ระวังพยาบาลหาย

โดย sutthinun เมื่อ 24 กุมภาพันธ 2011 เวลา 5:14 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2245

เมื่อวานเอ้อระเหยมาถึงกระทรวงสาธารณสุข มาประชุมคณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ อะไรที่ลงท้ายด้วยคำว่าชาติ แสดงว่ามันเป็นปัญหาน่าปวดขมองทั้งนั้นแหละ การจัดการอัตรากำลังของแต่ละกระทรวงเป็นอะไรที่พิลึกกึกกืออยู่ภายใน ระบบราชการมีข้อจำกัดมากมายท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงตลอด จึงมีเรื่องตกค้างสะสมให้บิดตะกูดกันเรื่อยมา

อาคารสุขภาพแห่งชาติเพิ่งจะตบแต่งใกล้เข้าที่เข้าทาง คณะฯจึงจัดประชุมห้องใหม่เสียเลย กระทรวงสาธารสุขของไทยนั้นต้องยอมรับว่าเป็นกระทรวงที่มีอาณาจักรเป็นของตนเอง เป็นระเบียบเรียบร้อย จัดทุกกรมกองเข้ามาอยู่รวมกัน เป็นเสมือนเมืองๆหนึ่ง มีถนนซอกซอยไปยังอาคารหน่วยงานต่างๆ คนที่ไม่คุ้นชินก็จะต้องอ่านป้ายจนตาเหล่ ถามเจ้าหน้าที่บางคนก็ไม่รู้ว่าอาคารสุขภาพแห่งชาติตั้งอยู่ที่ใด ในเมื่อสร้างอาคารพรึบพรับขึ้นพร้อมๆกันในบริเวณกว้างขวางมาก มาที่นี่ต้องอาศัย>>ปากเป็นเอกเลขเป็นโท ก่อนหน้านี้ตระเวนไปประชุมตามโรงแรมต่างๆ ต่อไปก็จะมาปักหลักประชุมที่นี่สะดวกและประหยัดด้วย

อากาศเมืองนนทบุรีนั้นผีเข้าผีออก สมาชิกที่ร่วมประชุมใส่สูทบ้างแต่ส่วนใหญ่จะเสื้อบางๆดูเรียบร้อยตามสบาย ถ้าทุกแห่งทำอย่างนี้อาจจะลดอุณหภูมิแอร์ลงได้อีก ก็อย่างว่าแหละครับ วัฒนธรรมขององค์กร..โก้ไว้ก่อน ในอนาคตน้ำมันแพงขนาดคุยกับแฟนก็ต้องดับไฟ ตอนนั้นแหละค่อยมาดิ้นกระแด่วกัน

วันนี้ประชุมร่วมกับคุณหมอที่ทำหน้าที่ระดับนโยบาย ได้ฟังความคิดเห็นและวิธีแก้ปัญหาแบบถึงลูกถึงคน คุณหมอมงคล ณ สงขลา ประธานที่ประชุม ถามเจ้าหน้าที่ ก.. ตรงๆว่า บอกมาเล้ย>>เรื่องอัตรากำลังที่ขอ ได้ไม่ได้อะไรยังไงไม่ต้องอ้อมค้อม เจ้าหน้าที่ ก.. ก็ตอบว่า>>เราทำงานในรูปของคณะกรรมการ อยู่ภายใต้กรอบนโยบายที่ครม.กำกับ บอกตรงๆหรือไม่บอกต่างก็รู้ๆแก่ใจกันอยู่แล้วว่ายากส์ส์ส์ แปลว่าอะไร เฮ้อ น่าเห็นใจ ใครมาอยู่ ก.. อยู่สำนักงบประมาณฯหัวใจต้องทำด้วยไตตาเนียม

ตัวเลขผลิตกำลังคนเพิ่มเพื่อโรงพยาบาลเสริมสร้างสุขภาพตำบล

1.1 ผลิตพยาบาลวิชาชีพเพิ่มปี55-60ปีละ 1,100 คน

ผลลัพธ์ปี 64 จะมีพยาบาลเพิ่มให้ ร.. สต. 6,600 คน

1.2 ผลิตนักวิชาการสาธารณสุข ปี 55-60ปีละ 700 คน

ผลลัพธ์ปี 64 จะมีนวก.เพิ่มให้ ร.. สต. 4,200 คน

1.3 ผลิตนักวิชาการสาธารณสุข (ทันตฯ) ปี 55-60ปีละ 600 คน

ผลลัพธ์ปี 64 จะมีนวก.สธ. (ทันตฯ).เพิ่มให้ ร.. สต. 3,600 คน

1.4 ผลิตนักการแพทย์แผนไทย ปี 55-60ปีละ 350 คน

ผลลัพธ์ปี 64 จะมีนักการแพทย์แผนไทย.เพิ่มให้ ร..สต. 2,100 คน

รวมงบฯทั้งสิ้น 8,942.73 ล้านบาท (ใช้ใน10ปี)

หมายเหตุ งบพัฒนาพยาบาลเวชปฏิบัติทั่วไป 2,000 คน

รายงานการสูญเสียพยาบาลวิชาชีพสำนักงานปลัดกระทรวงฯปี2548

3 จชต. จัดสรร 26 คงเหลือ 24 สูญเสีย 2 การสูญเสีย 7.7%

จังหวัดน่าน จัดสรร 30 คงเหลือ 3 สูญเสีย 27 การสูญเสีย 90.0%

จังหวัดพะเยา จัดสรร 25 คงเหลือ 19 สูญเสีย 6 การสูญเสีย 24%

จังหวัดอื่นๆ จัดสรร 1,422 คงเหลือ 1,087 สูญเสีย 335 การสูญเสีย 23.6%

รวม จัดสรร 1,448 คงเหลือ 1,111 สูญเสีย 337 การสูญเสีย 23.3%

ผมมีรายการต้องไปโม้ให้สมาคมพยาบาลผ่าตัดต้นเดือนหน้า เห็นตัวเลขปี 2552 มีรายการผ่าตัดทุกหน่วยงานรวมกันทั่วประเทศ แยกเป็นโรงพยาบาลศูนย์ 677,363 ราย โรงพยาบาลจังหวัด 724,168, ราย โรงพยาบาลชุมชน 538,008 ราย รวมสุทธิ 1,939,539 ราย ลองเอา365วันหารดูสิครับ เราปาดกันอุตลุดขนาดไหน ถ้านับของโรงพยาบาลเอกชนด้วย ข้อมูลคงทะลุไปอีกเท่าไหร่ไม่รู้ ตัวเลขเหล่านี้คงขยับไปอีก ส่วนจะช้าหรือเร็วก็ขึ้นกับการบริหารสุขภาวะของสังคม

** ถ้ากระตุ้นให้คนไทยรักตัวเองดูแลตัวเองรับผิดชอบตัวเองได้ดีขึ้น หรือไม่ก็คิดเชิงนโยบายแบบสมดุล ตามที่ท่านจอหงวนเสนอ แทนที่จะกำหนดบัตรทอง 30 บาท ตายทุกโรค ก็มาเปลี่ยนเป็น5,000บาท รอดตายเกือบทุกโรค

เรื่องขาดแคลนหมอและพยาบาลคงเป็นปัญหาเกาะติดแบบกัดไม่ปล่อยไปอีกนาน ในเมื่อประชากรมากขึ้น การเจ็บป่วยมีความซับซ้อนมากขึ้น เป็นโรคเรื้อรังมากขึ้น มีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีปริมาณผ่าตัดเพิ่มขึ้นดังที่แสดงแล้ว พบว่า โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ต้องการพยาบาลวิชาชีพ รวม 128,100 คน

จากตัวเลขข้างบนจะเห็นว่า

เราจะต้องร่วมด้วยช่วยกัน

คนไทยจะต้องรักและทะนุถนอมพยาบาลไว้ให้ดี

อย่าไปทำอะไรให้ระคายเคืองใจ

ถ้าพยาบาลหนีไปทำงานต่างประเทศ

เราก็จะขาดพยาบาลไปอย่างน่าเสียดาย

ถ้าพยาบาลหนีไปแต่งงานหรือลาออกไปดูแลครอบครัว

เราจะขาดพยาบาลหนักเข้าไปอีก

จึงขอร้องพ่อเจ้าชู้ประตูดินทั้งหลาย

ที่กำลังคิดจะจีบพยาบาลขอให้คิดหน้าคิดหลังให้ดี อิ อิ..

« « Prev : หลบม็อบมาหมอบดีกว่า

Next : อากาศอำนวย » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 กุมภาพันธ 2011 เวลา 18:08

    ดูแลพยาบาลน่ะ ดูแลง่ายนิดเดียว…
    1. เพราะพยาบาลสามารถทำได้หลายอย่าง…ดังนั้น เรื่องการมาออกคำสั่งซี้ซั้ว..เลิกเถอะ…พยาบาลเขาคิดของเขาเองได้..สั่งมากๆเข้า…ไปทำที่อื่นดีกว่า
    2. เพราะพยาบาลน่ะ อยู่บนลำแข้งของตัวเอง คนขาดซะขนาดนี้ ยังกัดฟันทำงานกันไปตราบใดที่เห็นว่าไม่ใช่เพราะถูกเอาเปรียบเกินไป…ดังนั้นถ้าหัวหน้าคิดว่าไม่เห็นโวยวายเลยเอาเปรียบไม่ดูแลทุกข์สุข อัดงานให้มากๆๆๆ แต่ไม่ดูแลสวัสดิการละก้อ….ไปทำที่อื่นดีกว่า
    3. เพราะพยาบาลน่ะความมุ่งมั่นสูง…ประมาณว่าดื้อนะ…ที่ใครเขาไม่รักก็มีเยอะ บางทีก็ดื้ออยู่งั้นแหละ….อิอิ
    เขียนสัก 3 ข้อพอหอมปากหอมคอค่ะ..ฮ่าๆๆ

    มีหลายอย่างที่ไม่ใช่แค่เงินค่ะ ที่พยาบาลจะย้ายหรือไม่ย้าย หรือลาออก

  • #2 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 กุมภาพันธ 2011 เวลา 18:22

    ข้อมูลที่ผมสืบมาได้เมื่อ 10 ปีก่อนโดยประมาณคือ
    อีสานมีหมอต่อหัวปชช. 1:8000
    ภาคเหนือ 1:2000
    กทม. 1:500

    และจากการคำนวณของผมเอง ตำรวจต่อหัว ปชช. เฉลี่ย ทั่วประเทศ คือ 1:200 (โดยอีสานน่าจะดีกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ เพราะตำรวจเลวๆที่ถูกทำโทษเขาเอามาปล่อยไว้อีสานหมดสิ้น )

    ตัวเลขนี้มันขมขื่นมาก ในหลายมิติ

    ผมเอาตัวเลขนี้ (และอีกหลายๆตัวเลข) ไปบอกพรรคการเมืองบางพรรคว่า ถ้าอยากกลับมาครองอีสานไม่ยากเลย แต่เขาไม่สน

    ที่ผมคิดและบอกคนไปมากหลายแล้วคือ หมอไทยที่สร้างมานี้มัน “ดีเกินไป” ตอนนี้รัฐบวมมันบ้าไปแล้ว กำหนดยุทธศาสตร์ให้เป็น medical hub จะรักษาคนต่างชาติ หาเงินเข้าประเทศในขณะที่ประเทศของเขาเอง มีหมอ 1:8000 มันบวมจริงพับผ่า

    เราใช้เงินประมาณ 5 ล้านบาทกระมัง ในการสร้างหมอไทยหนึ่งคน พวกเขาเก่งจนกระทั่งไม่ยอมรักษาคนไทยไปแล้ว หอคอยงาอะไรก็ไม่รู้ ที่ไปรักษาแต่คนต่างชาติ เป็น international hospital กันเถือกไปหมด (เลียนแบบมหาลัยไทยมาแหงเลย)

    ทำวิจัยกันก็ทำแต่เพื่อรักษาโรคยากๆ ของฝรั่ง ที่ทั่วโลกเป็นกันไม่กี่คน ส่วนโรคง่ายๆที่เป็นกันดาษดื่นทั่วอีสาน เขาไม่ลดตัวลงมาทำวิจัยกันหรอก แม้แต่โรคไหลตาย ที่ก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไร

    สรุปคือ โรคที่รักษายากที่สุดคือ โรคเห่อ โดยเฉพาะถ้ามาระบาดในกลุ่มบุคคลที่มีออโตอิมมูนสูงๆเช่นหมอ (อิอิไม่ออก)

  • #3 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 กุมภาพันธ 2011 เวลา 18:34

    สมัยผมเป็นนักเรียนทหาร ยังจำได้ว่า ผมสละเลือดปีละสองครั้ง และผมจะเดินดุ่มเข้าไปแบบสุ่ม แต่เพื่อนๆ ผมมันจะรอว่าพยาบาลนางสาวหนึ่งว่างในการเจาะเลือดจึงจะแทรกเข้าไป เธอชือ กำไลทอง เพราะมากๆ สวยมากๆด้วย

    ผมมาคิดว่าทำไมพยาบาลส่วนใหญ่จึงสวย น่าแปลกนะครับ ใช่ว่าจะสวยไปหมดทุกคน แต่ถ้าหาค่าเฉลี่ยกันแล้วไซร้ ผมว่าพยาบาลน่าจะเป็นกลุ่มอาชีพที่ผู้หญิงหน้าตาดีที่สุด มันแปลกจริงๆ (อาจยกเว้นแอร์โฮสเตส และ นางแบบนะครับ)

    หรือว่า ตอนคัดเลือก สอบสัมภาษณ์ มีหมอผู้ชายเป็นกรรมการสอบ ?

  • #4 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 กุมภาพันธ 2011 เวลา 22:46

    เรื่องสวยนี่พูดยากนะคะอาจารย์ทวิช ลางเนื้อชอบลางยา
    แต่ชุดพยาบาลจะบังคับความสะอาดและไม่มีเครื่องประดับเพราะป้องกันการนำเชื้อจากคนหนึ่งสู่คนหนึ่ง(แต่เดี๋ยวนี้ หย่อนวินัยกันไปมาก )

    แต่ อะแอ้ม อาจารย์ทวิชจำชื่อได้แม่นขนาดนี้ คงไม่ธรรมดา

    เข้าเรื่องค่ะ
    อัตราส่วนนี้ ถ้านับจำนวนหมอที่อยู่รักษาจริงๆ คงน้อยกว่านั้นค่ะ เพราะวันแต่ละวันอาจจะสลับกันไปประชุมบ้าง สัดส่วนต่อจำนวนคนไข้จริงคงแตกต่าง

    ส่วนพยาบาลก็เหมือนกัน ถ้าไม่นับพยาบาลที่ถูกดึงไปทำงานวิชาการด้านเอกสารและเอาไปใฆ้งานอื่นเช่นคิดเงินคนไข้ ทำเอกสาร ha ต่างๆ ตามแต่ช่วงประเมิน จำนวนพยาบาลที่ปฏิบัติงาน “พยาบาล” จริง มีน้อยกว่าจำนวนตามอัตรากำลัง

    อาจารย์พยาบาลที่พานักศึกษาฝึกงาน คือแรงงานแฝงที่ทำหน้าที่แทนพยาบาลประจำการ และแรงงานนักศึกษาพยาบาลอีกมากมาย ที่เป็นแรงงานฟรี ที่เข้าไปแบกรับงานของพยาบาลฟรีๆ แต่ถูกใช้เกณฑ์เดียวกับอาจารย์สาขาอื่นในการประเมินผลงานค่ะ
    ตอนนี้อาจารย์พยาบาลขาดแคลน และไหลสู่ ว.เอกชนมากขึ้นค่ะ ถ้าไม่มีมาตรการดูแลเชื่อว่า การขาดแคลนในภาครัฐจะมากกว่านี้แน่นอนค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.96312093734741 sec
Sidebar: 0.16002011299133 sec