มังกรไสว
อ่าน: 1194คงจะไม่เป็นการโม้ที่จะบอกว่าจีนที่เก่งและสง่างาม ถ้าใครชมพิธีเปิดมหกรรมกีฬาของชาวเอเชียค่ำที่ผ่านมา ย่อมตื่นตาตื่นใจในความอลังการทุกกระเบียดนิ้ว เป็นงานสมน้ำสมเนื้อกับหน้าตาประเทศที่ยิ่งใหญ่ ผู้คนต่างทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประเทศของเขาบรรเจิด ไม่ต้องอธิบายหรือตีความใคร ๆ ก็เข้าใจได้ ว่ามังกรตื่นนั้นทำให้โลกสั่นสะเทือนอย่างไร ถนนทุกสายมุ่งสู่จีนแผ่นดินใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ชาวจีนโพ้นทะเลต่างหนีความอดอยากยากแค้นกระจายว่อนไปทั่วโลก แผ่นดินที่ว่านี้เคยถูกรุกรานย่ำยีด้วยชนชาติต่าง ๆ ถูกมองว่าเป็นแผ่นดินและชาติพันธุ์ที่ยุ่งเหยิงและซับซ้อน เป็นพลโลกชั้นสอง ไม่มีวันที่จะผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจได้
เพียงแค่ชั่วอายุคน จีนที่แสนล้าหลังรวมพลังกันสร้างชาติขึ้นมาได้อย่างก้าวกระโดด ทุกคนช่วยกันติดสปริงให้กับประเทศ เกิดปรากฎการณ์ที่แสดงความก้าวหน้าเป็นเบอร์หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินหยวน ที่ทำให้การค้าการขายสะกดค่าดอลลาร์และเงินตราอื่นจนอยู่หมัด ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีออกมายืนเคียงบ่าเคียงไหล่ประเทศตะวันตกได้อย่างพอฟัดพอเหวี่ยง จีนส่งจรวดดาวเทียมเป็นว่าเล่น มีรถไฟหัวกระสุนวิ่งเร็วและยาวที่สุดในโลก สร้างเขื่อนยักษ์เต็มประเทศ อาคารบ้านเมืองสวยงามทันสมัย สินค้าจากจีนทุกประเภทตีแตกสินค้านานาชาติ ทั้ง ๆ ที่ไม่กี่ปีมานี้จะหาห้องสุขาสะอาด ๆ ยากเต็มที มันเป็นความรุ่งเรืองที่รวดเร็วยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ มังกรยักษ์ตื่นขึ้นมาได้อย่างไร? เรื่องเหล่านี้ไม่สามารถปลุกเสกได้ในข้ามคืน แต่เขาสะสมพลังความตั้งใจดีอย่างทรนง จนทำให้ทุกภาคส่วนเป็นตัวคูณของกันและกัน
หันมามองประเทศสยาม เมืองพุทธที่เคยปกติสุขจนได้ชื่อว่าสยามเมืองยิ้ม เป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง มาบัดนี้เปลี่ยนไปเป็นประเทศเกกมะเหรกเกเร กลายเป็นสังคมติ๊งต๊อง อยู่อย่างไทยคือสุกเอาเผากิน จะคิดสะอาด ๆ ดี ๆ ไม่ได้เลยเชียวหรือ มันเกิดอะไรขึ้นในหัวสมองของคนสยาม ทั้ง ๆ ที่ไปไหนก็บังคับให้ใส่หมวกกันน็อค ไม่ทราบว่าจะป้องกันก้อนสมองโง่ ๆ ไว้ทำไม
ครูอึ่งเคยพาชาวเฮไปเยี่ยมพิพิธภัณฑ์ของเทศบาลนครลำพูน ซึ่งในอดีตครูเซี๊ยงเคยเปิดเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนร่วมกับภาษาไทยที่นี่มาก่อน ในยุคสมัยสงครามเย็น บ้านเมืองเราตกอยู่ในอิทธิพลของตะวันตก พยายามสร้างกระแสให้ระแวงจีน พยายามกีดกันอะไรที่เป็นจีนๆอย่างเอาเป็นเอาตาย โรงเรียนสอนภาษาจีนในไทยถูกบีบให้ปิดตัวลงทั่วประเทศ ยุคนั้นไม่เชื่อผู้นำชาติพ้นภัยอยู่ยาก ทำให้ครูเซี๊ยงย้ายมาก่อตั้งโรงเรียนมงคลวิทยาในปัจจุบัน สืบทอดเจตนารมณ์ในการสร้างคนสร้างชาติ แต่มาบัดนี้โลกหมุนกลับ ลูกหลานไทยกระหายที่จะเรียนภาษาจีนในอัตราก้าวหน้า ไม่แน่นะครับ ภาษาจีนจะมีความสำคัญและนิยมเรียนพอๆกับภาษาตะวันตกก็ได้ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าโลกนี้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แม้แต่ในประเทศสยามของเราเอง เราตอบได้ไหมว่า คนไทยจะวางอนาคตของประเทศไว้อย่างไร? ลูกหลานไทยจะเป็นพลเมืองชั้นที่เท่าไหร่ของโลกใบนี้
ต่อนี้ไปเราจะอยู่จะพัฒนากันอย่างไรภายใต้สังคมปีนเกลียว
กฎหมาย-วัฒนธรรมประเพณี-ศาสนา-สิ้นมนต์ขลัง
คำว่าสมานฉันท์ คำว่าสามัคคี ตายด้านไปแล้วหรือ
นึกคิดกันอย่างไรหนอ
หรือมีใครค้นพบโลกใหม่
ที่จะหอบเอากิเลศไปกกกอดเสวยสุขได้
มีจริงหรือ ทำได้จริงๆหรือ
ช่วยบอกหน่อยเถอะ
จะได้เลิกอิจฉาชาวแผ่นดินใหญ่
จะได้บอกคนจีนว่า
เฮียเป็นมังกรตื่นก็ช่างเถอะ
ตี๋เล็กลูกหลานจีนโพ้นทะเลจะเป็นงูดิน
กำลังดิ้นกระแด่วๆไปสู่ > >
การทำบาป-ชำระบาป-สารภาพบาป
2 ความคิดเห็น
ดูเหมือนกันค่ะ ประทับใจว่าเขานำเด็กมามีส่วนร่วมและให้ความสำคัญกับเด็กๆ ด้วยนะคะ เข้าใจเองว่า จีนพัฒนาเพื่ออนาคตอยู่ตลอดเวลา และเน้นกตัญญูด้วย
ของเราไม่ค่อยระวังเหตุ แต่มัวไปเอาเป็นเอาตายกับผลได้ผลเสียปัจจุบัน
องค์กรทิ้งคน คนก็ทิ้งองค์กร กฎธรรมดาๆ ค่ะ
เขียนเรื่องนี้นึกถึงอาป๊าของอุ้ย คนจีนโพ้นทะเลต้องต่อสู้อย่างทรหด
มาวันนี้คิดว่าชาวจีนทั่วโลกคงภาคภูมิใจในความเป็นจีน
ยังเหลือแต่พี่ไทย ที่จะยังไม่เอาไหนต่อๆๆๆไป
ไม่รู้ที่จบสิ้นลง ณ แห่งใด วาระใด วันใด