีกครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราไม่ต้องติดตามไปชมทีละท่าน เหมือนสมัยเด็กบ้านนอกวิ่งตามรถหมอลำ
งานนี้ครบครันครบเรื่องการถ่ายทอดทักษะและประสบการณ์ของคนชั้นครู ครูเพลง ครูนักแต่งเพลงดนตรี นักแสดง นักก่อการดีทางด้านวัฒนธรรม มาชุมนุมกันอย่างชื่นมื่น ภาษาชาวบ้านบอกว่า โคตรอีสานมาม่วนซืนโฮ่แซวกัน..
ป้าหวานบอกว่า..เพลงปิดไฟใส่กลอนนี่เคยได้ฟังตั้งแต่ตอนเด็ก มาเห็นตัวจริงรักชาติ ศิริชัย ได้ฟังเสียงสดๆอย่างนี้ ย้อนคิดย้อนยุค ..ปิดไฟใส่กลอน จะเข้ามุ้งนอนคิดถึงใบหน้า..ไม่ย้อนยังไงละครับ สมัยนี้ไม่มีมุ้งให้มุดแล้ว บ้านเรือนส่วนใหญ่ใช้มุ้งลวด แขกขายผ้าขายมุ้งจึงไม่ค่อยได้พบเห็นเหมือนเมื่อก่อน
ศิลปินแห่งชาติ ศิลปินระดับมรดกอีสานตัวกลั่นๆทั้งนั้น ฉวีวรรณ พันธุ ราตรี ศรีวิไล นางผมหอม สกุลไทย บานเย็น รากแก่น เจ้าแม่หมอลำกลอน จินตนา ปากไฟ เจรียงสายรุ้ง นิยา-ราชินีไหซองฯลฯ ถ้าย้อนไปดูประวัติท่านอาวุโสที่รับไปก่อนหน้านี้ พบว่าศูนย์วัฒนธรรมฯเก็บกวาดตัวเอ้ของอีสานมาไว้หมดจด
บรรยากาศของงานหลังพิธีเปิด เป็นการแสดงสลับกับการรับรางวัล3กลุ่ม เมื่อคนชั้นครูมาอยู่ต่อหน้าต่อตาเรา ที่ร้องที่เต้นอยู่เต็มตานั้นเป็นตัวแทนของอัตลักษณ์อีสานตัวเป็นๆ เธอเอ๋ย..ความปลาบปลื้มที่ได้เห็นผู้ที่เป็นเสาค้ำวัฒนธรรมอีสานที่ทำหน้าที่อยู่ทั่วถิ่นราบสูงมาบรรจบกัน จังหวัดสุรินทร์ทีมคชลักษณ์มาชุดใหญ่ การฟ้อนรำของลูกหลานสุรินทร์นั้นสะกดทั่วบริเวณให้ตะลึงงัน การร้องรำของครูจังหวัดสกลนคร การเดี่ยวแคนเดี่ยวพิณชั้นครูก็เด็ดสะระตี่จริง เป็นบุญหูบุญตาเธอเอ๋ย..
นายเทพบุตร สติรอดชมพู คุณสามีของราชินีหมอลำบานเย็น รากแก่น ได้รับรางวัลสาขาสื่อสารวัฒนธรรม มีหรือที่ภรรยาแสนสวยกับลูกสาวคนเก่ง จะไม่บึ่งจากราชบุรีมาแสดงความยินดีด้วย คนอีสานไม่รู้จักบานเย็น รากแก่นก็บ้าแล้ว เธอปักหลักนำศิลปะหมอลำตระเวนไปแสดงทั่วไทยทั่วโลก สวรรค์ส่งมาเพื่อให้เป็นหมอลำทั้งตัวและหัวใจ เธอเข้าถึงจิตวิญาณศิลปะหมอลำอย่างถึงแก่น อัฉริยะด้านออกแบบท่ารำได้สวยชดช้อย การแต่งตัวก็ประยุกต์ให้เหมาะสมกับยุคสมัย..เธอรูปร่างดี หน้าหวาน เอวอ่อนพลิ้ว นิ้วยิ่งกว่าลำเทียน ร่ายรำเหมือนนางอัปสร..
(คนทุกคนมีเกียรติ มีความรู้ มีศักดิ์ศรี ถ้าเราไม่มองข้ามศีรษะ
-เห็นทุกคนเป็นเพื่อนร่วมโลก-ไม่ยกตนอวดท่าน
-มีความยินดีต่อกัน-ความสมานฉันท์ก็จะเกิดขึ้นในสังคมไทย)
การพูดจา-การแสดงออก-บอกได้เลยว่านี่ไงละพิมพ์เขียวที่คนอีสานอยากได้ เธอเดินไหว้ผู้อาวุโส ถ่ายรูปกับคนโน้นคนนี้ ไอ่ที่ผมอึ้งกิมกี่ ก็ตรงที่โฉมยงผมนะสิครับ ไปถ่ายรูปเดี่ยว ถ่ายรูปกับครอบครัวของแม่บานเย็น เธอแย้มว่า..กลับไปนี้จะเอาไปโม้ให้ป้าสอนฟัง เพราะป้าสอนเป็นแฟนบานเย็นมาแต่สาวๆ เห็นอิทธิพลคนสวยคนดีไหมครับ?
ผมรู้ตัวคนที่เสนอชื่อแล้ว เป็นอาจารย์คณะเกษตร มข.อาจารย์บอกว่าเคยมาเยี่ยมที่สวน ส่วนประธานที่แจกรางวัลท่านคุยระหว่างมอบรางวัลว่าเคยมาสวนป่าเมื่อ8ปีที่แล้ว สาขานิเวศวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม มีนิยามดังนี้.. หมายถึงความสามารถกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งการอนุรักษ์พัฒนาและใช้ประโยชน์จากคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน
ช่วงท้ายของงาน
พิธีกรจับตัวไปออกรายการทีวี
ถามว่า..มหาชีวาลัยอีสานคืออะไร อยู่ที่ไหน จะไปดูงานได้ยังไง?
มหาชีวาลัยอีสาน คือยาขมหม้อใหญ่
ที่ปรุงแต่งขึ้นมาเพื่อรักษาไข้ใจของคนอีสาน..
นอกจากโล่แล้ว
ยังมีภาพถ่ายมอบให้ด้วยนะครับ
ผมไม่ทราบว่าใครเป็นคนถ่ายภาพนี้
ป๋า ร อ ก อ ด เ ป็ น ค น เ ลื อ ก ม า โ พ ส ใ น เ น็ ท
ภ า พ เ ข า ส ว ย จ ริ ง ข อ บ อ ก
(ขอบคุณ อ.แป๋ว ที่ช่วยเก็บภาพเด็ด)
ขอบคุณมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่จัดงาน วันอนุรักษ์มรดกไทย
ในโครงการเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ
ขอบคุณป้าหวาน-ท่านบางทราย-ท่านรองอธิการบดี-และออต
ที่มาร่วมสนุกงานผสานความสุขในงานนี้
พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ
:: การบริหารจัดการ หลังจากแจกรางวัลแล้ว ..ยังไงต่อ ชิมิ ชิมิ
« « Prev : เอาอย่างนี้ไหมป้าหวาน
Next : ทำไม คนสวยอกหักระนาว » »
4 ความคิดเห็น
หากให้นักศึกษา ป โท ป เอก ไปถอดระหัสสาระจากทุกท่านออกมาเป็นตำรานะครับ โอย..มีคุณค่าเหลือเกิน
ขอบพระคุณพ่อครู แม่หวี พี่บางทราย ท่านรอง และน้องออด เป็นอย่างสูงค่ะ ที่ได้ช่วยให้ป้าหวานมีโอกาสสัมผัส ทุกๆสิ่งเมื่อวานนี้ สิ่งแรกจากพ่อครูและแม่หวี เหมือนถูกล๊อตเตอรี่รางวัลใหญ่ ผักสดเต็มกล่องมีไม่น้อยกว่า 15 ชนิดในกล่อง มะละกอ7-8 ผลใหญ่ๆ น้ำเต้า อีก 6-7 ผล หลายรูปร่าง ป้าหวานสัมผัสความแท้จริงของชีวิตได้จากสิ่งที่นำมามอบให้ ทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้แต่รู้สึกได้ ขอบพระคุณค่ะ
ขอบพระคุณโอกาสที่ได้สัมผัสบุคคลและผลงานสุดยอดศิลปวัฒนธรรมหลายแขนง เป็นความพิเศษสุดที่มารวมตัวกันในเวลาน้อยนิด แต่ยิ่งใหญ่ทรงคุณค่ามาตั้งแต่โบราณกาลและต่อๆไปในอนาคต ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของเรายังสืบทอดชั่วลูกหลาน ขอปรบมือให้ มข. ที่ได้เล็งเห็นและเชิดชูสิ่งเหล่านี้ บุคคลเหล่านี้ค่ะ
ขอบพระคุณญาติชาวเฮ ที่น้ำใจเหลือล้น ตั้งแต่พ่อครู แม่หวี มาพี่บางทราย มีพระคุณยิ่งได้มอบแต่สิ่งดีๆให้ครั้งแล้วครั้งเล่า ท่านรองก้กรุณาอย่างยิ่ง ท่านเป็นขวัญใจคนทุกรุ่นแท้จริง นี่คือพิมพ์เขียวของเรา น้องออดผู้น่ารักนำแต่ความสดชื่น น่ารัก มีคุณค่าทางใจมาให้เสมอๆ ติดตามมาร่วมกับเราแม้จะไม่ค่อยว่าง กุลีกุจอช่วยถ่ายรูป ช่วยทุกแนว
ทุกสิ่งนี้เป็นรางวัลที่ได้โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ขอบคุณค่ะ
ขอแสดงความยินดีกับพ่อครูบาฯ และแม่หวีด้วยครับ
ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ
รูปกับชาวเฮสวยขลังมากเลย