งัวเงียยามสงัด
อ่าน: 2594(กล้วยขาดน้ำ ประเทศขาดความสงบสุข)
ท่ามกลางความเงียบสงัด
นึกว่าจวนใกล้ฟ้าสางแล้ว
เหลือบดูนาฬิกาเพิ่งจะเลยเที่ยงคืนไปชั่วโมงครึ่ง
มิน่าละ ช่างเป็นคืนที่เงียบสงัดเหลือเกิน
ได้ยินเสียงตู้เย็นครางเบาๆไม่ยอมหลับยอมนอน
แมลงกลางคืนคงหลบงีบไม่ออกมาระงมเช่นเคย
ถ้าจะบันทึกหมายเหตุแห่งปี
นึกขึ้นได้ว่าปีนี้มีมดดำระบาดไปทั่ว อาจนับได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นฝูงมดขนาดมหึมา เดินไปไหนก็เจอ เป็นมดที่หิวโซกัดเจ็บแสบถึงใจ
ขอให้ได้กลิ่นอะไรนิดหน่อยก็จะโยกโขยงมะรุมมะตุ้ม บอกเล่าชวนกันเดินมาเป็นสาย สัตว์เล็กสัตว์น้อยถูกรุมกัดตายเหลือแต่เพียงโครงกระดูกในเวลาชั่วคืน ลูกนกยูงก็ตายเพราะสาเหตุนี้ มันมาจากไหนนะ มาพร้อมกับม็อบที่เที่ยวตอแยไม่บันยะบันยัง ม ด กับ ม็ อ บ เป็นอะไรที่กวนใจในคราวใกล้เคียงกัน
คนกันเองจะเย้วๆยังไงก็ยอมอดยอมทน แต่เลยเถิดข้ามไปเย๊วแถวชายแดนเลยถูกซิวไปเข้าเรือนจำเข็ดขี้แก่ขี้อ่อน ทำไมกฎหมายประเทศเพื่อนบ้านศักดิ์สิทธิกว่าของเราใครล้ำเส้นมาเขาจัดการได้เบ็ดเสร็จ แต่ของเราหละหลวมเหมือนสวมกางเกงคนละไซน์หลวมโพรกแถมยังชะเวิกชะวาก ดูยังไงก็เห็นว่าผิดฝาผิดตัว ต่างคนต่างเดือดเนื้อร้อนใจไปคนละอย่าง มิรู้ว่าจะจบลง ณ.ที่และเวลาใด รึจะเรื่อยๆมาเรียงๆนกบินเฉียงไปทั้งหมู่ ถ้าไม่เป็นไข้หวัดนกตายฝูงก็บินไปเถอะ
(กล้วยเหี่ยวให้น้ำก็พอแก้ได้ แต่สังคมเหี่ยวจะรักษาด้วยอะไร?)
ปีนี้อากาศแปรปรวนระดับอาเพศเชียวแหละ ฤดูไม่เป็นฤดู เหมือนกับเอาหลายๆฤดูมาขยำรวมกัน ร้อนๆหนาวๆแห้งๆผสมปนเปแบบคาดคะเนอะไรไม่ได้เลย มีผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ต่างๆเอาปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมาบอกเล่า มีทั้งเรื่องนอกโลกและในโลก ไม่รู้ว่าจะเป็นลางบอกเหตุเป็นตายร้ายดีอย่างไร ก่อนหน้านี้ก็น้ำท่วมจมไปค่อนประเทศ ทางใต้ก็ฝนกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตา มาตอนนี้ทำท่าจะแล้งมหาโหดไปถึงไหนก็ไม่รู้ ต้นไม้ใบหญ้าปกคลุมผืนโลกน้อยลง ความแห้งเหือดก็ยิ่งทบเท่าทุกข์ทวี กล้วยที่ทนแล้งเพราะมีกาบใบอุ้มน้ำ ผลออกมาเล็กลีบอย่างน่าเวทนา เอาปุ๋ยเอาน้ำไปฝากดูว่ายากที่จะฟื้นไหม มะละกอก็ทนแล้งไม่น้อยหรอก ต้นชะลูดแต่ผลติดหรอมแหรม ดอกแห้งเหี่ยวก่อนที่จะมีลูก
ความกระด้างของมนุษย์รึเปล่าที่นำพาให้เกิดวิกฤติ
วิกฤติทางสังคม การเมือง และการมุ้ง การศึกษาเข้าระบบค้าการขาย ซื้อหากันในนามของตลาดวิชา แบ่งปันกันเฉยๆไม่ได้เลยหรือ ทุกอย่างมีเจ้าข้าวเจ้าของ ภาษาคนเมืองเรียกว่าลิขสิทธิ์ กิเลศทุกลากออกมาจัดสรรในรูปแบบต่างๆ จัดหมวดหมู่เข้าระบบ ใครละเมิดไล่จับกันซะด้วย อีแค่จะร้องจะฟังเพลงก็ต้องจ่ายค่าโน่นนี่จิปาถะ สารพัดวิธีคิดมีผู้เอาไปจดเป็นค่าเสียหายได้หมด แปลงความเห็นแก่ตัวเป็นรายได้ แล้วพลโลกมันจะอยู่กันยังไงละนี่ ในเมื่อมนุษย์กำลังหาเหามาใส่หัวทุกทั่วตัวคน ไม่ยอมก็ทนๆเอา ทำไงได้นอกจากจะมาเรียนวิธีบริหารความหวานอมขมกลืน อย่าทะลึ่งคิดค่าวิชานี้อีกละ
มนุษย์พวกกวนตัวไม่เท่าไหร่ แต่พวกกวนใจมีมากขึ้นทุกที วันๆไม่รู้คิดอะไร เจ้าพวกคิดเรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ กับเจ้าพวกที่คิดเรื่องไวรัสเป็นกลุ่มเดียวกันหรือเปล่า เมื่อละเมิดลิขสิทธิ์กันมากๆก็หาทางให้จ่ายทางอ้อม
เออหนอ..ค่า โ ป ร แ ก ร ม กับ ค่า โ ป ร กร อ บ
ช่างคิดออกมาได้
อ้าว นกทืดทือออกมาร้องแล้ว
ขอเข้าห้องน้ำแล้วไปคลุมโปงต่อนะโยม
ชิมิ ชิมิ ..
Next : สวนครัวสุขภาพฉบับคนแซ่เฮ » »
11 ความคิดเห็น
ถ้าจะทำกล้วยตาก ผมมีเครื่องอบแห้งแสงอาทิตย์ (ขายสิทธิบัตรก้ได้แต่ให้ฟรีครับ) ทีทดลองแล้วได้ผลเร็วกว่าตากแบบชาวบ้าน 4 เท่าครับ แถมสะอาด แมลงไม่ลง ฝุ่นไม่จับ กันฝนอีกต่างหาก ราคาลงทุนก็ไม่มาก
ว่าไปแล้วอบแห้งได้เอนกประสงค์ครับ เช่น พริก (ลองแล้วเร็วกว่าชาวบ้าน 4 เท่าเช่นกัน) ผลไม้ ปลา กุ้ง
กล้วยดิบนี้เคยมีการวิจัยว่าสามารถเอาไปทดแทนแป้งสาลีในการทำขนมปังได้ระดับหนึ่งนะครับ แต่ผมไม่ได้ติดตามลึกๆ
สังคมเหี่ยวก็คงต้องการน้ำเหมือนกันครับ เช่น น้ำใจ น้ำอดน้ำทน น้ำพักน้ำแรง ไงครับ
น่าสนใจงานประดิษฐ์ของอาจารย์
ผมกำลังมองหาเครื่องตากแห้ง
จะเอามาตากเส้นน้ำเต้านะครับ
จะทดลองทำเส้นบะหมี่น้ำเต้า
และจะเอามาตากพริก ตากสมุนไพร และ ตากๆๆ อะไรอีกจิปาถะ คร๊าบบบบบ!
ที่บ้านต้นฟักเขียวขึ้นหลังคาเพราะไม่มีที่เลยค่ะ..เลยไม่ห้อยโตงเตงแต่นอนผึ่งพุงบนหลังคา
ตอนนี้เถาเริ่มเหี่ยวแล้ว อยากเก็บไว้เผื่อมาสวนป่าเหมือนกันค่ะ
ที่สงสัยอย่างคือ คนโบราณทางเหนือที่มีคาถาอาคมจะไม่กินน้ำเต้า ไม่รู้ว่าเพราะอะไรค่ะ
คนไม่มีคาถงคาถา ยังไม่ทราบเหตุผลเหมือนกันครับ
ที่อีสานก็มีความเชื่อคล้ายกัน
ผมนึกไม่ออกว่าน้ำเต้าจะไปทำให้คาถาเสื่อมได้อย่างไร
เมื่อไม่ยึดถือก็เลยฟาดเรียบ สบายแฮ
ถ้าอุ่้ยเก็บฟักแก่ๆขอเมล็ดด้วยนะครับ
จะเอามาปลูกแข่งกับพันธุ์ที่ปลูกไว้
อิ
เรื่องเครื่องอบแห้งแสงแดด ยินดีมากครับ เบอร์โทรผม… ผมเสนอไว้มากหลาย ไม่มีใครสนใจสักราย เขาคงดูถูกว่ามันไม่โก้ แบบนาโนเทค
ผมสนใจที่สุดเลยละครับ
ขอบคุณครับ
ได้บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ของ อ.ทวิช ไว้ให้พ่อครูบาเรียบร้อยแล้วนะคะ จึงขอไม่แสดงเบอร์โทรศัพท์ของอาจารย์ตามคำแนะนำ “การคิดก่อนโพสต์” ในลานเจ๊าะแจ๊ะ โดยคุณ Logos ดังนี้ค่ะ
“ข้อมูลบนเน็ตอาจย้อนกลับมาทำร้ายเราได้ภายหลังโดยคิดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นรูป ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ใครเป็นเพื่อนกับใคร ใครทำงานที่ไหน ฯลฯ ต่อให้ไหวตัวลบข้อมูลนั้นออกไป แต่ข้อมูลก็อาจถูกดูดไปแล้วครับ อะไรที่เปิดแล้ว คิดจะปิดก็ปิดไม่ได้แล้ว
เช่นเพื่อนเขียนมาขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อนอีกคนหนึ่ง แทนที่จะเม้นท์ตอบไป ให้โทรหรือส่ง SMS กลับไปบอกแทน ไม่อย่างนั้น พอคนคิดร้ายได้เบอร์ อาจจะโทรไปหลอกคนอื่น (เช่นที่บ้าน) โดยเอาเบอร์ส่วนตัวนี้เป็นเครื่องยืนยันตัวเพื่อนเราได้ ว่าเพราะเจ้าตัวบาดเจ็บจึงให้ติดต่อคนรู้จัก; กรณีหลอกกันทางอีเมล ก็มีให้เห็นมากมาย เช่นบอกว่าโดนล้วงกระเป๋า+โทรศัพท์ที่ต่างประเทศ ต้องการให้ส่งเงินไปช่วยทันที — ลานปัญญาซ่อนอีเมลเอาไว้จากโปรแกรมดูดอีเมล แต่ถ้าใช้คนคลิกดู ก็ยังไม่รอดอยู่ดี
แม้จะทำไปโดยความบริสุทธิ์ใจ ความบริสุทธิ์ใจก็จะไม่ช่วยลดความเสียหายอันอาจจะเกิดขึ้นได้เลยครับ อย่าได้บอกที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เบอร์บัญชี หรือข้อมูลส่วนตัวกับใคร ข้อมูลส่วนตัวของสมาชิกลาน ถ้าจำเป็นจะต้องโพสต์ ขอให้อยู่ในลานเจ๊าะแจ๊ะนี้ อย่าเอาไปโพสต์ที่อื่นแม้ในบล็อกอื่นๆ ในที่สาธารณะอื่นๆ ไม่ว่าในลานหรือนอกลานครับ
บนเน็ต ขอให้คิดให้ดี ก่อนทำอะไร… ก็ได้แต่เตือนล่ะครับ ถ้าโกรธก็ขออภัยด้วย เรื่องโหดๆ อย่างนี้ ต้องเป็นผมทุกทีเลย เฮ้อ”
http://lanpanya.com/journal/archives/9499
เมื่อมีเบอร์แล้วจะช้าอยู่ไยละแห้วเอ๋ย
โทรเลย ประสานงาน ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
รู้ครึ่งเดียว ทำครึ่งเดียว เมื่อไหร่จะไปถึงปลายอุโมงค์
มีคำตอบเรื่องความเชื่อทางไสยศาสตร์เกี่ยวกับน้ำเต้าบันทึกไว้ที่คลังปัญญาไทย เลยลอกมาฝากค่ะ
“น้ำเต้าในความเชื่อคนไทยก็คล้าย ๆ ฟักแฟง ก็คือ คนที่เชื่อไสยศาสตร์ไว้ ตามร่างกาย หรือสักยันต์ไว้ตามร่างกายจะไม่เดินลอดค้าง ที่ปลูกน้ำเต้าอย่างเด็ดขาด หนักเข้าก็ไม่กินเลย เพราะเชื่อกันว่าผลไม้เหล่านี้จะทำให้ของขลังในตัวเสื่อมได้ หรือไม่ก็อาจจะเพราะคำว่าเต้าไปพ้องกับคำว่าเต้านมของสตรีก็เป็นได้ ในสมัยก่อนนั้น ตำรายาไทยก็ให้ต้มน้ำเต้า หรือแกงเลียงน้ำเต้าให้หญิงที่เพิ่งคลอดบุตรแล้วไม่มีน้ำนมได้กิน จึงเรียกว่าน้ำเต้า เพราะกินแล้วหญิงที่เพิ่งคลอดบุตรนั้นก็จะมีน้ำนมไหลออกมา”
http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2
ขอบคุณครับ
จากการทดลองสนุกๆ พบว่าน้ำเต้ามีจุดดีมากมาย
ปลูกง่าย ไม่มีแมลงรบกวนจนตองใช้ยาฆ่าแมลง
ยอด รับประทานได้
ผลนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด
ระบบข้อมูลในไทยยังขาดในส่วนสากล
ดูว่าทั่วโลก มนุษย์รู้จักและใชเประโยชน์มากมายนัก
วันหลังจะส่งไปให้ชิมนะครับ อิอิ
ขอบคุณครูปูครับ ที่โทรไปประสานกันแล้ว คงได้ทำประโยชน์ให้สังคมต่อไป
สำหรับผม ไม่สนใจท่าไร เรื่องสาธารณะ เปิดเผยหมดทุกเรื่อง ว่าเป็นใครมาแต่ไหน มีความรู้อะไรที่พอให้กันได้ ก็ให้ มีอะไรทีอยากได้ก็ขอ ไม่ให้ก็ไม่ง้อ
มีคนระดับประเทศสูงสุด โทรมาขอให้ผมเดินทางไปพบ เพื่อร่างนโยบายปฏิรูปประเทศไทยให้พรรคการเมือง ที่คฤหาสน์พันล้าน แต่เงิน 2000 บาท ค่าเดินทางก็ไม่ให้ผม ขนหน้าแข้งผมร่วงไปสองสามเส้น แต่ให้ทานมามากกว่านี้นับร้อยครั้ง แต่มันเสียน้ำใจมากกว่า
เกิดมาพึ่งกัน แบ่งปันปัญญา โง่บ้างฉลาดบ้าง เรียนรู้ซึ่งกัน ต่างตอบแทนกันไปเถิดนะ