โรคคิดถึงเรื้อรัง
อ่าน: 2246พักนี้มีเรื่องความคิดถึงมาวอแวอยู่เสมอ
อ่านหนังสือมติชนรายสัปดาห์ฉบับ- 4-10 มีนาคม 2554
เปิดไปถึงหน้า53 “คมเลนส์” เขียนกลอนมันส์ๆ
หัวข้อ”เร่งหาวันมาถึง”
อ้าว! อ้าว! นี่ ภ า พ ข อ ง ช า ว เ ฮ นี่ ห ว่ า
สงสัยผู้เขียนคงจะค้นภาพประกอบจากบทความในลานปัญญา
เป็นภาพสาวๆเดินเก็บมะนาวและผักต่างๆ
น่องหวาน-ตาหวาน-น้าอึ่ง-เจ้าหนูหนิง
เออหนอ..สื่อไอทีนี่ชวนชักกระตุกให้คิดถึงคนโน้นคนนี้ได้โดยบังเอิญ
กลับมาถึงบ้าน ได้รับของถูกใจจากอาจารย์ไพลิน กาญจนภานุพันธ์ ส่งหนังสือสารคดีท่องเที่ยวชื่อ “ลัดฟ้าสู่รัสเซีย”มาให้ เปิดดูแล้วแทบอดใจไม่ไหว อยากจะอ่านรวดเดียวจบ เคยอ่านเล่มอื่นๆก่อนหน้านี้ อาจารย์เขียนสนุกแล้วยังสอดแทรกความรู้เป็นระยะๆ เป็นตำราอ่านเพื่อศึกษาได้หลายมิติ นอกจากคิดถึงแล้วก็ขอขอบคุณที่อาจารย์กรุณาส่งสิ่งดีๆมาให้อ่านผ่อนคลายช่วงแล้งนี้
ครูอึ่งส่งข้อความว่าถึงบ้านแล้ว ส่วนอุ้ยไม่รู้ว่าหายยุ่งยากแล้วหรือยัง ร่ำๆจะได้มาสวนป่าแต่ก็แห้วไปอีกวาระหนึ่ง เอาถ่านมากากะบาดข้างฝาบ้านบันทึกสถิติไว้ ส่วนเจ้าดอกลำดวนไปโอ้เอ้อยู่บางกอกหลายเดือน ไปฟิตภาษาปะกิต ไม่รู้จะฟิตไปดูงานประเทศไหน
ผมได้รับเอกสารประสานงานเรื่องที่จะท่องใต้ระหว่างวันที่25-28 เดือนพฤษภาคม 2554 เพื่อเลือกเที่ยวบินและส่งเอกสารประกอบการเสวนาล่วงหน้าในงาน
-การประชุมวิชาการระดับชาติเครือข่ายวิจัยสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศประจำปี 2554
-การประชุมวิชาการและเสนอผลงานวิจัยมหาวิทยาลัยทักษิณครั้งที่21ประจำปี 2554
-การประชุมวิชาการระดับนานาชาติด้านการพลังงานทดแทนในประเทศกำลังพัฒนาและเศรษฐกิจใหม่
ถ้าเผชิญคำว่าประชุมๆ..คิดถึงอุ้ยเป็นบ้า..ไม่ทราบว่าใช้เวลาในห้องประชุมปีละกี่ชั่วโมง ไปใต้คราวนี้เจ้าภาพจัดงานที่โรงแรม เจ บี หาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ไปร่วมเวทีเสวนาในหัวข้อ
“วิถีคน วิถีชุมชน วิถีแห่งปัญญา”
โดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.)
ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ (มหาชีวาลัยอีสาน)
นายประยงค์ รณรงค์ (ปราชญ์ชุมชนไม้เรียง)
คุณประพจน์ ภู่ทองคำ (รายการเวทีชาวบ้าน) ดำเนินรายการ
ขอรับการอุปการะคุณในหัวข้อข้างบนนี้นะครับ
ถ้าญาติโกทั้งหลายจะร่วมสะท้อนคิด
กรุณาส่งความเห็นมาสมทบได้
เร็วหน่อยก็ดีเพราะจะได้ขมวดข้อเสนอแนะ อิ อิ ..
ลุยใต้คราวนี้มีเวลาพอสมควร คงจะได้เจอหลานๆขอไปเยี่ยมเรือนหอหลังใหม่ครอบครัวรัตติยา เขียวแป้น ถ้าน้าอึ่งจะไปเที่ยวด้วยก็ไม่ผิดกติกาใดๆ อาจจะมีรายการแว๊บไปดูงานอื่นๆที่สนใจบ้าง อยากไปตลาดกิมหยง เผื่อจะเจออินทผลัมสดๆ
เมื่อวานมีนักศึกษามาคุยด้วย มีท่านพระครูและรองเจ้าอาวาสจากวัดในอำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม, และจากอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย มีผู้อำนวยการโรงเรียนสมทบมาด้วย2ท่าน มีท่านหนึ่งจะไปนำเสนองานในการประชุมที่มหาวิทยาลัยทักษิณด้วย ผมเพียงแต่เสนอแนะว่า ..ถ้าเอาแต่ใช้หมัดเย็ปมันเสียเวลา ถ้าใช้หมัดอัปเปอคัตใส่กระโดงคาง จะน็อคได้ง่าย ยกตัวอย่างงานวิจัยเรื่องเอาใบไม้เลี้ยงโค หลวงพี่มอบหนังสือธรรมะเล่มโต “พระมงคลวิเสสกถา และ พระธรรมเทศนาในการพระราชกุศล” โฮ หายากมากนะครับ ไม่นึกว่าจะมีผู้รวบรวมไว้
· โจทย์ มาจากปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน เรื่องขาดแคลนอาหารสัตว์ในหน้าแล้ง
· วิธีการ เกิดจากแนวคิดใหม่ เอาใบไม้มาสับๆๆๆแล้วเลี้ยงโค
· แก้ปัญหาแบบโป๊ะแช๊ะ เอาสิ่งที่มีรอบบ้านมาสร้างมูลค่า เกิดประโยชน์ตรงๆ
· เกิดสูตรอาหารใหม่ ลดค่าใช้จ่าย แก้ปัญหาโคผอมให้อ้วนท้วนลงพุง
· ความชัดเจน แก้ไขปัญหาได้แน่นอน เพราะผ่านการทดลองมากับมือ
· ผลดี ทำให้เกิดความตระหนักต่อการปลูกต้นไม้ของชาวบ้านมากขึ้น
· เสนอแนวคิดใหม่ ไม่ต้องตัดต้นไม้ สางเอาใบ-กิ่ง-มาใช้ประโยชน์ก็พอแล้ว
· ผลลัพธ์ ช่วยปรับรูปแบบการเลี้ยงโคในที่แห้งแล้วดินเลว ช่วยตอบคำถามเรื่องการพึ่งตนเองด้านการผลิตปุ๋ยมูลโค โยงไปถึงการพัฒนาโปรตีนในชุมชน ที่สำคัญช่วยให้การเลี้ยงโคระดับชุมชนมีโอกาสฟื้นชีพขึ้นมาได้
· สรุป คิดและทำ รวบรวมผลลัพธ์ที่ได้ทั้งหมดมาเสนอ ตามข้อมูลที่เป็นจริง
งานวิจัยชุมชน “ค ว ร ส น อ ง ต อ บ ต่ อ ก า ร แ ก้ ไ ข วิ ก ฤ ติ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ใ น ชุ ม ช น ไ ด้ อ ย่ า ง แ ท้ จ ริ ง”
17 ความคิดเห็น
สวัสดีค่ะพ่อครู โรคคิดถึงถามหาเหมือนกัน อิอิ
คิดถึ้ง คิดถึง แต่ช่วงนี้งานยุ่งเหมือนกันจ้า
แหม….พ่อ คนมันดังเนาะ ยังมีรูปไปโผล่ได้อีก 5555( นั่นดังแล้วเหรอ ยัยราณี อุอุ)
เอ้าซาวด์เสียงหน่อย ใครคิดถึงสวนป่า ยกมือขึ้น เย้…..
อะไรๆก็เป็นไปได้ ไม่เชื่อห้ามลบหลู่ จ๊ากกกกกกส์
ยินดีต้อนรับล่วงหน้าค่ะพ่อ
ราณีน่ะรูปขั้นกล้องนะคะ จำได้ว่าครั้งหนึ่งหนังสือเรียนเด็กก็มีรูปราณีกอดกับ(?? จำไม่ได้แล้ว) อยู่ในบทเรียนด้วย…อย่างนั้นใช่ไหมคะราณี
ครูบาคะ หัวข้อสัมมนาน่าสนใจนะคะ
ถามครูอึ่งแล้ว อำเภอไชยปราการอยู่ไกลมิใช่เล่น ไปทางอำเภอฝาง
จะหาเวลาไปเชียงใหม่ในเวลาอันใกล้นี้
ส่วนหัวข้อสัมมนาฯต้องทำการบ้านส่งเขาเหมือนกัน อิอิ
เขามีรายการท่องเที่ยวให้เลือกด้วยนะแป๊ด
1 เก็นติ้ง ไฮแลนด์
2 เกาะลังกาวี
3 เกาะปีนัง
เป็นรายการ 3 วัน 2 คืนบ้าง 2วัน 1 คืนบ้าง
ยังไม่ตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวดี หรืออยู่กับเจ้าตัวเล็ก-ใหญ่ ดี อิอิ
เรื่องสางเอาใบมาให้สัตว์กินนี้ผมเองได้คิดไว้นานแล้วครับ แต่ใบต้องดกและมีสารอาหารมาก ผมมองเห็นขี้เหล็กนี่แหละคือหนึ่งในคำตอบ ใบมันดกจริงๆ และสารอาหารดีมากด้วย สูงปรี๊ดแทบทุกอยาง
แต่ไม่รู้ว่าพอสางออกไปแล้ว มันจะแตกใหม่ทดแทนได้ไวขนาดไหน นักวิชาการเกษตรไทยไม่มีคำตอบอีกตามเคย
ใบแคก็ดี แต่ไม่ดกครับ ใบยอก็เยี่ยม แต่ว่าใบใหญ่ ให้ปริมาตรน้อย
อีกอย่างคือ เราต้องคิดเครื่องสางใบด้วย ไม่งั้นเหนื่อยตายครับ ซึ่งเครื่องแบบนี้ไม่น่ายาก ช่างพื้นบ้านทั่วไปก็น่าคิดออก
ถ้าให้เนื้อไม้ด้วยยิ่งดีเลยครับ ได้สามต่อ แต่ขี้เหล็กดูเหมือนเนื้อไม้จะไม่ค่อยดี
ใต้ต้นขี้เหล็กก็ปลูกผักหวานบ้านได้อีก อย่าลืมนะครับ ร่มขี้เหล็กยังเป็นร่มพักร้อนให้สัตว์อีกด้วย
สำหรับพลังงานทดแทน ผมคำนวณมานานแล้วว่าปลูกไผ่ดีที่สุดครับ ดีกว่ายูคา 8 เท่า
แต่อย่าเอามาทำ gasification นะครับ เพราะปสภ.มันเพียงประมาณ 10% เท่านั้น เป็นอย่างมาก
แต่ถ้าเอามาเผาต้มไอน้ำ ขี้หมูหมาได้ 30% ครับ
อนึ่งการผลิตพลังงานนั้น ถ้าได้ปสภ.มากกว่ากัน 1% ก็มหาศาลแล้ว
แต่นี่ 300% มันไม่รู้เรื่องเลยครับ แต่ก็มีนักวิชาการบางคนเขาหากินกับกระแส หลอกคนทั้งประเทศได้ไปวันๆ ไม่สำนึกในบาปบุญคุณโทษกันบ้างเลย
ต้องขอบอกไว้ ณ ที่นี้ว่า ผมเคยฉะเจ้าพ่อผู้วางนโยบายวิจัยไทยว่า ขายชาติ มาแล้ว เมื่อ 15 ปีก่อน ไม่น่าเชื่อว่าหนูผู้กร้าวกล้าอย่างผมจะทำให้เขาผู้นั้นสำนึก (ลับหลัง) จนปรับงบประมาณการวิจัยไทย จากเดิมให้เกษตรประมาณ 5% และให้อิเล็กทรอนิกส์และไฮเทคทั้งหลาย 95% มาเป็นให้เกษตร 50% ในวันนี้ ซึ่งยังห่างเป้าผมไปมาก เพราะผมตั้งเป้าเกษตรไว้ที่ 95% ดังนั้นผมเลยต้องด่าเพื่อชาติต่อไปจนวันนี้
บาท่านจะได้กระทบไหล่ท่านผู้นั้นเร็ววันนี้แหละครับ อิอิ
ทุกเรื่องที่ท่านจอหงวนเล่า โดนใจ และก็ทำไปบ้างแล้ว เช่น ใบขี้เหล็กตัดมาผสมกับใบไม้อื่น ถ้ากินอย่างเดียวมันขม ไม่อร่อย อ้อ ไม่ได้แกงขี้เหล็กใส่ไข่มดแดงเหมือนให้คนเจี๊ยะ ส่วนไผ่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ผมมีแปลงปลูกไผ่เล็กไว้เรียนรู้ พบว่าไผ่หมาจูน่าปลูก ไผ่ตง ไผ่บงหวาน ก็ปลูกๆ ปลูกทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่ก็ยังขาดข้อมูลเชิงวิชาการ ทำแบบตาบอดคลำช้างนะครับ อิอิ
เห็นพ่อครูทักมาแต่เช้ามืด
คงไม่เคยนอนอืดเหมือนใครเขา
แม่ใหญ่ยังงุนงงอยู่ไม่เบา
เพราะเพิ่งเข้าลานปัญญาเข้ามาคลำ
(ไม่ทราบเขียนถูกที่ไหมนะคะ เพราะคลำหาทางมาตั้งแต่ตีสี่แล้ว)
แม่ใหญ่ คลำทางมาไม่ช้าชัก
ดีใจนักที่แม่มาเฮฮาด้วย
ตื่นตี4พี่น้องอย่างงงวย
รีบมาช่วยกันกอดป้าฮากระเจิง อิ อิ
น่าจะเลือกโปรแกรมลังกาวีค่ะพ่อ แค่ คืนเดียวเอาอยู่ ได้มีเวลาเหลืออยู่กับเข้าตัวเล็ก
น่าจะเลือกตามคำแนะนำ อิอิ
โห แม่ใหญ่มาก่อนครู ฮัก อีก
ตายละหว่าต้องตีปี็บให้ครูฮักซะแล้ว
ถ้าช้า อาจจะเป็นครูแห้ว นะออต
สนับสนุนลังกาวี
ผมเคยไปมาแล้ว ที่นั่นมีประวัติศาสตร์ไทยอยู่ด้วยครับ เพราะครั้งหนึ่งเกาะนี้เป็นของเราเหมือน……
ที่นี่จะมีเรื่องราวของ มะซาหลี (เขียนไม่ถูกขออภัย) ที่เป็นชายาของเจ้าเมือง ซึ่งเป็นชาวภูเก็ต เมื่อเจ้าเมืองไปรบ กลับมา ข่าวลือว่า มะซาหลี มีชู้ จึงถูกเจ้าเมืองทำการประหารชีวิต ก่อนที่แม่นางจะถูกประหารชีวิตก็กล่าวอะิษฐานว่า เราเป็นผู้บริสุทธ์ เราไม่ได้ทำสิ่วที่ถูกกล่าวหา ดังนั้นเมื่อถูกประหารขอให้เลือดเราเป็นสีขาว และเมื่อถูกประหาร นเลือดของนางก็เป็นสีขาวจริงๆ จนเรียกนางว่าพระนางเลือดขาว เจ้าเมืองสร้างรูปนางไว้ มีบ้านจำลอง ฯลฯ นางสาบให้ เกาะลังกาวีไม่เจริญไป 100 ปี
ต่อมาเมื่อ มหาเด เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่ง มหาเดเป็นคนลังกาวี จึงทำพิธีล้างบาป และลังกาวีมีอายุ 100 ปีพอดีพ้นคำสาป มหาเดตามหาตระกูลของพระนางเลือดขาว และไปพบญาติรุ่นที่สามมั้๊ง จึงเชิญไปเรียนฟรีในมาเลเซีย และเลี้ยงดู ดูเหมือนมีข่าวออกมาในเมืองไทยนานมาแล้ว
ตอนนี้ลังกาวีเจริญ และเขาพยายามแข่งกับเกาะภูเก็ตของเรา…..
ทราบว่าเป็นหินอ่อนทั้งเกาะ…..
ประวัติศาสตร์ยังมีอีกว่า ลังกาวีติดกับเกาะตะลุเตาของไทย และเกาะตะลุเตาคือคุกการเมืองสมัยโบราณ นักการเมืองคนสำคัญๆถูกมาจับขังปล่อยเกาะที่ตะลุเตา และมีการหนีไปขึ้นเกาะลังกาวี หนึ่งในนั้น คือ โหรคนสำคัญ และได้ทำนายชะตาเมืองไทยไว้ด้วย รายละเอียดส่วนนี้ ผมลืมไปแล้ว…
ลังกาวีเป็นเกาะปลอดภาษีครับ
เห็นแล้วเราก็โกรธอังกฤษที่มาเอาดินแดนเราไป อ้าว…..เดี๋ยวจะลามไปเขมร อิอิ
ไปเลยครับพ่อครูบา ลังกาวี…..
55555 ขอบคุณพี่บู้ท นะคะที่ช่วยสนับสนุนความคิดเห็น กะจะเขียนแบบที่พี่ว่าเหมือนกัน แต่ไม่มีเวลาค้นหารายละเอียด ยังไงอาจขอพ่วงไปเที่ยวกับพ่อด้วยสัก 2 คน (แป๊ด กับ เจ้าตัวเล็ก)