การนำเสนอแบบสบายๆ

โดย sutthinun เมื่อ 18 กันยายน 2010 เวลา 11:30 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2093

ขึ้นบันทึกแล้วครั้งหนึ่ง สัญญาณเน็ทไม่ดี ส่งข้อความไปหายจ้อย คนอยู่บ้านป่านั้นมีอุปสรรคนักหนา ทำอะไรไม่ได้สะดวกสบายเหมือนคนอยู่ในกรุงหรอกนะ แต่จะโวยวายบ้าน้ำลายไปทำไมละ เมื่อมันหายไปก็เขียนใหม่ส่งใหม่ ได้กำไรเสียอีก ที่เรื่องเดียวคิดและเขียน2ครั้ง อิอิ..

ผมชอบเอาผลมะกรูดมาผ่าแล้วนำไปถูตัว

ทำให้การอาบน้ำสะอาดและสดชื่น

วันนี้เห็นมดดำยกโขยงมาคาบเอาเมล็ดมะกรูดไต่กำแพงห้องน้ำ

สงสัยเหลือเกิน > >

โดยธรรมชาติแล้วมดไม่ถูกกับรสเปรี้ยวๆ

แต่สิ่งที่เห็น>>เกิดอะไรขึ้น

หรือมดดำจะคาบเอาเมล็ดมะกรูดไปทำวิจัย

หรือมดดำจะคาบเอาเมล็ดไปปลูก

หรือมดดำใจดีช่วยทำความสะอาดห้องน้ำ

เช้านี้ นัดอ.แป๋วไว้แล้วว่าจะพาทัวร์สวน จุดแรกพาไปชมแปลงปลูกพืชอาหารสัตว์และไม้เพื่อการพลังงานทดแทน ชี้ให้ดูแถวต้นอาคาเซียพันธุ์ดี ที่มีเป้าหมายว่าจะปลูกเอาใบมาเลี้ยงสัตว์ กิ่งก้านทำเชื้อเพลิง ทำปุ๋ย ลำต้นทำไม้แปรรูปก่อสร้างบ้านเรือน ปลูกร่วมกับเอกมหาชัย หว่านหญ้าแถมลงไปด้วย อธิบาย-การออกแบบแปลงวิจัยของไทบ้าน อธิบาย-เหตุผลที่ทำยังงี้ๆเพราะอะไร? เพื่ออะไร? ดีกว่าเก่าอย่างไร?

ต่อด้วยการบุกเข้าไปในแปลงแม่ไม้ ชี้ให้ดูไม้ยืนต้น ไม้ติดแผ่นดิน ไม้ที่น่าสนใจ ไม้ที่น่าเลือกน่าปลูกตามวัตถุประสงค์ของแต่ละคน บอกเล่าว่าถ้าอีสานทำอย่างนี้ ไม่กี่ปีท้องถิ่นอีสานบ้านเฮาก็จะเขียวร่มรื่น ทุนทางธรรมชาติที่เสียหาย-สูญหายก็จะกลับคืนมา คนอีสานก็จะได้รับบรรณาการจากสวรรค์เหมือนสมัยก่อน ฟ้าฝน-น้ำหมอกน้ำค้าง-ความปกติของธรรมชาติ ดินดำน้ำชุ่ม คนอีสานก็จะมีพลังทางธรรมชาติมาเกื้อหนุน มีทัศนคติที่ดีที่ถูกต้องต่อการบริหารจัดการสภาพแวดล้อม ตระหนักและเข้าใจถึงทุนทางธรรมชาติอย่างแท้จริง ช่วยลดการทำร้ายแผ่นดินไทย หันหน้าเข้ามาช่วยกันทะนุบำรุงผืนแผ่นดินขวานทอง คนละไม้ละมือ ด้วยวิธีการง่ายๆที่สมประโยชน์ของทุกฝ่าย

พาไปดูการสับใบไม้เลี้ยงวัว

คิดว่านักศึกษาจะได้โจทย์ไปช่วยค้นคว้าเพิ่มขึ้น

บางทีเราอาจจะได้พันธมิตรวิชาการรุ่นใหม่ๆก็ได้นะ

พาไปชมแปลงไผ่หม่าจู

นักศึกษาร้องโอ้โหๆ บอกว่าจะแกงหน่อไม้ใส่ใบย่านางเย็นนี้

พาไปดูแปลงผักยืนต้นพื้นเมืองระบบชิด

ทำความรู้จักมะกล่ำ มะรุม มะกอก ที่เป็นแถวเรียงล่ายส่าย

ไปเยี่ยมตาหวานกับเหมยซาน

แล้ววกมากินข้าวต้ม

อิ่มแล้วเด็กๆปูเสื่อเตรียมนอนฟังและนำเสนอ เนื่องจากเป็นหลักสูตรนานาชาติ ผมก็พลอยได้ฟังฟุดฟิตฟอไฟไปด้วย เป็นกลุ่มงานปศุสัตว์จึงพอคุ้นคำอธิบายสัก10% เด็กนักศึกษาป.โท เตรียมการบ้านมาดี สามารถอธิบายโต้ตอบคำถามได้จะแจ้ง เป็นการนำเสนอในบรรยากาศสบายๆ แจกหมอนนอนฟังนั่งฟัง ระหว่างทำท่าสะลึมสะลือ โฉมยงก็เสริ์ฟน้ำเสาวรส ทำให้ตาแจ้งเสียงใสใส่แอคชั่นต่อไปได้ เข้าตำรา-การเรียนรู้ทำไมต้องเคร่งเครียดด้วย อาจารย์แป๋วนั่งๆนอนๆฟังอย่างตั้งใจ มีลูกศิษย์สาวเข้ามานวดหลังให้เป็นครั้งคราว ...แป๋ว หันมาถาม ครูบาให้ความเห็นเพิ่มเติมหน่อย ได้เลย >>

1. ทำไมถึงเลือกหัวข้อนี้

2. สิ่งที่ไปค้นคว้ามาเป็นความรู้สำเร็จรูปของตะวันตกที่มีผู้วิจัยไว้แล้ว นานแค่ไหนก็ไม่ทราบ ครอบคลุมแค่ไหนก็ไม่รู้ แต่เมื่อได้กรอบมาก็ต้องเข้าไปเจาะข้อมูลมาให้ครบถ้วน เพื่อเอามาบอกอาจารย์ว่าได้ศึกษาครอบคลุมเพียงพอในเรื่องนั้นๆแล้ว ตรงจุดนี้ผมเห็นว่าความรู้ตะวันตก เขาก็ค้นคว้าภายใต้ความจำเป็นหรือความต้องการของเขา ความรู้บางส่วนสามารถเอามาเป็นบรรทัดฐานได้ทั่วไป แต่บางเรื่องก็อาจจะห่างตัวไป อาจจะไม่ถึงเรียนเตลิด แต่ก็ยังพอกล้อมแกล้มได้ว่า รู้ไว้ใส่บ่าแบกหาม

3. วิชาที่เราเรียนมาเป็นเพียงส่วนควบ จำเป็นต้องมีชุดความรู้ในส่วนของชุมชนหรือในส่วนภูมิภาคของเราสมทบด้วย ถ้าคำนึงถึงว่าทำอย่างไรประโยชน์จากการเรียนของเราจะส่งทอดไปยังเกษตรกรได้ เพราะเราก็จะเห็นๆอยู่ว่า ชาวบ้านยังอยู่กับความไม่รู้ ยังทำผิดๆถูกๆ ยังต้องการยาขนานเอกที่เหมาะสมมารักษาโรคยากจน ความรู้ของเรามีคุณสมบัติพอที่จะเป็นยาแก้อาการน่าเป็นห่วงให้กับรากหญ้าได้จริงไหม? ถ้าจะศึกษาเพื่อสนองธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตรด้านเดียว ความรู้ไม่สมบูรณ์ ควรให้คนทุกสถานะเข้าถึงความรู้ของเราได้ เมื่อนั้นงานวิจัยของเราจะเกิดประโยชน์อย่างทั่วถึง

4. ถ้านักศึกษาคำนึงในข้อ3 อาจจะต้องคิด-ทำ-ต่อไปอีก แปลงสภาพวิชาการให้เป็นวิชาชุมชนได้ด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะเจอคำตัดเพ้อ มหาวิทยาลัยห่างไกลชุมชน มุ่งเรียนและสอนแต่เรื่องที่ชาวบ้านเอามาใช้ไม่ได้ ห่างตาห่างใจต่อกันไปเรื่อยๆ นักวิชาการรู้มากขึ้นๆ แต่ชาวบ้านโง่งมเหมือนเดิม

5. ระดับความรู้ภายในประชาคมมีความสำคัญ ถ้าเฉลี่ยไปไม่ทั่วถึง จะทำให้ระบบ/ระดับการศึกษาของชาติบกพร่อง นักวิชาการควรสนองทุกภาคส่วนหรือเปล่า?

6. งานด้านการปศุสัตว์ กำลังประสบปัญหาในประเทศไทย ควายหายไป วัวกำลังจะหมดไป หมู-ไก่ เข้าไปอยู่ในฟาร์ม แม้แต่ไข่ไก่ชาวบ้านยังซื้อกินทั่วหน้า อาชีพเหล่านี้กำลังถูกระบบปลาใหญ่กลืนกินจนหมดสิ้น ด้วยเหตุนี้ พันธกิจของภาควิชาสัตวศาสตร์จึงมีความสำคัญทั้งที่อยู่เฉพาะหน้าและในอนาคต ซึ่งต่อไปโปรตีนที่จะเลี้ยงประชากรโลกนับวันจะแพงและขาดแคลนมากขึ้น ถ้าเราสามารถหาทางออกได้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะเป็นอานิสงฆ์อย่างมหาศาลต่อเพื่อนมนุษย์

7. นักศึกษาเตรียมสื่อเสนอได้ดี บางคนเอาภาพในหมู่บ้านของตนเองมาประกอบด้วย นักศึกษาลาวเล่าว่าที่หมู่บ้านของเขาอยู่ใกล้ชายแดนจีน ต้องนั่งรถยนต์จากเวียงจันทร์ออกไป2วัน ปีนี้มีหิมะตก .แป๋ว ถามว่าไม่ใช่แม่คะนิ้งนะ นักศึกษาบอกไม่ใช่ หิมะเลยแหละ ช่วงหิมะตก ต้นไม้ใบหญ้าบางส่วนตาย ส่วนนักศึกษากัมพูชาเชื้อสายจีน เอารูปฮวงจุ้ยของบรรพบุรุษมาอวด

8. โดยภาพรวมถือว่าทำได้ดี ถ้าเทียบกับการนำเสนอของภาคธุรกิจกลุ่ม SCG และ TT&T แล้วพอวัดพอวา เพราะในที่สุดแล้ว ทุกคนต้องเป็นมืออาชีพในหน้าที่การงานของตนเองให้ได้

บ่ายโมงโฉมยงยกผัดหมี่กับยำแตงกวาจานโตมาเสริ์ฟ

พวกเราลุกไปตักแล้วมานั่งฟังการนำเสนอของเพื่อนๆ

กินไปฟังไป อร่อยทั้งความรู้ อร่อยทั้งอาหาร

การออกแบบการเรียนการสอนที่มีโช็คอัพ

จะช่วยการศึกษาประสบสุขสวัสดี




« « Prev : อาจารย์แป๋วลุยสวน

Next : ใบชะพลูผัดไข่ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "การนำเสนอแบบสบายๆ"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

บันทึกนี้ไม่อนุญาตให้แสดงความคิดเห็น!!!

Main: 0.32431697845459 sec
Sidebar: 0.071657180786133 sec