แล้งนี้พี่ระทมน้องเอ๊ย

โดย sutthinun เมื่อ 13 กุมภาพันธ 2011 เวลา 7:46 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2661

น้ำหาย เป็นเรื่องที่วิตกกังวลลึกๆเรื่อยมา ยังอยู่ในอาการพูดไม่ได้ไอไม่ดัง โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ๆไม่มีแหล่งน้ำผิวดิน แถมขุดดินขุดสระก็เก็บน้ำไว้ไม่ได้ ขุดบ่อระดับน้ำก็ถอยลึกลงไปเรื่อยๆ นอกจากพึ่งพาน้ำฝนแล้ว ผมเจาะบาดาลจำนวน2บ่อสูบน้ำขึ้นมาใช้ นี่ยังดีนะที่มีไฟฟ้า ไม่งั้นมีหวังแห้งเหี่ยวหยั่งเขียด เมื่อลานซักล้างพูดถึงเรื่องน้ำ ผมจึงซาบซึ้งกระดองใจนักแล

วิธีแก้ พยายามหาภาพชนะมาเก็บน้ำฝนไว้ให้มากที่สุด ลดพื้นที่ๆปลูกพืชที่ต้องการน้ำ หันมาปลูกพืชหัวแข็งที่ทนแล้ง ย้อนหลังไปเมื่อครั้งมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ตื่นเช้ามามีน้ำหมอกน้ำค้างพร่างพรมจนเปียกชื้น ป่าได้ซับช่วยซับความชื้นไว้ ช่วยยืดระยะความชุ่มชื้นให้พืชรอรับน้ำฝนที่จะตกลงมาคราวหน้า ต่อเมื่อภาคการเกษตรทำการรุกป่าเอาพื้นที่มาทำการเพาะปลูกแบบไม่บันยะบันยัง กลไกทางธรรมชาติก็หงายเก๋ง ประจวบกับฤดูกาลที่แง่งอน ทำให้ฟ้าฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล นี่ผ่านมาไม่รู้กี่เดือนแล้วนะ ฝนยังไม่ตกมาสักแปะ เมื่อวานสวนข้างๆถูกไฟป่าเล่นงานนับพันไร่ สงสัยจะลามปามมาจากพวกเผาอ้อยหรือเผาฟาง ร้อนแห้งอย่างนี้เจอไฟเข้ามันช้ำชอกจนบอกไม่ถูก

ปรากฏการที่เห็นโทนโท่ วัชพืชต้นไม้ใบหญ้าแห้งกรอบซบผิวดิน กล้วยที่เคยเห็นว่าทนแสนทนก็ใบกรอบเกรียม ต้นแห้งเหี่ยวจนไม่มีหน่อมีปลี มะละกอที่เคยเกิดเองจากเมล็ดที่นกกระรอกกระแตกระจายพันธุ์ ก็ยืนต้นผอมๆเหงาๆ ต้นไม้ทิ้งใบเกลื่อนเพื่อลดการใช้น้ำ หญ้าที่ปลูกไว้เลี้ยงสัตว์มองไปเหมือนพรมสีน้ำตาล อาหารคนอาหารสัตว์ไปไม่รอดทั้งคู่ สิ่งที่บ่นระบายให้เห็นนี้คือข้อจำกัดที่นับวันจะหนักหนาสากรรจ์ขึ้นตามลำดับ การทำมาหากินบนพื้นที่แห้งแล้งดินเลว มันจะไปได้สักกี่น้ำ อีกหน่อยมิต้องหันไปปลูกต้นตะบองเพชรเลี้ยงอูฐเหมือนตะวันออกไกลรึเธอ

เท่าที่ทำเตาะแตะอยู่ตอนนี้ ต้องวางแผนปลูกพืชแบบประณีต ปลูกแต่น้อยดูแลให้มาก ให้ปุ๋ยให้น้ำได้ ไม่อย่างนั้นแล้วอย่าไปเสียแรงปลูกเสียให้ยาก การเกษตรกำลังเข้าตาจน ส่วนจะตาเหล่ตาส่อนก็ต้องลุ้นระทึกต่อไป

· คำถามที่ต้องยิบยกขึ้นมาอันดับแรกก็คือมีน้ำเพียงพอช่วยพืชไหม

· แหล่งน้ำมีปริมาณเท่าใด

· ต้นทุนการสูบน้ำใช้น้ำเป็นอย่างไร

· เทคนิคการให้น้ำเป็นอย่างไร

· ปลูกอะไรมันถึงจะคุ้มทุน

· มีชุดความรู้เกี่ยวกับเรื่องน้ำแล้วหรือยัง!

สมัยหนึ่ง มีการคิดที่จะสูบแม่น้ำโขงมาใส่เขื่อนใส่แหล่งน้ำในภาคอีสาน ในนามโครงการอีสานเขียว เมื่อดีแต่เพ้อเจ้อ น้ำโขงก็เหือดหายไปอีก อีสานเขียวก็เป็นอีสานเหี่ยวต่อหน้าหน้าต่อตา วิกฤตินี้เป็นไม้ตายที่ยาก ถ้าคิดได้แค่นโยบายมักง่ายแบบเอางบภัยแล้งมาถลุงเล่น ถ้าไม่มีคำตอบที่ชัดเจน เราจะเห็นผลกระทบจากความแห้งแล้งในรูปแบบพิลึกพิลั่นแต่นี้ไป

ช่วงที่Cottoมาก็ชวนคุยเรื่องนี้ ให้เห็นที่ไปที่มาของการเอาใบไม้มาเลี้ยงสัตว์ การทำแปลงเกษตรประณีตอย่างจริงจัง ปลูกผักสมุนไพรในพื้นที่ 1 ไร่ เอาปุ๋ยคอกมาหว่านให้เต็มพื้นที่ เอาฟางมาปกคลุมพื้นแปลงผัก ปลูกพืชมีเถาว์เพื่ออาศัยร่มเงาคลุมพื้นที่ลดแสงแดด ในหลุมกล้วยก็อาศัยฝากปลูกอินทผาลัม พร้อมกับเหน็บเมล็ดฟักทองยักษ์ไว้ด้วย รดน้ำครั้งเดียวส่งผลถึงพืช3 อย่าง ถึงกระนั้นก็เถอะยังตุบๆต้อมๆอยู่ดี เพราะยังไม่ได้คำนวณค่าไฟฟ้าสูบน้ำบาดาล ได้ข้อฉุกคิดพอสมควร ว่าจะออกแบบพื้นที่เพาะปลูกอย่างไรถึงจะสมดุล ก า ร เ ก ษ ต ร ยุ ค นี้ ต้ อ ง อ า ศั ย ค ว า ม รู้ จ ะ พึ่ ง เ ท ว ด า แ ล ะ ค ว า ม ข ยั น อ ย่ า ง เ ดี ย ว ไ ป พ อ ห ร อ ก จะเลี่ยงจะหลบตรงจุดไหน ความแห้งแล้งก็เป็นเหมือนเงาสะกดรอยตามทุกย่างก้าว

· หมดยุคปลูกทิ้งปลูกขว้าง

· หมดยุคปลูกแบบมักง่าย

· หมดยุคปลูกแบบมักโลภ

· หมดยุคปลูกให้เทวดาเลี้ยง

· หมดยุคเลินเล่อเรื่องน้ำ

· หมดยุคที่ไม่คำนวณน้ำต้นทุน

· หมดยุคที่จะต้องกำหนดปริมาณพืชและสัตว์ที่สมดุล

· หมดยุคขี่ช้างไล่จับตั๊กแตน

· หมดยุคใช้น้ำลายมาแทนน้ำท่าน้ำฝน

· หมดยุคแห่นางแมว

· หมดยุคจุดบ้องไฟ พระยาเถรเผ่นไปไหนไม่รู้

คำที่ขอถาม

..วันนี้มีชุดความรู้ที่จะทำมาหากินในพื้นที่แห้งมหาโหดแล้วหรือยัง

..ถ้ายังเซ่อบ้องอยู่ ..ไปปรึกษาคนพื้นถิ่นอัฟริกาดีไหม?

..อย่าตอบนะว่า ..ก่อม็อบภัยแล้ง ชิมิ ชิมิ ..

« « Prev : Cotto ไว้ลาย

Next : เมื่อหมอนัดเข้าห้องผ่าตัด » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

5 ความคิดเห็น

  • #1 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กุมภาพันธ 2011 เวลา 10:56

    อากาศแล้งปีนี้น่ากลัวจริงๆ น้ำในบ่อลงลึกเร็วมาก
    ใบยางแห้งหล่นเร็วกว่าทุกปี ดอกยางเริ่มแดงเต็มต้น เหมือนๆกับเมื่อก่อนจะเป็นอย่างนี้ช่วงสงกรานต์

    อากาศแปลกไปเรื่อยๆ ดอกเอื้องผึ้งที่บ้านปกติออกดอกเดือนเมษา ปีนี้ออกดอกแล้วค่ะ

    บอกใครได้ ก็พยายามบอกเรื่องความแล้ง…แต่คนที่เคยประหยัดน้ำอย่างไงเขาก็ประหยัดอยู่ คนที่ไม่ประหยัดอย่างไงก็ไม่ประหยัดค่ะ
    คนไม่ประหยัดเขาก็ไม่ประหยัดสักเรื่องนั่นแหล่ะ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กุมภาพันธ 2011 เวลา 11:06

    บางคนอาจจะต้องรอให้เกิดวิกฤติระดับตำน้ำกินกระมัง อุ้ย อิอิ

  • #3 kasapop ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กุมภาพันธ 2011 เวลา 11:13

    ปัญหาพวกนี้คนเมืองไม่เคยตระหนัก เพระาไม่เคยรู้ว่ามันมีอยู่เลยด้วยซ้ำไป กว่าจะรู้ตัวคงต้องตะบันน้ำกินเหมือนครูบาว่าละครับ

  • #4 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กุมภาพันธ 2011 เวลา 12:08

    พ่อครูครับ ความคิดเรื่องการเอาแม่น้ำโขงมาใส่ภาคอีสานนั้นยังไม่ปิดไปนะครับ นักการเมืองจ้องฟันอยู่
    บริษัทรับเหมา จ่ออยู่ บริษัทที่ปรึกษา ทำอะไรล่วงหน้าพร้อมจะยัดใส่มือนักการเมือง หรือพรรคการเมืองให้กำหนดนโยบาย หาเม็ดเงินก้อนโตมาเท่านั้น การแบ่งผลประโยชน์ก็เกิดขึ้น ทั้งไทยทั้งต่างชาติคิดรายละเอียดล่วงหน้าไปแล้วครับ

    ผมเองก็เฉียดเข้าไปในเรื่องนี้อยู่ แค่เศษ ฝุ่นละอองข้อมูลทั้งหมด เขารู้ว่าจะทำมาหากินนั้นทำอย่างไร ผมเองก็รู้ ใครมาทำงานอีสานก็ต้องเรื่อง ดิน น้ำ ป่า คน วนเวียนเรื่องเหล่านี้แหละครับ

    บ้านเมืองเรา ถูกนักการเมืองและนักธุรกิจจูงประเทศไปตามผลประโยชน์ โดยอ้างประชาชนมาตลอด
    อ้าว มาบ่นซะแล้ว…

  • #5 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กุมภาพันธ 2011 เวลา 18:46

    ยังไม่เห็นโลงศพ ก็เลยไม่รู้สึกรู้สาอะไรกระมังครับอาจารย์ kasapop

    ตกลงโครงการอีสานเขียวรอวันใส่ตะกร้าล้างน้ำอยู่ใช่ไหมครํบ อิอิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.072113990783691 sec
Sidebar: 0.073925971984863 sec