ขึ้น Airport Rail Link ไปฮานะเธอ
อ่าน: 2031(หน้าตาเจ้าหนอนยักษ์)
ชีวิตการงานเป็นโอสถขนานเอกที่ทำให้ชีวิตมีชีวา เหนื่อยบ้าง หนักบ้าง เบาบ้าง แหยบ้าง ถือเป็นเงื่อนไขปกติของการทำงาน ใช่ว่าคนเราจะหามจั่วหามเสาอยู่ตลอดเวลา แต่ก็อาจจะมีบ้างที่เผลอแบกโลกไว้ด้วยความทรนง หลงเพ้อว่า โลกทั้งใบเป็นของนายคนเดียว ผมกับควายไม่ต่างกันสักเท่าไหร่หรอก ซก ๆ ทำงาน แถมยังเซ่อเหมือนเดิม ความรู้ใหม่มันเกิดขึ้นตลอดเวลา ใครเรียนตามทันได้หมดก็โม้แล้ว ในโลกนี้ไม่มีใคร่เก่งขนาดนั้น เอาให้แค่พอรู้บ้างก็ตาเหลือกแล้ว ถ้ามีโอกาสเรียนโอกาสทดลองทำอะไรใหม่ ๆ ผมจะกระโจนใส่ทันที ถึงกระนั้นก็เบื๊อกอยู่ดี เข้ากรุงเที่ยวนี้จึงขอทดลองนั่งรถไฟฟ้าไปหานะเธอ อิ อิ
เช้าวานนี้ เดินไปตัดหน่อไม้หวานหม่าจู ตั้งใจจะเอาไปฝากคนรักที่ขอนแก่น ใส่ท้ายรถไปสะดวก ไม่ได้ส่งข่าวล่วงหน้า ไปโทรเอาตอนจวนจะถึง ได้คำตอบว่าออกไปทำบุญที่วัด ก็ดีเหมือนกัน ขออนุโมมทนา เพราะเป็นกิจที่ดีงาม เรื่องของฝากอยู่ไม่อยู่ก็หาทางฝากกันจนได้นั่นแหละ มาบางกอกเที่ยวนี้อยู่หลายวัน กระเป๋าจึงอัดแน่นสมบัติหนักอึ้ง ไม่รู้จะขนอะไรไปฝากคนรักได้ จึงเก็บมะกรูดใส่กระเป๋า ช่วงนี้ลูกโต ๆ หล่นรอบต้น แค่หยิบมาดมก็หอมชื่นใจแล้ว ผมเอาติดตัวไปเพื่อจะผ่าซีกไว้ถูตัวอาบน้ำ ถ้าคันคอเพราะกินน้ำแข็ง ก็อาศัยน้ำมะกรูดผสมน้ำจิบ บางทีก็ผสมน้ำแปรงฟัน เข้าทำนองมีอะไรก็ใช้อันนั้น แถมยังเป็นของสด ๆ จากบ้านเราเอง แชมพูเขาก็มีให้ แต่มันจะสู้ของไทยแท้ ๆ ได้จะได๋ แม่นบ่น้อง
(มองจากจากสถานีรถไฟฟ้า)
เล่าฮูเป็นภาระจัดการจองตั๋ว เอาตั๋วมาให้ แถมยังมาส่งสนามบิน ดูแลยังกะไข่ในหิน มีเวลาได้คุยกันจนจุใจ ผมมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิบ่าย ลากกระเป๋าไปหารถแท๊กซี่ เจอพนักงานนั่งซึมกระทือเหมือนหมดอาลัยตายอยาก เห็นรถแท๊กซี่จอดอยู่หรอมแร๋ม ขี้เกียจรอ มองหาป้ายรถไฟฟ้า Airport Rail Link ลากกระเป๋าขึ้นบันไดเลื่อน เกาะติดป้ายไปเรื่อย ก็เจอจุดนัดพบ มีพนักงานโบกมือทำท่าให้เร็ว ๆ มองไปเห็นรถจอดแล้ว ไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลอะไรเลย
ยื่นเงินให้พนักงาน
ได้บัตรมาราคา 15 บาท
ทำไมมันถูกยังงี้ฟะ
ถาม ราคาสถานีเดียวรึเปล่า
พนักงานบอกว่าสุดสายลงพญาไท ก็ราคานี่แหละ
(เคลีย์บัญชีกัน)
โผล่เข้าไป โอ้โห คนแน่นยังกะหนอน มีประมาณ 4 โบกี้ หามุมเหมาะ ๆ ยืน เวลารถวิ่งเข้าโค้ง>> กระเป๋าดิ้นได้ ต้องระวังประคองไว้ให้ดี ที่น่ากลัวคือเสียงปิดประตู ทำไมมันดังโครกคร๊ากอย่างนั้นก็ไม่รู้ วิ่งแป๊บ ๆ ก็ถึงสถานีย่อย มีเสียงประกาศว่าถ้าลงที่นี่จะต่อรถไปสายไหนได้บ้าง รถวิ่งผ่าเข้าเมือง เราก็ชมวิวชายขอบเข้าไปยังพื้นที่จอแจในเมือง รถวิ่ง ๆจอด ๆ 7-8 สถานีก็ถึงจุดหมายสุดท้าย ลากกระเป๋าตามเขาไป มองหาบันไดเลื่อนไม่เห็น คนถามก็ไม่มี มีแต่ป้ายประชาสัมพันธ์ มันก็ไม่สัมพันธ์ประชาเท่าที่ควร
มองเห็นบันไดเลื่อนเฉพาะคนที่จะขึ้นมาจากข้างล่าง
ไอ่ที่ลากกระเป๋าก๋า ๆ นี่ละบันไดเลื่อนลงไปอยู่ที่ไหน
มองหาพวกที่โดยสารมาด้วยกันก็หายตัวไววับ
เก้ ๆ กัง ๆ เสียเวลางัดเอากล้องมาถ่ายรูป
เผลอแพล๊บเดียว โดนปล่อยเกาะเสียแล้ว
จะทำอย่างไรละทีนี้..
ต้องยกกระเป๋าใบโตลงบันไดเป็นทอด ๆ
ลงตึกสูงขาด 10 ชั้นโน่นแหละ
(คนกรุงอยู่ในสภาพใกล้เคียงกับหนอน หนอนขาไว วิ่่งปรู๊ตออกจากถ้ำไปโผล่ที่โน่นที่นี่)
ไปเรียกแท๊กซี่ อ้าวรถวิ่งผ่านประตูน้ำ รู้แบบนี้เราลงสถานีประตูน้ำก็สิ้นเรื่อง ดีที่รถไม่ติด แต่กว่าจะโผล่ไปจอดโรงแรมมารวยได้แทบแย่ ใช้เวลาบิน 45 นาที แต่นั่งรถเข้าเมืองชั่วโมงเศษ คนกรุงใช้ชีวิตและเวลาสิ้นเปลืองไปกับความตะกุกตะกักของการสัญจรนี่เอง
ถึงโรงแรม ครูพันธุ์ก๊ากผวาเข้ามาหา เทวดายิ้มแป้น ทั้ง ๆ ที่ปล่อยให้รอเป็นนานสองนาน แต่มีขาโจ๋โม้กระจุยอยู่ด้วยกันคงไม่กระไรนัก ลากกระเป๋าเข้าห้อง แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาฉอด ๆๆ สิครับ มีเรื่องเล่าอัดแน่นทยอยเรียกเสียงหัวเราะ จบลงด้วยการเคลียร์บัญชีขายหนังสือที่ค้างโอนมานาน คราวนี้พกมาหลายหมื่น ตุ๊บกันเป็นที่เรียบร้อยไปแล้วรอบนี้ รอบหน้าว่ากันใหม่
แห้วเอาหนังสือครูพันธุ์ก๊ากมา 1 ห่อ จะเอาไปเปิดตัวในการประชุมคณะกรรมการการศึกษาโครงการพิเศษที่ทำเนียบรัฐบาลบ่ายนี้ ที่เร่งกันเป็นบ้าเป็นหลังก็เพราะวันมหากฤษ์นี่แหละ นับตั้งแต่คำนำ คำนิยม คำเชียร์แหลก จากสายญาติเฮ ก็มาทันขบวนจนได้ ทราบว่าแห้วส่งหนังสือไปให้ตามที่พวกเราสั่งแล้วนะครับ ลองอ่านดูเถอะ
ขนาดคนใบ้ยังปล่อยก๊ากกก !
แห้วชวนกินบุฟเฟ่ต์ในโรงแรม สั่งผัดโน่นผัดนี่มากินกับข้าวต้ม ถือว่าฉลองยกแรกให้กับหนังสือเล่มเด็ด อิ่มแล้วก็แทบสลบ ตื่นมาอ่านรวดเดียวตอนตี 3 แล้วก็มานั่งบันทึกนี่แหละ สรุปได้ว่า ไอ่แห้วลูกพ่อ มันน่ารักน่าหมั่นไส้ทุก ๆ ด้าน เห็นความชัดเจนในวัตรปฏิบัติต่อสังคมและหน้าที่การงาน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่พิเศษจริง ๆ ถ้าสถาบันการศึกษา มีครูอาจารย์ทำหน้าที่ลูกล่อลูกชนได้อย่างถึงพริกถึงขิงอย่างแห้ว วิทยาลัยอาชีวะแห่งนั้น ๆ จะแก้ไขปัญหาที่รุมล้อมเข้ามาทุก 5 นาทีตลอด 24 ชั่วโมงได้ ครูแห้วได้อยู่กับจุดที่ว่านี้ ดังนั้นประสบการณ์ที่เจอจึงมากมายมหาศาล ถ้าไม่แปลงความห่วยมาเป็นความฮามีหวังบ้าตาย แล้วไม่ฮาธรรมดาด้วยนะ ต้องฮากลิ้ง ฮากระเจิง ฮาก๊ากกกส์ด้วย ที่เล่ามานี้เป็นแค่ปลายก้อยของหนังสือเล่มนี้ ผมจึงไม่สงสัยว่า ทำไม หนังสือยังไม่ออกจากโรงพิมพ์จึงมีคนจอง 400 กว่าเล่ม
· แห้วลงทุนเขียนเอง
· แห้วลงทุนควักกระเป๋าพิมพ์เอง
· แห้วลงทุนขายเองแจกเอง
เพื่อจะหาทุนซื้อเครื่องสับกิ่งไม้ให้สวนป่า
เจตนารมณ์แห้วนั้นดีไหมละครับ ใครสนับสนุนแห้วจึงได้บุญหลายต่อ บุญที่มาทันใดทันด่วนด้วยนะ อ่านปุ๊บฮาปั๊บ หนังสือต่วยตูนยังทำไม่ได้เล๊ย ไม่มีใครอ่านแล้วไม่ก๊ากในใจ หรือจะก๊ากกกกส์นอกหน้าก็ไม่ว่ากัน ขนาดเทวดาอ่านกี่รอบ ๆ ก็ยังฮาไม่หุบอีกทั้งผมจะนำไปอธิบายเรื่องแนวทางการบรรเทาปัญหาในสถานศึกษาของอาชีวะอีกด้วย
ได้ข่าวว่าพระอาจารย์ Handy มาบางกอก
ป่านฉะนี้จะกลับไปใต้เสียแล้วก็ไม่รู้
เย็นวันนี้ผมอยู่มารวย พรุ่งนี้ก็ยังอยู่มารวย
เย็นวันที่ 25 จะไปอุบลฯ
ถ้าอยากจะหาโอกาสฮาแบบไม่หุบก็นัดเวลามานะขอรับ
ผมอยากจะเจอพระอาจารย์ Handyเช่นกัน
มีเรื่องฝากไปถึงโรงเรียนที่อยู่ในสวนโมกช์ที่เคยพาผมไปเยี่ยม
บางทีจะมีอะไรดี ๆ ไปทำร่วมด้วยช่วยกัน
จะมาหรือไม่มา> > ก็จะตั้งท่าฮาคอยก็แล้วกันนะขอรับ
อิ อิ
ความคิดเห็นสำหรับ "ขึ้น Airport Rail Link ไปฮานะเธอ"