ลานสวนป่า

กุลาร้องไห้ เป็นคำเรียกขานจากสาเหตุอื่นเชิงเปรียบเปรย
แต่ในไม่กี่วันต่อไปนี้
กุลาจะร้องไห้จริงๆ น้ำตาท่วมทุ่งสุดลูกหูลูกตา
เวทนาแต่รวงข้าวที่ใกล้สุกจ่อมจมอยู่ใต้น้ำ
* เรื่องน้ำท่วมน้ำหลากกับทุ่งกุลาเป็นของคู่กัน
หลังจากชาวนาหว่านข้าวแล้วจะมีหญ้าขึ้นแซมทั่วไป
ระยะนี้ถ้าไม่มีน้ำมาท่วมหญ้าให้เน่า ข้าวกับหญ้าก็จะขึ้นเบียดกัน
อายุหญ้าสั้นกว่าอายุข้าว ถ้าถูกน้ำท่วมก็จะเปื่อยยุ่ยกลายเป็นปุ๋ย
ข้าวก็จะตั้งกอแตกรวงแข็งแรงชูรวงเต็มทุ่ง

(ข้าวเปลือกใหม่ รับซื้อได้น้อยมาก)
* แต่น้ำหลาก พ.ศ.นี้ ไม่เป็นไปตามวัฎจักร
ปีนี้น้ำมาช้า -มาผิดเวลา-มามากมายมหาศาล -มาแบบผิดปกติ อย่างไม่เคยมีมาก่อน
วิธีแก้ไขแทบจะมองไม่เห็น
ลำบาก-ยากยุ่ง-ในทุกกระบวนการ

* ถ้าชาวนาตัดสินใจแช่น้ำเกี่ยวข้าว-เกี่ยวมาแล้วจะตากที่ไหน
แดดไม่มีแถมฝนยังพร่ำๆ ถ้าไม่ตากข้าวก็จะงอก เก็บกองไว้ก็จะเน่า

ถ้าไม่เกี่ยว ก็ไม่รู้จะทำใจอย่างไร?
ความหวัง จมหายไปต่อหน้าต่อตา

(แม่น้ำมูลยังไม่เอ่อล้น บันทึกไว้เปรียบเทียบในอีก 4-5 ข้างหน้า)

ทุกปีจะตากข้าวเปลือกริมถนนหลวง ตากตามสนามโรงเรียน และลานเอกประสงค์ืในหมู่บ้าน

บางส่วนจะมีรถมารอรับข้าวไปอบแห้งที่โรงสี

* อำเภอสตึกมีโรงสีขนาดใหญ่ติดอันดับ 3-4 ของประเทศ
โรงสีจะส่งเสริมให้ชาวนากลุ่มหนึ่งปลูกข้าวแบบเร่งด่วน

หมายความว่า ให้สมาชิกเร่งผลิตข้าวให้สุกเร็วกว่าพื้นที่อื่นประมาณครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือน

พอข้าวเหลืองบ้างก็จะรีบให้รถไปเก็บเกี่ยว

โรงสีจะเอารถบรรทุกไปรอรับที่ข้างแปลงนา

แล้วจะรีบบึ่งเอาข้าวเปลือกไปเข้าไซโลอบให้แห้ง

เพื่อจะทำการสีข้าวหอมมะลิใหม่ให้ได้เร็วก่อนข้าวใหม่ที่อื่น

ข้าวใหม่ที่ได้จะส่งลงเรือลำแรกไปฮ่องกง

เรือลำที่ 2 ส่งไปที่อเมริกา-ไชน่าทาวน์

ให้ขาประจำเอาไปทำข้าวต้มที่หอมกรุ่นอุดมไปด้วยวิตตามินและสารอาหาร

ผู้บริโภคถือว่าเป็นข้าวหอมพิเศษแห่งปี

ข้าวหอมมะลิใหม่ที่ว่านี้อร่อยจริงๆ

เคยต้มข้าวใหม่ให้พี่น้องแซ่เฮชิมแล้ว

ตาหวานบอกว่าอร่อยรับประทานเฉยๆไม่ต้องมีกับข้าวก็ได้

* ข้าวที่อุดมด้วยคุณประโยชน์นี้

โรงสีจะประกันราคารับซื้อล่วงหน้า

ซื้อขายกันทั้งๆที่เปียกไม่หักความชื้นนี่แหละ ก.ก.ละ 14.60 บาท

เคยมีโรงสีแถวๆสระบุรีอยากจะผลิตข้าวส่งออกบ้าง แต่ทำไม่ได้

เคยมาแทรกแซงซื้อข้าวให้ราคาสูงประมาณ 15-17 บาท/ก.ก.

ทำให้ชาวทุ่งกุลามีทางเลือกและได้ราคาคุ้มเหนื่อย

(ตะพาบสวนป่าปีนบ่อออกมาเที่ยวเล่น)

* แต่ปีนี้ทุกอย่างพลิกผัน

มีแต่น้ำตา จะไปหาใครมารับซื้อ

นอกจากซับน้ำตา-ก้มหน้า-หวานอมขมกลืนกับชะตากรรม

เพื่อพิสูจน์ทราบ  ผมบอกข่าวเล่าแจ้งกับเครือข่ายไปแล้ว

นาในที่ดอนที่เกี่ยวข้าวใหม่

ขอแบ่งปันมาต้มแจกชิมเครือญาติที่รักสัก 1-2 กระสอบปุ๋ย

คิดถึงน้าอึ่งและครูอึ่งที่เจ็บออดๆแอ๊ดๆ

จะชวนมาโด๊ปข้าวใหม่ปลามันให้ฟื้นแฮงกายแฮงใจในลำดับต่อใป

พร้อมเมื่อไหร่จะโพนทะนาอีกทีนะพี่น้อง

อิ อิ

« « Prev : ขอคำนับครูกวี จุมพล วัฒน์บุณย์

Next : เศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นพระเอกก็คราวนี้ » »