โก๋แก่รำพัน
อ่าน: 1969
คนอยู่บ้านนอกคอกนาอย่างโก๋นั้น วิถีชีวิตคลุกคลีสายตรงกับธรรมชาติแบบถึงลูกถึงคน เรียกว่ากินกลางดอนนอนกลางป่า ร้อนๆมาก็หลบเข้าร่มไม้ แต่ตอนนี้แล้งแสนแล้งจนแทบจะกรอบเกรียบไปทุกย่อมหญ้า ร้อนมากๆก็เริ่มร้อนรน ปัมท์น้ำบาดาลวันหนึ่งหลายชั่วโมง ดูเหมือนน้ำใต้ดินก็ลดลงด้วย บาดาลอีกบ่อหนึ่งต้องต่อท่อหย่อนต่อลงไปลึกประมาณอีก6 เมตร รวมความลึก 130 เมตร จึงช่วยให้การสูบน้ำได้ต่อเนื่อง ยังดีที่พอมีน้ำใช้บ้าง แต่ก็ต้องประหยัด น้ำคือชีวิต น้ำทุกหยดมีค่าต่อการอยู่รอดของสรรพสิ่ง แต่นี้ไปชาวไร่ชาวนาไทยจะต้องเรียนเรื่องน้ำๆ ทั้งน้ำตา น้ำใจ และน้ำลาย
แ ส น ส ง ส า ร เ ค รื่ อ ง บิ น ทำ ฝ น เ ที ย ม
เ ม ฆ อ า ย เ ห นี ย ม ไ ป ไ ห น ห ว่ า ห า ไ ม่ เ ห็ น
ทั้ง ฝ น เ ที ย ม ฝ น แ ท้ แ ห่ ห ลี ก เ ร้ น
ที่ ก ร ะ เ ซ็ น คื อ น้ำ ล า ย ท่ ว ม ส ภ า .
ผมสังเกตุเรื่องการรดน้ำมาระยะหนึ่ง ในช่วงแล้งอย่างนี้ ท่านต้องให้น้ำตามจำนวนและต้องตรงเวลานะครับ ถ้าขืนรดน้ำสะเปะสะปะต้นไม้จะกลับบ้านเก่า หรือถ้าท่านมีน้ำต้นทุนไม่เพียงพอขอให้ตัดใจอย่าไปรด ปล่อยให้ต้นไม้ปรับตัวตามภาพธรรมชาติของเขาเอง ขืนไปรดแล้วปล่อยปะละเลยเพราะน้ำไม่พอ ต้นไม้ตายแหง๋แก๋เลยละครับ ถ้ามีเมตตากรุณาต่อต้นไม้จริงๆ ควรจะเอาฟางหรือเศษกิ่งไม้ใบไม้ไปปกคลุมรอบๆโคนต้นให้จะดีกว่า
ช่วงแล้งนี้ต้นไม้ผลัดใบจำนวนมาก พื้นที่ข้างบ้านมีใบไม้แห้งปกคลุมหนาประมาณครึ่งคืบ เดินย่ำกรอบแกรบนุ่มเท้า ใ บ ไ ม้ ที่ อ ยู่ บ น ต้ น ช่ ว ย ป ก ป้ อ ง แ ส ง แ ด ด ร่ ว ง ล ง ม า ก็ ยั ง เ ป็ น ฉ น ว น ป้ อ ง กั น แ ด ด แ ล ะ อ า ก า ศ ร้ อ น ไ ด้ ร ะ ดั บ ห นึ่ ง ธรรมชาติช่วยเหลือตัวเองสุดเหวี่ยง ที่ผมพอคุยเรื่องต้นไม้ใบไม้ได้บ้าง เพราะผมปลูกต้นไม้มานิดหน่อยนั่นเอง ส่วนประเภทชะลอหลังยาว ไม่ยอมปลูกต้นอะไรเลย ก็ยากที่จะเข้าใจเรื่องนี้ ปล่อยให้เป็นหมาเห่าเครื่องบินดีไหมเธอ
ร้อนแล้งอย่างนี้บ่นไปก็เท่านั้น
โก๋ลงมือออกแบบทดลองการปลูกพืชช่วงแล้ง
ชวนลูกน้องขุดหลุมกว้างxยาวxลึกประมาณครึ่งเมตร
เอาผงถ่านกับมูลโคผสมดินรองก้นหลุม
เอาท่อPE.เดินท่อน้ำฝอยหันหัวพ่นลงดิน
เอาต้นอินทผลัมมาปลูก
เอาโพลิเมอร์มาโรยข้างต้น
เอาต้นกล้วยมาปลูกบังแดด
เอาเศษใบไม้ใบหญ้ามาปกคลุมหลุม
ผลเป็นประการใดเดี๋ยวก็รู้
แต่ที่แน่ๆได้คำตอบว่า>>การปลูกต้นไม้สมัยนี้จะต้องลงทุนลงแรงเป็นอย่างมาก จะปลูกทิ้งปลูกขว้างอย่างสมัยก่อนไม่ได้หรอก ความชื้นที่หายไป น้ำหมอก น้ำค้างไม่มีมานานแล้ว คนทิ้งขว้าง>> ฝนเลยทิ้งช่วง ความชื้นในอากาศระเหิดหายกู่ไม่กลับ ป่ า ไ ม้ เ ห ลื อ แ ต่ ต อ ลมแล้งมาก็พัดพาหน้าดินปลิวหายไป ฝนเทลงมาก็ชะล้างหน้าดินทิ้งไปอีก ความอุดมสมบูรณ์ของดินหมดไปเพราะเรื่องนี้มากกว่าที่พืชดูดไปใช้เสียอีก สภาพธรรมชาติที่เหมาะสมนั้น จะต้องมีต้นไม้ปกคลุมตามสมควร เพื่อปกป้องหน้าดินเอาไว้ ใบไม้กิ่งไม้ก็แปรสภาพเป็นปุ๋ย ที่รากยังเป็นบ้านอาศัยของไส้เดือน-แมลง-และจุลินทรีย์ต่างๆ
ป ลู ก ไ ม้ ยื น ต้ น แ ล้ ว ตั ด เ อ า เ ฉ พ า ะ กิ่ ง กั บ ใ บ ม า ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์
จะ ช่ ว ย ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม ยั่ ง ยื น
แ ล ะ ส อ ด รั บ กั บ ส ภ า พ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ข อ ง ผู้ ป ลู ก
มีคำถาม>> ถ้าคงเหลือต้นไม้ไว้มากๆ เราจะเอาพื้นที่ดินตรงไหนมาเพาะปลูก เรื่องนี้สามารถออกแบบได้หลายลักษณะ เช่น ปลูกพืชไร่เป็นแถวสลับกับปลูกไม้ยืนต้น ปลูกแบบคู่ขนานกัน อย่าไปโค่นต้นไม้ทิ้งจนเกลี้ยง แล้วปลูกพืชไร่โล่งโจ้งสุดลูกหูลูกตา อย่างที่เราเห็นไร่อ้อยไร่มันสำปะหลังหรือนาข้าวส่วนใหญ่ การทำเกษตรกรรมลักษณะนี้ละครับที่เป็นการสร้างหนี้ถาวร คิดแต่จะเอาผลิตผลจำนวนมากโดยไม่คำนึงว่าแต่ละปีได้เอาความสมบูรณ์ของดินออกกี่มากน้อยออกไป
ในการขายผลผลิตทางการเกษตรนั้น จะมีสักกี่คนที่คิดบวกราคาแร่ธาตุต้นทุนในดินไปด้วย การคิดและทำแบบมักง่ายจึงต้องเผชิญความยุ่งยาก ดินเสื่อมแมลงรบกวน ต้องกู้เงินมาซื้อปุ๋ยและสารเคมีมาใช้ ต้นทุนการผลิตจึงเพิ่มมากขึ้นจนยากที่จะคุ้มทุน ทำนาแท้ๆ>> แทนที่จะตกถังข้าวสาร กลับต้องมาเดินขบวนร้องเหมือนเปรตขอส่วนบุญ ให้รัฐฯช่วยเพิ่มประกันราคาข้าว กลายเป็นชาวนาไร่ชาวนาพันธุ์อ่อนแออ่อนไหว ช่วยตัวเองไม่ได้แม้กระทั้งพันธุ์ข้าว โอ๋กันไปโอ๋กันมาเหมือนคนปัญญาอ่อน แบบนี้จะทู้ซี่ทำนาไปทำไมก็ไม่รู้ เหนื่อยเปล่าๆ ทำให้คนอื่นทั้งนั้น คนรับประโยชน์ตัวจริงคือ พ่อค้าปุ๋ย พ่อค้าสารเคมี พ่อค้ารถไถรถนวดรถเกี่ยว พ่อค้าเงินกู้ ตัวชาวนาต้องรับความเสี่ยงสาระพัดสุดท้ายชาวนากลุ่มนี้หันไปหาอาชีพเสริม รับจ้างก่อม็อบเดินขบวน !!
ก า ร ร ด น้ำ ต้ น ไ ม้
จำเป็นต้องใคร่ครวญถึงปัจจัยแวดล้อม
เช่น วัสดุซับน้ำ วัสดุคลุมหน้าดิน
สร้างร่มเงาด้วยการปลูกกล้วยบังแดดและช่วยเพิ่มความชื้นเย็น
การเลือกชนิดของพันธุ์ไม้ก็สำคัญ
ควรพิจารณาถึงนิสัยของต้นไม้ที่เหมาะสมกับพื้นถิ่นตรงนั้น
ต้น ไ ม้ ก็ เ ห มื อ น ค น นั้ น แ ห ล ะ
มี ทั้ ง พั น ธุ์ หั ว แ ข็ ง และ พั น ธุ์ หั ว อ่ อ น
ทำ อ ย่ า ง ไ ร จ ะ รู้ ว่ า ค น ไ ห น มี คุ ณ ส ม บั ติ อ ย่ า ง ไ ร ?
ก็ สุ่ ม บี บ ก ระ โ ห ล ก ดู สิ ค รั บ
คริ คริ
Next : โก๋สะอื้น » »
2 ความคิดเห็น
ทีวีมีรายการก่อนบ่ายคลายเครียด วันนี้อ่านก่อนเที่ยงคลายเครียดกับบันทึกของครูบาค่ะ
จริงๆเรื่องมันน่าเครียดนะคะ ที่น้ำเหือดหายไป เหือดหายไป …แต่อ่านแล้วยังหัวเราะออกด้วยสไตล์การเขียนเนี่ยแหล่นะคะ
อ่านเสร็จก่อนพิมพ์ แอบลองบีบกระโหลกตัวเองดูแล้วค่า..พันธุ์หัวอ่อนว่าง้ายง่ายเลยค่ะ……อิอิ
จะอื๊ยยยยส์ นะอุ้ย อิอิ