มดแดงยังโดน

โดย sutthinun เมื่อ 9 มีนาคม 2011 เวลา 20:50 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2149

น้าๆคงเคยเห็นเคยโดนมดแดงกัดกันบ้างนะครับ

ผมสืบรู้มาว่าผู้หญิงทั่วโลกอิจฉามดแดงกันทั้งนั้น

ทำไมรึ

ก็ ม ด แ ด ง ทุ ก ตั ว มี เ อ ว ม า ต ร ฐ า น น ะ สิ ค รั บ

เกิดมายังไม่เคยเห็นมดแดงตัวไหนลงพุงสักตัว

ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมมดแดงถึงมีสุขภาพดี ไม่มีตัวไหนเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไขมันท่วมพุง หุ่นดีตลอดชีวิต แถมยังแข็งแรงแข็งขันยิ่งนัก ผมเคยเห็นมดแดงช่วยกันลากจิ้งจกตัวใหญ่ปีนไต่ขึ้นไปบนต้นไม้สูง มดแดงนี่ฉลาดนะครับ เป็นวิศวกรก่อสร้างที่หาตัวจับยาก มดแดงทำรังด้วยใบสน ทำรังบนหนามต้นตะบองเพชร เรื่องทำรังด้วยใบไม้เป็นของกล้วยๆสำหรับมดแดง รังเล็กรังใหญ่สร้างกันขึ้นมาอย่างไม่ย่อท้อ ทั้งๆที่ไม่ต้องมีพิมพ์เขียวแต่ละรังก็แข็งแรงต้านแดดต้านลมได้ดี แผ่นดินไหวกี่ริกเตอร์มดแดงก็ไม่ยี่หระ

มดแดงมีความอดทนเป็นยอด อยู่อย่างประหยัดและเรียบง่าย ในที่แห้งแล้งกันดานมดแดงก็อยู่ได้ ไม่ได้ร้องแรกแหกกระเชอให้ใครส่งรถน้ำมาช่วย อยู่ได้ด้วยสติปัญญาและฝีมือล้วนๆ มดแดงน่าจะเป็นต้นฉบับเศรษฐกิจพอเพียงได้ไหมครับ มดแดงมีประโยชน์ต่อชาวไร่ชาวสวน ช่วยลดจำนวนแมลงและหนอนที่มารบกวนผลไม้ มดแดงแฝงเฝ้ามะม่วงโดยได้รับค่าจ้างแม้แต่บาทเดียว หนำซ้ำเจ้าของสวนใจร้ายยังมาแหย่รังเอาไข่ไปกินอีก หัวอกมดแดงช้ำชอกเพียงไหนไม่มีใครรู้ มดแดงยอมตายเพื่อป้องกันไข่อ่อนและรังของตน นอกจากกัดไม่ปล่อยแล้วยังปล่อยสารแสบจิ๊ดๆเข้าไปในรอยเคี้ยว ต่อให้ศัตรูตัวใหญ่แค่ไหนมดแดงไม่เคยเกี่ยงน้ำหนัก ขนาดช้างยังกัดร้องป่าแตกกระเจิง

ถึงจะมีประโยชน์และคุณสมบัติที่ไม่ธรรมดา แต่ก็หาได้มีมนุษย์ตระหนักในคุณงามความดีของมดแดงแต่อย่างใดไม่ พวกชาวป่าเวลาหน้ามืดเป็นลมหรือตกต้นไม้ จะมองหารังมดแดง สอยเอาตัวมาขยำให้คนป่วยดมแทนยาหม่องหรือน้ำมันแป๊ะฮวยอิ้ว

สมัยเด็กๆเคยชวนเพื่อนพายเรือล่องไปตามลำน้ำมูล ตั้งเตาหุงข้าวและหม้อต้มปลากลางลำเรือ คนที่อยู่หัวเรือจะทำหน้าที่หว่านแห คนที่อยู่ท้ายพายงัดๆหาทำเลที่ปลาชุม หว่านแหโครม! ได้ปลาสดๆขึ้นมาก็จะจับลงหม้อที่กำลังเดือดปุดๆ เหวี่ยงแหไม่กี่ทีก็ได้ปลาครึ่งหม้อ วักเรือเข้าริมฝั่ง มองหารังมดแดง พอเจอก็จะโน้มรังหย่อนลงหม้อ ได้รสเปรี้ยวจากตัวและไข่มดแดง รสชาติกลมกล่อม ข้าวร้อนๆต้มปลาร้อนๆกำลังหิว>>ล่อข้าวป่ากันจนท้องกาง

บางเดือนเรานัดกินข้าวป่า พ่อครัวหัวป่าก์จับไก่มาถอนขน ผ่าเอาเครื่องในออก ชำระล้างให้สะอาด แล้วเอาไก่เสียบกับไม้ไผ่ยาวๆยื่นแหย่เข้าไปที่รังมดแดง มดก็จะมะรุมมะตุ้มกัดไก่จนแดงเทือกทั้งตัว พ่อครัวค่อยๆหย่อนไก่ลงมาใส่ไม้หนีบแล้วเอาไปย่างไฟ พลิกไปพลิกมาจนไก่เหลืองอ๋อย สุกได้ที่หอมฉุยก็สับโป๊กๆไปเสิร์ฟกับน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด มดแดงที่รุมกัดไก่ช่วยให้เนื้อไก่หอมนิ่ม จัดเป็นเปิปพิศดารอาหารป่าก์ด้วยประการละฉะนี้

ส่วนคนเมืองอย่างเก่งก็จะมีเมนู ยำไข่มดแดง เจียวไข่มดแดง ไข่มดแดงใส่ต้มยำ ไข่มดแดงแกงอ่อม แกงผักหวาน แกงขี้เหล็กฯลฯ สมัยก่อนยังไม่มีอายิโน๊ะโม๊ะโต๊ะ ก็ได้อาศัยตัวและไข่มดแดงนี่แหละเป็นเครื่องชูรสชั้นเยี่ยม ล อ ง พิ จ า ร ณ า ใ ห้ ดี เ ถิ ด แ ล้ ว จ ะ รู้ ว่ า อ า ห า ร ชั้ น สู ง จ ริ ง ๆ นั้ น คื อ อ ะ ไ ร คงไม่มีใครเอาเนื้อหมูเนื้อไก่ไปแขวนบนต้นตาลแข่งกับไข่มดแดงหรอกนะครับ ใครที่ไม่เคยชิมไข่มดแดงอย่าเพิ่งคุย ว่าตนเองนั้นเคยเจี๊ยะอาหารชั้นสูงมาแล้ว

ตอนเด็กๆผมเคยทำบาปมหันต์ ไปจับเอามดแดงมาแปะกับขี้สูตร (เป็นสารเหนียวที่ได้จากรังชันรงค์) ตัวมดแดงที่เคลื่อนไหวอยู่ใต้น้ำติดตัวเบ็ด เป็นเหยื่อล่อปลาชั้นเยี่ยม โดยเฉพาะปลาหมอ ปลาหมู ปลากระทิง เจอเป็นวิ่งมางับปั๊บ! ดึงทุ่นจมวูบไปอย่างรวดเร็ว รีบวัดเบ็ดขึ้นมาควั๊บ! เรียบร้อยโรงเรียนลาว ปลาตัวอ้วนๆดิ้นกระแด่วๆอยู่บนบก เอาเถาว์วันร้อยเหงือกเอาไปให้ยายปิ้งตำน้ำพริกกินมะเขือพวงคั่ว เธอเอ๋ยเอาสะเต๊กมาแลกกี่ถาดก็ไม่ยอม

เรื่องที่เล่ามาทั้งหมดนั้นเป็นการเกริ่นนำเฉยๆ

หัวใจของเรื่องมดแดงอยู่ที่

ผ ม จ ะ บ อ ก ว่ า วั น นี้ ม ด แ ด ง สู ญ พั น ธุ์ ไ ป อ ย่ า ง น่ า วิ ต ก

ยังไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร

ที่สวนป่าเคยมีมดแดงไม่รู้กี่พันล้านตัว

ปีนี้ มดแดงหายเกลี้ยงไปทั้งป่า

ผมมองหารังมดแดงไม่เจอ

มองตามสวนที่อยู่ใกล้ๆกันก็ไม่พบรังมดแดงเช่นกัน

นึกว่าจะหายไปเฉพาะน้ำมันพืช

มดแดงที่อยู่ในป่าก็หายไปด้วย

นักธรรมชาติวิทยาอยากจะมาพิสูจน์ก็เชิญ

ไข่เป็ดไข่ไก่อาจจะขึ้นราคา

แต่ไข่มดแดงนอกจากแพงมากแล้วยังจะขาดแคลนยิ่งขึ้น

คุยกับฤๅษีอ้นแล้ว..จะขอพันธุ์มดแดงทำฟาร์มเลี้ยงที่สวนป่า

อามิตรพุธ

« « Prev : โก๋สะอื้น

Next : ชวนสาวๆเข้าป่า » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 มีนาคม 2011 เวลา 19:45

    อ่านสนุกและได้ความรู้ประหลาดมากหลาย กระทรวงวัฒนธรรมน่าทำหนังสือสารานุกรมวิถีชีวิตธรรมชาติไทยโบราณขึ้นมาสักหน่อยนะ ไม่งั้นหมายหมดแน่ๆ

    ผมเสนอต่อด้วยว่ากระทรวงน่าทำ พิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตธรรมชาติไทยสมัยก่อน ซึ่งคงยากที่เขาจะคิดกัน

    เขาไม่ทำเราทำเองก็ได้นะ ว่าแต่ว่าจะหาเงินจากไหน ชาวลานปัญญาช่วยกันคิดด้วย เอาไปผนวกับสากลจักรวาลัยวิถีเขียวยังได้เลยนะบาท่าน

    มดแดงนี้ผมเคยเห็นมันทำปศุสัตว์ด้วยนะครับ เลี้ยงเพลี้ยเพื่อกินน้ำหวาน มันมหัศจรรย์มาก และผมเข้าใจว่ามันสร้างนิคมใหม่ด้วยการบินมาของพวกนางพญา (แม่เป้ง ?) ถ้าใช่ ดังนั้นการหายไปของมดแดงอาจเป็นเพราะว่าคนอีสานวันนี้นิยมกินยำแม่เป้งกันมากก็เป็นได้ ผมได้กินครั้งแรกที่ริมมูล อ.พิบูล จ.อุบล หรืออาจเป็นว่ามดแดงนั้นเป็นสัตว์กินแมลง แต่วันนี้แมลงหมดไปจากการฉีดยาฆ่าแมลง ก็เลยส่งผลต่อมดแดงด้วย

    เอาไก่ไปให้มดแดงต่อย คิดได้ไง แสดงว่าคนไทยโบราณมีความรู้ด้านปฏิกิริยาเคมีดีมาก เพราะกรดทำให้เนื้อนุ่มครับ เรื่องนี้น่ามีวิจัยต่อยอด อีกหน่อยเลี้ยงมดแดงเอากรดมาหมักเนื้อยังได้ รวมทั้งบั้งไฟ ตะไลก็เคมี นี่ถ้าลูกหลานรู้จักคิดต่อยอดให้ดีป่านนี้ไทยเป็นมหาอำนาจโลกไปแล้ว

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 มีนาคม 2011 เวลา 19:51

    ภูมิปัญญาพื้นถิ่น เป็นความรู้ที่อร่อย และชิมได้ อิอิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.07506799697876 sec
Sidebar: 0.041689872741699 sec