ลานสวนป่า

>วันนี้มึนกับข่าวโกดังวัดแตก สื่อต่างๆประโคมกันอย่างสนุก เปิดทีวีช่องไหนอ่านข่าวหน้าใดก็จะเจอแต่เรื่องศพเด็กทำแท้ง ไอ่เรื่องอย่างนี้ทำไมตีไข่ตีข่าวกันเหลือเกิน เอาแค่หอมปากหอมคอก็พอ ยังไงๆเข้าก็รู้กันมาตั้งนานและละลุง ไม่ต้องตอกย้ำให้โชยกลิ่นไปทั่วโลก มันน่าจะจบสิ้นได้แล้ว ในเมื่อรู้ที่ไปที่มาแต่ละฝ่ายก็รับไปบริหารความเสี่ยงให้มันเป็นปกติ เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเค้า ก่อนหน้านี้ก็มีผู้เสนอให้จำหน่ายถุงยางอนามัยในโรงเรียนไม่ใช่หรือ เพียงแต่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่เอาจริง รู้แล้วก็อือๆออๆดื้อตาใสปล่อยให้กรุแตกทีก็เต้นกันที จับสับปะเหร่อเข้ากรง แล้วจะหาใครมาเปิดฝาโลงละทีนี้

จากคอลัมน์เครื่องเคียงอาหารสมอง ในมติชนรายสัปดาห์ บอกกล่าวเล่าแจ้งว่า ในปัจจุบันกำลังมีการทดลองใช้ยาคุมกำเนิดชนิดใหม่ ที่ไม่ใช่กินหรือฉีด หากเป็นการทาแทน งานวิจัยทดลองหญิง18คน ซึ่งนำเสนอในงานสัมมนาของ The American Society For Reproductive Medicine เมื่อเร็วๆนี้ ระบุว่าการทายาคุมกำเนิดชนิดใหม่ที่มีฮอร์โมนNestoroneและOestrogen ในบริเวณหน้าท้อง ต้นขา แขน และบ่าทุกๆวัน ให้ผลเป็นที่น่าพอใจและมีผลข้างเคียงน้อยมาก แหม >> ถ้าเป็นจริงตามนี้ พวกขี้ดื้อทั้งหลายต้องพกครีมประเภทนี้จนกระเป๋าโป่งแล้วละ ได้เวลาก็ทาครีมตั้งแต่หัวจรดเท้า จะได้ปลอดภัยไม่ท้องไม่แท้ง ตอนทับไม่ร้อง มาร้องตอนป่อง มันก็ยุ่งยังงี้แหละจ้า

อีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับน้ำท่วม นอกจากเทวดาจะเสนอทำอิฐมวลเบาแล้ว มีคนเสนอแนวคิดเรื่องการสร้างบ้านลอยน้ำ ราคาในต่างประเทศหลังละ 10 ล้านบาท แต่นิด้าคำนวณบ้านแบบไทยๆราคาอยู่ที่ 700,000 บาท ซึ่งก็ยังแพงอยู่ดี จึงขอคิดต่อ >> ต้นทุนน่าจะอยู่ที่การทำฐานลอยน้ำข้างล่าง บ้านแพโบราณไทยใช้ไม้ไผ่ สมัยนี้อาจจะใช้ถังพลาสติกหรือถังน้ำมัน200ลิตร ถ้าจะให้มั่นคงถาวรอาจจะทำเป็นแพคอนกรีตลอยน้ำ ถ้าใช้แรงงานช่วยกัน วัสดุอุปกรณ์-หิน-ปูน/ทราย-เหล็กหาคนมาคำนวณให้พอเหมาะ ให้รับน้ำหนักได้เหมือนโป๊ะท่าน้ำลงเรือตามที่เห็นในแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วสร้างบ้านไม้บนนั้น ต่อให้น้ำมามากแค่ไหนบ้านก็ลอยขึ้นไปเต้งเท้ง ได้ต้องกังวลเรื่องน้ำท่วมอีกต่อไป

· น้ำหลากมาจะนั่งวางข่าย-ยกยอ-ตกปลา-เพลินไปเสียอีก

· เดือนสิบ12น้ำทรง ก็ลอยกระทงหน้าบ้านสบายๆ

· แดดร่มลมตกก็ยกขันโตกมานั่งดวลชมวิวหน้าบ้านได้อีกต่างหาก

เรื่องอย่างนี้น่าจะมีผู้ให้ทุนมาทำการวิจัยทดลอง โดยเฉพาะบริษัทขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ถ้าสำเร็จผลประโยชน์ก็จะย้อนไปหา ลองนึกดูเกิดถ้าหมู่บ้านที่จมน้ำประจำหันมาสร้างบ้านลอยน้ำ ผู้คนจะมาช่วยกันอุดหนุนปัจจัยการผลิตบ้านเพิ่มขึ้นขนาดไหน?

อ้าว! ถ้าบ้านลอยเท้งเต้งในน้ำจะทำมาหากินกันอย่างไร

แหม เราก็ทำแพโฟมเอาตาข่ายพาลสติกห่อ เอาผักตบชะวาแห้งมาปู เอาดินขุยไผ่ผสมปุ๋ยอินทรีย์มาทำแปลงผักชั้นบน แล้วปลูกผักต่างๆ ผักบุ้ง พริก กระเพราะ ผักกาด ผักชี ถั่วพุ่ม ผักสลัด ยี่หน่า สระเหน่ ฯลฯ หรือโอ่งแตกก็ยังเอามาทำโอ่งผักลอยน้ำได้ ด้านล่างยังทำเป็นกระชังปลาได้อีก เลี้ยงปลาให้อ้วน เลือกตักมาลงหม้อต้ม เด็ดผักต้มยำใส่ลงไป บุบพริกขี้หนูสดใส่ลงไป บีบมะนาว เติมน้ำปลาดีจากสุราษฎร์ฯ ซดๆร้อนๆเธอเอ๋ยอร่อยจนพยาธิสะอื้น สลับกับแกงสายบัว ตำน้ำพริกลงเรือ

อ้าว! ถ้าเบื่อต้มยำตำน้ำพริกละ

เราก็เลี้ยงเป็ดได้นี่ครับ ทำแพให้เป็ดอยู่ ให้อาหาร ให้เศษผัก เป็ดว่ายน้ำอารมณ์ดีไข่แดงแจ๋เชียวแหละ วันดีคืนดีก็เอาไข่มาตีเจียวใส่พริกสดหั่นฝอย ทอดฉ่ากระทะร้อน ตามตำรับพระอาจารย์เม้งแห่งปัตตานี ณ เยอรมัน กินกับข้าวร้อนๆ เธอเอ๋ยเอาสะเต๊กมาแลกก็ไม่ยอม

ถ้าเบื่อต้มปลา-น้ำพริก-ไข่เจียว จะทำยังไง

ถ้ามากเรื่องอย่างนี้ก็ต้องมองหาพื้นที่บนชายฝั่ง ถ้าเป็นที่สะเทินน้ำสะเทินบก เราอาจจะพิจารณาเลี้ยงตะพานน้ำ กบ หอย หรือแม้แต่จระเข้ แค่นี้ก็มีโปรตีนบริโภคจนเต็มเมนู ถ้าแกร่งกล้าชำนาญการก็ขยายเป็นธุรกิจได้ในหลายลักษณะ ชอบตรงจุดไหนก็พิจารณาดัดแปลงได้ เช่น อาจจะรับสอนเด็กว่ายน้ำ เปิดสอนกีฬาทางน้ำ สอนดำน้ำ สอนวิชาน้ำท่วมโลก หรือไม่ก็เปิดภัตาคารริมน้ำให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ไหนๆจะแก้วิกฤติน้ำแล้ว ก็แก้วิกฤติด้านการงานอาชีพเสียเลย คนเราควรปรับตัวปรับใจ ไม่คิดไม่ทำอะไรใหม่ไม่ได้หรอก ขืนนั่งแหกปากงอมืองอเท้า เขาเรียกว่าคนบ้า! ครับผม

« « Prev : ศึกชิงนาง

Next : สายการบินนกแอร์ ตอนตาแก่ขี้ยั๊วะ » »