กำขี้ดีกว่ากำตด
อ่าน: 1940ช่วงนี้มีอะไรๆที่แปลกๆออกมาให้เห็น ทุกอย่างคาดการไม่ได้เลย หนาวอยู่ดีๆ กำลังศึกษาเรื่องเอาหินมาอังไฟให้ร้อนแล้วอุ้มขึ้นเตียง เอาผ้าห่อหนานอนกอด ดูสิว่าจะอุ่นได้ประมาณไหม เทวดาก็หาเรื่องเตากระป๋องกระแป๋งมาให้คิดวิธีคลายหนาวกาย แต่วิธีคลายหนาวใจไม่ยอมบอก
เมื่อวานนี้อากาศร้อนแห้งกลับมากะทันหัน จากที่เคยรุ่มร่ามกับเสื้อหนา ก็ถอดเสื้อโชว์ก้างอาบแดดได้สบายๆ พวกสัตว์เลี้ยงต้นไม้ใบหญ้าไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง ช่วยเท่าที่ทำได้ เอาปุ๋ยมาใส่หาฟางมาคลุม วางโปรแกรมรดน้ำแบบประหยัด เพื่อจะยื้อความชุ่มชื้นให้ยาวออกไป ปีนี้คงจะแล้งมหาโหดแน่ เพียงต้นปีน้ำผิวดินน้ำใต้ดินก็เริ่มส่ออาการแล้ว แม่น้ำและบ่อบาดาลอาจจะต้องปรับปรุงข้อมูลใหม่ บางทีวิธีอาบน้ำวันละ5ขันของท่านมหาจำลองอาจจะกลับมาก็ได้ ยังดีที่เขื่อนใหญ่รับน้ำไว้เพียบก่อนหน้านี้ แต่ก็นั่นแหละจะรับประกันได้ขนาดไหนก็ไม่รู้
ไม่ได้ขาดแคลนเฉพาะน้ำนะครับ สินค้าอุปโภคบริโภคแอบขึ้นราคากระฉูด! ปุ๋ยยูเรียขึ้นราคา ผักปลาอาหาร เครื่องปรุง ขึ้นๆๆกว่าที่ควรจะเป็น ประสิทธิภาพการกำกับดูแลก็ยอบแยบเต็มที สังคมนี้กำลังอ่วมอรทัย ผู้นำชาวบ้านโอดครวญให้ฟัง ทุกโครงการถูกเจ้าหน้าที่เรียกเก็บหัวคิว จะเซ็นผ่านโครงการส่งเสริมอาชีพให้ก็ต่อเมื่อจ่ายใต้โต๊ะหมู่บ้านละ1-2หมื่นบาท
ยกตัวอย่างโครงการแจกลูกหมูครัวเรือนละตัว
ตีราคาตัวละ1,400 บาท
จอมเขมือบแนะนำให้ตั้งราคาตัวละ1,600 บาท
ส่วนเกินส่วนต่างนี่แหละเอามาแบ่งกันเจี๊ยะ
ผู้นำซื่อตรงแต่ไม่ซื่อบื้อ ถามว่า จะให้ผมจ่ายได้ยังไงมันไม่ถูกต้อง
แทนที่จะเจอคำแนะนำ
กลับเจอคำขู่..ไม่จ่ายไม่เซ็นผ่านให้จริงๆนะโว้ย
อบต. กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-ชาวบ้านพูดเสียงเดียวกันให้รีบจ่ายเขาไป
กำขี้ดีกว่ากำตด!! ++ตด! และ ตด!
เฮ้อ หาอะไรที่ดีกว่านี้กำไม่ได้เลยเรอะลูกพี่
อย่า เ รี ย ก โ ค ร ง ก า ร ไ ท ย เ ข้ ม แ ข็ ง เ ล ย
น่า จ ะ เ ป ลี่ ย น ชื่ อ เ ป็ น โ ค ร ง ก า ร กำ ขี้ ดี ก ว่ า กำ ต ด
ผมคิดเล่นๆต่อไปว่า การที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเล่นบทไดโว่ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางเช่นนี้ นอกจากจะสร้างกระบวนการห่วยแตกขึ้นแล้ว ในที่สุดก็จะเกิดวิกฤติศรัทธาระหว่างกันขึ้น แทนที่จะสร้างผู้นำชุมชนที่ดี ก็ทำลายผู้นำด้วยวิธีที่บีบให้ทำอะไรๆที่ไม่สมควร ในที่สุดเจ้าหน้าที่ของรัฐฯก็ถูกดูแคลน(ในใจ) การขืนใจชาวบ้านนั้นไม่ได้จบลงง่ายๆหรอกนะต๋อย ทำให้คนมักง่ายนั้นมันง่ายดายนัก การสร้างคนให้รับผิดชอบต่างหากที่รัฐบาลควรจะคำนึง ผู้นำท้องถิ่นพูดไม่ได้ไอไม่ดังหวานอมขมกลืน
ต่อไปทางราชการจะขอความร่วมมือก็อะไรก็จะยากขึ้น ถ้าไม่มีเงินมาล่อ ไม่มีของฟรีมาแจก จะยุ่งยากไปหมด เ ห มื อ น ก ร ณี เ งิ น ไ ม่ ม า ก า ไ ม่ เ ป็ น นั่ น แ ห ล ะ แทนที่จะลดเรื่องนี้ได้กลับหนักข้อขึ้นไปอีก ค น ไ ท ย กำ ลั ง ต ก อ ยู่ ใ น สั ง ค ม ที่ ผิ ด ป ก ติ
ถ้าสังเกตจะเห็นคำแปลกๆโผล่มาเสมอ วิกฤติต่างๆก็จะประกาศเป็นเรื่องภัยพิบัติ เขตภัยพิบัติ บางเรื่องก็เหมาะสม แต่ตอนนี้มันพร่ำเพื่อไปหมด เรื่องขี้หมูราขี้มาแห้งประกาศเป็นภัยพิบัติไปหมด มันส่อให้เห็นว่า ชาวบ้านไม่ต้องคิดไม่ต้องทำอะไรหรอก มีอะไรมาสะกิดนิดหน่อยก็ร้องแรกแหกกระเชอ เรื่องพึ่งตนเองพึ่งพากันเอง มันวิ่งเข้าป่าไปหมดแล้ว งอมืองอเท้ารอ เหมือนเปรตขอส่วนบุญ..
ยุคไทยเข้มแข็ง มันเข้มมันแข็งตรงไหนไม่ทราบ?
คิดถึงเรื่องที่ท่านบางทรายเล่าเรื่องการพลิกสถานภาพทางสังคมในสปป.ลาว วันใดที่เรื่องสุกงอม จนประชาชนร้อง..เรียมเหลือทนแล้วนั้น!
ก็จะเกิดสภาวะ กูไม่เอามึง!
ที่ไปที่มาในสปป.ลาวน่าจะเป็นอุทาหรณ์ได้ ลาวมีการยกโครงเครื่องระบบบริหารสังคมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บ้านเมืองสงบปกติสุขทั่วหน้า เดินหน้าเต็มสูบพัฒนาบ้านเมือง คนลาวติดตามดูข่าวม็อบต่างๆในบ้านเมืองเรา เขาคงจะสงสารหรือสังเวชก็ไม่รู้นะครับ
สถานการณ์ในบ้านเมืองเรา
เรื่องสมานฉันท์-หลายมาตรฐาน-ไทยเข้มแข็ง-ม็อบรายวัน
นิทรรศการรักชาติจนน้ำลายไหล
เป็นแค่น้ำจิ้มที่รอให้เรื่องสุกงอม
ถ้าเงิน กับ ความรู้ ไปมาสู่สังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรม
ถึงตอนนั้นตัวใครตัวมันได้ไหมก็ไม่รู้นะต๋อย
รู้แต่ว่าถ้าตายอย่างเขียดไม่น่าดูตรงไหนเลยละครับ
ชิมิ ชิมิ ..
« « Prev : ห้องผ่าตัดเลี้ยวทางนี้
4 ความคิดเห็น
ชื่อบันทึกช่างสอดคล้องกับเรื่องเน่าๆเหม็นๆดีเหลือเกิน ได้กลิ่นตั้งแต่ยังไม่อ่านเลยครับ อิ อิ
ก็เอาตัวอย่างจากพระอาจารย์นั่นแหละ อิอิ
อ่านแล้วมาหัวเราะออกก็ตรงความเห็นของสองท่านที่ตอบกันข้างบนค่ะ อิอิ
เดี๋ยวนี้เงินเป็นเหตุผลของทุกอย่าง จนรู้สึกว่าคุณค่าของคนหายไปไหน
น้ำใจถ้าต้องวัดด้วยเงิน คนจะเหมือนหุ่นยนต์ที่มีแต่อารมณ์โลภและอารมณ์รุนแรงนะคะ
มันเซ็งๆก็หาเรื่องฮาเรื่องอิอิ ไปยังงั้นแหละอุ้ย อิ..