จริงหรือ : มีเมียแก่ขาดทุน?
อ่าน: 1494หลังจากน้ำท่วมใหญ่ ก็มีคนทำนายทายทักว่าปีนี้จะหนาวใหญ่หนาวมากพอๆกับน้ำท่วม บางแห่งน้ำลดแล้ว บางแห่งยังทรมานอยู่กับน้ำเน่า บางแห่งเริ่มโอดโอยถึงความแห้งแล้ง ไปๆมาๆเรื่องภัยพิบัติจะทำควบคู่กันระหว่างภัยน้ำท่วมกับภัยแห้งแล้ง และจะมีภัยหนาวมาสมทบอีก ราชการมีคำเก๋ๆออกมา ผู้ว่าฯประกาศพื้นที่ประสบภัยด้านนั้นด้านนี้ วางแผนตั้งหน้าตั้งตาชดเชยช่วยเหลือกันไปอย่างเอิกเริก ซึ่งไม่เคยโครมครามขนาดนี้มาก่อน
ก่อนหน้านี้มีประสบภัยใดๆชาวบ้านต่างก็ก้มหน้าก้มตารับกรรมกันไป จะมีใครมาช่วยบ้างก็จากมูลนิธิต่างๆ ยังไม่มีการวางระบบบริหารความเสียหายจากเภทภัยต่างๆอย่างเดี๋ยวนี้ เมื่อเป็นบรรทัดฐานอย่างนี้แล้ว แต่ละปีก็จะต้องตั้งงบประมาณก้อนโตไว้คอยสงเคราะห์ช่วยเหลือ ซึ่งนับวันจะทวีคูณมากขึ้น เพราะมนุษย์ต่างช่วยกันสร้างเงื่อนไขให้เกิดภัยพิบัติซับซ้อนต่างๆนานา เปรียบไปแล้วเสมือนกับโอ่งรั่ว ถ้าอุดรูรั่วไม่ได้ น้ำก็จะไหลทิ้ง เติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม น้ำก็ขาดแคลน แขนก็อ่อนล้า หาทางออกยังไงดี?
ตัวแดงความอ่อนแอภาคสังคมชาวไร่ชาวนาโผล่ชัดขึ้นๆ
จากผลพวงที่คนรากหญ้าถูกกระทำถูกเอาเปรียบสารพัด
คนปลูก กับ คนขาย ได้รายได้แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
ผลมะกรูดในห้างราคาลูกละ 5 บาท ที่สวนป่าราคาลูกละ 0.50 บาท
ที่พูดๆกัน..ปลูกให้พออยู่พอกิน ฟังเผินๆก็ดูดี แล้วรายจ่ายอย่างอื่นละ ถ้าจะอยู่ได้อยู่ดีมันต้องมาตั้งเกณฑ์ใหม่แล้วนะต๋อย ปลูกให้พออยู่พอใช้ ต้องคิดปลูกและทำเพื่อค่าเทอมลูก ค่ายาค่าหมอ ค่าทำบุญ ค่าจิปาถะ ไม่งั้นรายจ่ายพวกนี้จะเอามาจากไหน วิธีแก้ด้วยการอุดหนุนไปทุกเรื่องก็ดีอยู่หรอกถ้าทำได้จริง แต่เตี้ยอุ้มค่อมจะไปได้สักกี่น้ำ บ้าหาเสียง เกิดสงครามแย่งชิงประชาชน สุดท้ายก็จะอับจนกันทั้งประเทศ >>
ประเทศอื่นเขาใช้งบประมาณแผ่นดินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ
แต่ประเทศเราเอาเงินมาใช้เหยี่ยวยาสังคมมากมาย
เงินชดเชยช่วยเหยื่อม็อบเหยื่อภัยพิบัติเป็นเงินที่ไม่งอกเงย ตราบใดที่สังคมยังแตกแยกอยู่อย่างนี้ การบริหารประเทศก็ยิ่งลำบากเพราะต้องไปเสียเวลากับเรื่องถอยหลัง ประชาธิปไตยแบบไทยๆนี้แหละที่รัดคอตัวเอง แล้วคนในประเทศนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร? ดื้อตาใสไฮโซโมเมชั่นไปวันๆ!!
ฟังอภิปรายในสภาฯก็เห็นลีลาแต๋วห่วยแตก
ในแต่ละปีเราจะเห็นว่าประเทศที่การเมืองสงบนิ่ง
บ้านเมืองเขาก้าวหน้าพรวดพราดไปอย่างไร?
ฤๅ>>กรุงรัตนโกสินทร์จะสิ้นน้ำยาเสียแล้ว
แทนที่คนในชาติจะหนาวลมก็มาหนาวจนใจเป็นเหน็บ
ใครปลูกผักปลูกต้นไม้ลองสังเกตดูนะครับ เราจะเห็นยอดอ่อนแตกออกมา ถ้าใส่ปุ๋ยรดน้ำพรวนดินยอดที่ว่าก็จะเจริญงอกงามตามลำดับ ช่วงรอยต่อระหว่างฤดูอย่างนี้ ไม้ใหญ่ประเภทผลัดใบกำลังปลิดใบร่วงหล่นเกลื่อนพื้น รอบๆบ้านจึงเต็มไปด้วยใบไม้ ต้นสะเดานำลิ่วออกหน้าเพื่อน สลัดใบแล้วก็จะแทงยอดอ่อนออกมา อีกหน่อยก็จะมีช่อเป็นพุ่มเป็นพวง ช่อสะเดาแต่ละปีเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ปีไหนดินฟ้าอากาศสมบูรณ์ดี ช่อสะเดาก็จะใหญ่ หักไม่กี่กิ่งก็เต็มตะกร้าแล้ว ที่สวนป่ามีต้นสะเดาหลายร้อยต้น กินยังไงก็ไม่หมดหรอก อย่างมากก็กะดี๊กะด๊าช่วงที่สะเดาออกมาใหม่ๆ เด็ดมาลวกจิ้มน้ำพริกเผา บิเนื้อปลาย่างหอมกรุ่น ชู๊ตเข้ากระเพาะ ถ้าแม่ครัวฝีมือดี จะอิ่มกันจนอืดเชียวแหละ มีผู้รู้บอกว่า กินสะเดาช่วงนี้ช่วยให้ปรับสมดุลของร่างกาย หลับง่ายท้องไส้ระบายดียิ้มหวานตาเยิ้ม อารมณ์กระชุ่มกระชวย
ช่วงนี้ดอกราตรีบานสะพรั่ง
กลางคืนส่งกลิ่นเข้ามาในห้องนอนจนฉุน
เป็นไม้ดอกที่กลิ่นแรงพอๆกับกลิ่นแพะตัวผู้
ถ้าเอา2กลิ่นนี้มารวมกัน
ได้บรรยากาศที่อบอวนไปด้วยกลิ่นแบบไหนก็ไม่รู้เน๊อะ
ใครอยากจะลองพิสูจน์กลางเดือนหน้าเหมาะที่สุด
10-12 ธันวาคม คณะแพทย์ฯ ม.อุบลขนกันมาลุยสวนป่า 70 ชีวิต
หนาวนี้ >> ถ้าไม่หาเหตุให้บรรเทา
มันก็จะหนาวๆสั่นจนไม่รู้จะปันผลกันยังไง?
ผมแปลกใจที่นักแต่งเพลง เขียนออกมาได้ > >
ใครมีเมียสาวก็คงสุขล้น
คนไหนมีเมียแก่ก็มีแต่ขาดทุน
ไม่พูดถึงคนที่ไม่มีทั้งสาวทั้งแก่เลยสักกะนิดเดียว
ชะแว๊บ ชะแว๊บ > >
« « Prev : ใครมีชื่อ ส. ยกมือขึ้น
4 ความคิดเห็น
“ใครมีเมียสาวก็คงสุขล้น
คนไหนมีเมียแก่ก็มีแต่ขาดทุน
ไม่พูดถึงคนที่ไม่มีทั้งสาวทั้งแก่เลยสักกะนิดเดียว”
นี่สิแดงว่า พ่อยังไม่ได้เห็นสมการของป๋าขาบนลานเจ๊าะแจ๊ะแง๋ ๆ เลยอ่ะ
http://lanpanya.com/journal/archives/9878#comments
ฮิ๊ว…
กำลังเขียนเรื่องอื่น พอดีได้ฟังเพลงสุรพล สมบัติเจริญร้อง
ก็เลยเลี้ยวแว๊ป
โดยไม่รู้เรื้องตัดเกรดตัดอะไรนั่นหร๊อก
รู้แต่เรื่องตัดใจไม่ขาด บอดใจแน่ๆ อิอิ
ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมลานสวนป่านานแล้ว ดูชื่อบันทึกนี้ก็คลิกเข้ามาเลย พลางชมในใจ การตั้งชื่อบันทึกนี้ จัดว่าเยี่ยม ได้คะแนนเต็มเลย โดยไม่ต้องสนในเนื้อหาภายใน…
อันที่จริง ชื่อบันทึกก็ไม่เกี่ยวกับสมภาร ไม่รู้จะสนใจเรื่องนี้ไปทำไม ใชไม่ท่านครูบา…
เจริญพร
นัมสการหลวงพี่
พระหนีไม่ออกเรื่องสังคม
คนไทยอาศัยพระช่วยกำกับดูแลวินัยทางสังคม
ท่านมาเยี่ยมจึงดีใจอย่างที่สุด
หายคิดถึงไปนิดหนึ่ง
สาธุ