หมาเห่าเครื่องบิน
อ่าน: 2325วันนี้มองท้องทุ่งทางอากาศ เห็นตารางไร่นาเล็กๆกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ แสดงว่าเราไม่มีแผนจัดการที่ดินทำกินอย่างเป็นระบบ สมัยก่อนใครต้องการจะตั้งถิ่นฐาน ผู้อาวุโสในกลุ่มเครือญาติของชุมชนนั้นๆ จะชวนกันออกตระเวนเดินทางไปแสวงหาที่ตั้งบ้านเรือน แรกๆอาจจะทดลองมาอยู่ไม่กี่หลัง แต่พอทำกินผ่านไปสักหนึ่งฤดู พืชพรรณธัญญาหารเจริญงอกงาม ข่าวดีเหล่านี้ก็จะแพร่กระจายออกไป ผู้คนเชื้อเผ่าเหล่ากอเดียวกันก็จะทยอยมา เมื่อมีจำนวนหลังคาเรือนมากขึ้นก็จะตั้งเป็นหมูบ้าน ปริมาณประชากรไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง4-50 ปีที่ผ่านมานี้เอง
ในการเลือกพื้นที่จะเน้นเรื่องแหล่งน้ำ ป่าอุดมสมบูรณ์ ไม่ห่างจากเส้นทางสัญจรมากนัก ซึ่งอาจจะเป็นทางน้ำหรือทางบกก็ได้ รวมทั้งอาจจะคำนึงถึงความปลอดภัยห่างไกลจากชุมโจร เรียกเป็นสูตรว่า “ดินดำน้ำชุ่ม” สมัยก่อนใครมีเรี่ยวแรงมากก็จับจองเอามาก แต่ก็มีข้อจำกัดเหมือนกัน เพราะยังไม่มีเครื่องทุนแรงเหมือนสมัยนี้ คนสมัยก่อนจะไม่โลภ คิดจับจองเอาเท่าที่กำลังของครัวเรือน
ต่อมาลูกหลานโตขึ้นแยกเหย้าแยกเรือน ที่ดินก็ถูกแบ่งๆออกไป จากผืนใหญ่ก็เป็นผืนขนาดกลาง ต่อมาก็เป็นผืนเล็กผืนน้อย รูปร่างลักษณะที่ดินก็วัดเอาตามความสะดวก ทำให้การจัดการรูปที่ดินในภายหลังมีปัญหาอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการตัดถนน ทำคูคลองส่งน้ำ หรือเดินไฟฟ้าเข้าไป ส่วนมากจะซิกแซกไปตามรูปที่นา ทำให้ลำบากที่จะไปพัฒนาให้มีความเหมาะสมต่อการทำการเกษตร
ในอดีตก็ไม่กระไรนัก เพราะฟ้าฝนตกต้องตามฤดูกาล แต่สมัยนี้น้ำมาก็มามาก น้ำไปก็ไปเร็ว พืชไร่ที่ปลูกไว้จึงแห้งเหี่ยวหัวโต บางพื้นที่ๆไม่มีปัจจัยที่เอื้อทางธรรมชาติ ก็อาศัยทำการเกษตรด้วยน้ำฝนอย่างเดียว ไม่สามารถที่จะส่งน้ำไปหล่อเลี้ยงพืชผลได้เหมือนการเกษตรเขตชลประทานแบบในภาคกลาง
บางแห่งใช้วิธีเจาะน้ำบาดาล แต่ก็อีกนั่นแหละ น้ำใต้ดินอีสานส่วนมากจะกระด้างหรือไม่ก็เค็ม ถ้าอาศัยน้ำผิวดินที่พอใช้ได้ก็มีปริมาณไม่เพียงพอ จึงขุดสระขุดบ่อตามหัวไร่ปลายนาเท่าที่จะทำได้ หรือไม่ก็เลือกปลูกพืชที่ไม่ต้องการน้ำมาก เช่น ยางพารา อ้อย มันสำปะหลัง ยูคาลิปตัส หลายพื้นที่ไม่สามารถปลูกข้าวโพด ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ได้เช่นในอดีต เพราะปัญหาเรื่องความชื้นในดินไม่เพียงพอ ดินเสื่อมโทรมรักษาความชื้นไว้ได้น้อย ประกอบกับฟ้าฝนก็แปรปรวนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกษตรน้ำฝนจึงมีทางเลือกการเพาะปลูกน้อยลง ปัจจุบันจะเห็นมีสินค้าทางการเกษตรอยู่ 4-5 ชนิด ลดลงจาก 10-15 ชนิด ถ้าไม่ทำการเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง ก็จะเดี๊ยงกันทั้งบาง หลายหมู่บ้านผลผลิตไม่คุ้มทน จึงพากันหนีไปขายแรงงานในกรุง เปลี่ยนจากเกษตรกรไปเป็นกรรมการ
ทางเลือกอื่นมีไหม?
มีสิ
วันนี้มีเขยฝรั่งนั่งเครื่องมามากกว่าครึ่งลำ ฝรั่งวัยเดอะมีคู่วัยกระเต๊าะกันทุกคน ประเภทขาวสวยผิวผ่องฝรั่งเมิน ขายบ่ออก ถ้าดั่งหักผิวดำแกรนๆถือเป็นสะเป๊กนิยม ถ้าเป็นมวยก็คงห่างกันหลายรุ่น แต่เรื่องนี้เขาไม่เกี่ยงน้ำหนักกันหรอก ตัวใหญ่เท่าไหร่ถือว่ากำไรเท่านั้น ผมแอบสังเกตการแต่งกายของเธอ เล็บมือเล็บเท้าแสดงว่าเข้าห้องเสริมสวยมาครบเซ็ท ทองหยองเหลืองอร่ามเต็มตัว เธอเอาหนังสือมาเปิดชี้ชวนดูกับคุณลุงหวานใจ ผมชื่นชมที่เห็นเธอพูดฟุตฟิตฟอไฟเก่ง คุยกันกะหนุงกะหนิงชื่นมื่น
อย่างน้อยภาษาอังกฤษเธอก็ดีกว่าผมล้านเท่า
ไม่แน่นะ
บางที่ภาษาต่างด้าวของเธออาจจะดีกว่าดอกเตอร์ห้องแถวบางคนก็ได้
โชคดีเถิดนะหนู
อย่าไปวอรี่เลยสามีไทย
เหลวไหลก็ปานนั้น
กินเหล้าเมาการพนันก็ปานนั้น
เจ้าชู้ก็ปานนั้น
หลังยาวก็ปานนั้น
กระล่อนก็ปานนั้น
วันดีคืนดียังเอาเท้ามาเหน็บซี่โครงอีกแน๊ะ
เลือกคนที่เลี้ยงดูหนูได้นะดีแล้ว
ไอ้หนุ่มไทยปล่อยให้เป็น>>
หมาเห่าเครื่องบินไปเถอะ
« « Prev : จริงหรือ : มีเมียแก่ขาดทุน?
Next : อิ อิ-ชิ มิ ชิ มิ-และ เต้าโต้ย » »
2 ความคิดเห็น
ขึ้นต้นอย่างนึง ไหงมาลงท้ายยังงี้ล่ะ ?
เรื่องจัดรูปที่ดินเพื่อการเกษตรของเราก็เริ่มขยับกัน แต่ที่อื่นเค้าให้ท้องถิ่นจัดรูปที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยกันมานานแล้ว
บ้านเราเพิ่งเริ่มขยับ อิอิ
ถามว่าเราห่างเค้ามากมั๊ย อย่างน้อยก็คงสี่สิบปี ยิ่งบ้านเมืองเราเป็นแบบนี้ คงห่างชั้นกันไปอีก อิอิ
เพิ่งอ่านเจอ คนที่จะปีนเขาเอเวอเรท ต้องจ่ายค่าเก็บขยะให้รัฐบาลเนปาล คนละ 180,000 บาท
นับเป็นค่าเก็บขยะแพงที่สุดในโลก
เรื่องการปรับแก้รูปที่ดินถ้ายังอยู่ในมือรัฐบาล ก็คงเหมือนสมัยโทรศัพท์ยุคก่อน กว่าจะขอเลขหมายได้ แทบตาย ช้าแล้วยังแพงอีกต่างหาก