ลานสวนป่า

จากบ้านไปหลายวัน ต้องขอยืมสำนวนอาม่า “งานเข้าอีกแล้วพี่น้อง”

อันดับแรกได้รับเมล็ดน้ำเต้าจากเมืองหงสาประเทศลาว ที่อาว์เปลี่ยนส่งประกวด โฆษณาประชาสัมพันธ์ล่วงหน้ามาว่าพันธุ์นี้นะ>>ลูกยาวเกือบ2เมตร แหม นึกภาพไม่ออกเลยครับ ถ้ามีผลยาวได้อย่างนั้นคงจะตื่นเต้นกันไปทั้งบาง คงจะเก็บไปคุยโม้ ว่าสวนป่ามีน้ำเต้าพันธุ์ยาวที่สุดในโลก ที่อยากจะ อิ อิ..มากเลยก็คือ อาว์เปลี่ยนส่งเมล็ดน้ำเต้ามาในซองยาของโรงพยาบาล ประหยัด-เรียบง่าย-สะดวก-ใช้ได้ดี-รีไซเคิล ตามสไตล์ของชาวหงสาแต้ๆเน้อ พักหลังนักปลูกผักแปลกๆนำเข้าพันธุ์ผักชนิดต่างๆ เช่น บวบยาว ตอนแรกฮือฮามาก ลูกยาวโตงเตงเป็นเมตร ใครมาเห็นก็เอ้อโห หลังจากชินตาเรื่องนี้ก็สร่างซากันไป ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมไม่ขยายความฮือฮา ผมเองก็ปลูกนะะครับ หลังจากนั้นก็ลดระดับ อาจจะเป็นเพราะความยาวมันหดลงไปหรืออย่างไรนี่แหละ สุดท้ายหันมาสนใจ บวบลูกป้อมๆสั้นๆ ปลูกเพื่อจะเอาใยที่กลมๆมาขัดถูตัว แสดงว่าจุดประสงค์สุดท้ายคือคำตอบ

ที่ไล่มาติดๆ เป็นกล่องพัสดุจากครูอาราม อู่ทอง แห่งเมืองเจ้าแม่จามเทวี ส่งเมล็ดพันธุ์น้ำเต้ามาให้อีก 51 สายพันธุ์ ผมเตรียมแปลง/ค้าง/ระบบน้ำรอไว้แล้ว โดยขยายแปลงออกไป น้ำเต้าจะได้รวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เท่าที่หยอดเมล็ดไปชุดแรก หลายหลุมน้ำเต้าแตกใบอ่อนออกมาแล้ว มีแมลงรบกวนแทะขอบใบนิดหน่อย ยังไม่รุนแรงถึงกับจะใช้ยาไล่แมลง แต่ถ้าใครมาเยี่ยมสวนป่าช่วงนี้ น้ำเต้าที่หลงเหลือจากปีที่แล้วกำลังทอดยอด และบางเถาว์ก็มีลูกห้อยโตงเตง พอที่จะเอามาขูดเป็นเส้นๆนำไปผัดกระทะร้อนได้แล้ว เรื่องน้ำเต้าเป็นความชอบส่วนตัว ผมมองเห็นเสน่ห์ของน้ำเต้า ที่ผลมีรูปร่างแปลกไม่จบสิ้น ยังพัฒนาไปได้อีกไกล การนำมาใช้ประโยชน์ก็สอดรับกับผู้บริโภคทุกระดับ สามารถนำมาปรุงอาหารเป็นเมนูแปลกๆแถมยังอร่อยมีประโยชน์มากอีกต่างหาก ผลแห้งนำมาทำเป็นสิ่งประดิษฐ์ได้หลากหลาย ในประเทศไทยยังไม่มีใครเอาจริงกับเรื่องนี้ เมื่อทราบว่าครูอึ่งกับครูอารามไปเจอจอมยุทธน้ำเต้ามาทำวิจัยที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้จึงอื้อฮือมาก แถมยังได้รับความเมตตามอบเมล็ดพันธุ์มาให้ทดลองอีก สักวันหนึ่ง คนบ้าน้ำเต้าคงได้เจอกัน จะชวนอุ้ยไปเป็นคนแปล เพราะผมพูดภาษาปะกิดบ่ได้ อิ อิ

ยังมีซองพัสดุจากบริษัทอริยชนจำกัด ส่งหนังสือชื่อ ผู้นำ4ทิศ ศาสตร์แห่งการค้นหาตนเอง ซึ่งท่านจอมยุทธไร้กรอบ ดร.วรภัทร ภู่เจริญ ร่วมกันเขียนกับพระอาจารย์ฌานเดช พ่วงจีน เป็นหนังสือที่กอล์ฟส่งข่าวมาล่วงหน้าบอกว่าอย่าซื้อนะ อาจารย์จะส่งมาให้เร็วๆนี้ วันนี้ก็ได้รับแล้ว ขาดลายเซ็นเพราะไม่ได้รับกับตัวเอง ผมเปิดเร็วๆแทบวางไม่ลง “เพียงแต่เราได้กลับมาเรียนรู้ตัวตนของจิตวิญญาณที่แท้..และค้นพบว่า..เราเป็นได้ทั้ง4ทิศ ธรรมชาติจะดึงดูดทิศตรงกันข้าม ให้กลับมาเรียนรู้ซึ้งกันและกันเสมอ” อาจารย์ขมวดในคำนำว่า>> การที่ได้ทำหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่า น่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนเป็นส่วนใหญ่ หรืออาจจะเป็นคู่มือของความเป็นมนุษย์ก็ว่าได้ เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ได้อธิบายหลายเรื่อง ซึ่งเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และการดำรงอยู่เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน ฝากผู้ได้เรียนรู้ ฝึกฝนและฝึกฝืน อาจารย์ไร้กรอบได้รวบรวมจุดพิเศษที่ได้จากการทำกลุ่มกิจกรรม(workshop) กิจกรรมสุนทรียสนทนา (Dialogue) โดยจดบันทึกไว้ จากนั้นค้นคว้าเพิ่มเติม และสุดท้ายนำมาผสมผสาน ตกผลึกและดัดแปลง เพื่อให้ท่านผู้อ่านที่เคารพได้ใช้ประโยชน์สมความตั้งใจที่ร้องขอมา บทที่ 8 ว่าด้วยการปรับแก้ทัศนะ บทที่9 ว่าด้วยวงจรเรียนรู้และผู้นำที่ครบ4ทิศ บทที่ 11 ว่าด้วยแบบสอบถาม หนังสือเล่มนี้เหมาะกับมนุษย์ที่สนใจเรื่องการเปิดดูแลใจตนเอง ผมละอยากให้อาจารย์นักศึกษาในสถาบันต่างๆได้อ่านทั่วหน้ากัน แต่ก็นั่นแหละ ..ถ้าคนไหนวาสนาดีก็จะมีโอกาสได้เจอหนังสือเล่มนี้ จึงดีใจกับทุกท่านที่ได้อ่าน ของเขาดีจริงๆขอบอก>>

เรื่องสุดท้ายมาไกลจากมหาวิทยาลัยทักษิณ บอกกล่าวเล่าแจ้งว่า สถาบันวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยทักษิณ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา(สกอ.) ส่งสารมาชวนไปร่วมเสวนาในการจัดประชุมวิชาการระดับชาติเครือข่ายวิจัยสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศประจำปี2554/การประชุมวิชาการและเสนอผลงานวิจัยมหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 21 ประจำปี2554 และการประชุมวิชาการระดับนานาชาติการพัฒนาพลังงานทางเลือกอย่างยั่งยืน ในระหว่างวันที่ 25-28 พฤษภาคม 2554 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักวิจัยจากเครือข่ายวิจัยสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ ได้มีโอกาสเผยแพร่ผลงานวิจัยสู่แวดวงวิชาการ

ตามลายแทงแจ้งว่าให้ผู้เขียนไปเป็นวิทยากรร่วมเสนอในประเด็น “วิถีคน วิถีชุมชน วิถีแห่งปัญญา” โดยมีผู้ร่วมเวทีประกอบด้วย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ นายประยงค์ รณรงค์ คุณประพจน์ ภู่ทองคำ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา วันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2554 เวลา 13.00-15.30 น. ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ60ปี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ผมหาเรื่องจะไปใต้มานานแล้ว

ร่ำๆจะเผ่นแต่ก็ถูกจับแพ้ฟาล์วทุกที

คราวนี้ไม่แห้วแล้วนะแป๊ด

อยากจะไปเจอไอ่ตัวใหญ่ที่ขยันเรียนเป็นบ้าเป็นหลัง

กับไอ่ตัวเล็กที่ขี้เล่นแต่สมองดี

อนึ่ง ดูตามสาระการจัดสัมมนาแล้ว

คาดว่าจะมีคณาจารย์จากหลายสำนักทั่วประเทศไปพบปะกัน

คงจะมีที่รู้จักกันบ้างละน่า

คำที่ขอถาม>>

1 ชาวเรา>> ท่านใดมีโปรแกรมไปเสนอผลงานในเวทีนี้บ้าง

2 เราจะขนหนังสือ เจ้าเป็นไผ ไปด้วยดีไหม?

3 ท่านใดสนใจจะไปสมทบเที่ยวใต้

« « Prev : ออนซอนนครพนม

Next : ศึกชิงนาง » »