อาจารย์แป๋วลุยสวน
อ่าน: 1964จากที่บอกว่าจะมาถึงบ่าย4โมง เอาเข้าจริง โน่นมาเกือบ3ทุ่ม หิวซกมาทีเดียว ถามว่าครูบากินข้าวแล้วยัง โธ่! เงียบไปนานผิดเวลาจะเหลือเรอะ จะมาหรือไม่มาก็ไม่รู้ ยังคุยกับอุ้ยว่า..คณะอาจารย์แป๋วไม่น่าจะเงียบฉี่ยังงี้ โทรไปก็ไม่ตอบ มาบอกจวนจะเข้าสวน12กม. ยังดีที่ไม่หลงทาง มาช้าแต่ความจำแม่น อิ อิ โฉมยงเตรียมอาหารการกินไว้คอย มีอะไรๆก็เจี๊ยะพรึบ ความหิวเป็นอายิโน๊ะโม๊ะโต๊ะที่ดีที่สุดในโลก อาจารย์แป๋วติดใจยอดมะกล่ำจิ้มน้ำพริก คงไม่เคยชิมมาก่อน >>ยอดมะกล่ำนี่เป็นผักสุดยอดของอีสาน คงจะอร่อยจริงๆด้วย อาจารย์แป๋วถามหา มีต้นเล็กๆไหม? จะขอไปปลูก เลยโม้สะบัด >> ที่นี่กำลังทำวิจัย การปลูกผักพื้นถิ่นระบบชิด อาจารย์มาประจวบเหมาะเหลือเกิน ช่วงนี้ยอดอวบๆอ้วนๆเต็มครึดไปทั้งแปลง จะแกงจะผัดจะลวกให้ชิมอย่างเต็มที่
ไม่ได้คุยกันมาก่อนว่าเที่ยวนี้มีภาระกิจอะไร
มาอ๋อเอาตอนที่แนะนำตัว
มีนักศึกษาสาขาสัตว์ศาสตร์ ระดับป.โท 8-9 คน ป.เอก 1 คน
เป็นลูกศิษย์อาจารย์แป๋วจากประเทศเพื่อนบ้าน
มาจากลาว-เวียตนาม-กัมพูชา-พม่า-และนักศึกษาไทย
หลังจากอิ่มแล้วเด็กเอาสื่อมาปูนั่งสลอน
ยังไม่ง่วงนอนอยากจะให้ผมเล่าอะไรๆให้ฟัง
ผมก็เปิดคริปเรื่องการเอาใบไม้เลี้ยงสัตว์ กับเรื่องปลูกผักระบบชิด
อาจารย์แป๋วทำหน้าที่แปลไทยเป็นอังกฤษ
ต่อด้วยการแลกเปลี่ยนโจทย์วิจัย
ทุกคนอึ้งกิมกี่กับการที่สวนป่าเอาใบไม้มาสับๆๆๆเลี้ยงวัว
สอบถามดูแล้ว ส่วนมากจะวิจัยพืชอาหารสัตว์เชิงเดี่ยว ชนิดหนึ่งชนิดใด
ยังไม่เคยมีใครเอาใบไม้ทั้งป่ามาสับให้วัวกินอย่างนี้
ทุกคนตื่นเต้นที่จะได้ไปเจอของจริง
หลังจากโม้พอหอมปากหอมคอก็แยกย้ายกันไปนอน
การเอานักศึกษาออกมาสัมผัสวิชาเกินในป่าเช่นนี้ มีความหมายต่อวิธีการศึกษาเชิงรุกเป็นอย่างมาก แทนที่จะสอนๆๆๆในห้อง-ดูๆๆ-อ่านๆๆ-แต่ตำรา-อยู่กับวิชาการในหมู่กันเอง นึกไม่ถึงว่าข้างนอกจะมีกรณีศึกษาทะลุทะลวงโลกแห่งการเรียนรู้ บางที ถ้าประเทศไทยจะฉีกตำรา-เทวิชาการเก่าๆทิ้งไปบ้างก็ดีนะครับ หันมาค้นคว้ากันเอง ชวนกันสร้างชุดความรู้ใหม่ๆสดๆที่เหมาะสมขึ้นมา ทิ้งกากตำรากากความคิดที่ไปลอกของฝรั่งมาปลื้ม เปลี่ยนมาเป็นคิดเองทำเองได้ไหมละ ถ้าได้ตระเวณมาศึกษากับโจทย์ที่ผุดพรายขึ้นมาใหม่ๆ ผมมีแผนที่จะชี้ชวนให้มหาวิทยาลัยต่างๆ หาทุนให้นักศึกษาปริญญาเอกมาฝังตัวทำวิจัยเรื่องนี้ ช่วยกันสร้างตำราฉบับประเทศไทยขึ้นมาภายใต้ศักยภาพและสภาพแวดล้อมของเราเอง ถ้าทำได้ตามแผนก็จะได้วิทยานิพนธ์ชิ้นโบว์แดงเชียวแหละ ไม่ทราบว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นจะมีวาสนาหรือเปล่า ถ้าไม่พร้อมไม่สนใจก็จะชวนจุฬาลงกรณ์หรือมมหาวิทยาลัยแห่งอื่น รวมทั้งสภาวิจัยแห่งชาติ เมื่อวานนี้สถาบันฯส่งแผนงานวิจัยแห่งชาติมาให้พิจารณา อ่านดูแล้วมันก็ไอ่แค่นั้นแหละ ไม่มีอะไรใหม่ ผมอาจจะติดต่อไปยังสภาวิจัยแห่งชาติให้ออกมาเปิดหูเปิดตาเช่นกัน มีเรื่องใบไม้เลี้ยงสัตว์ กับการปลูกผักพื้นถิ่นระบบชิด แค่นี้ก็อาละวาดเขย่าวงการได้แล้วละครับ ผมกำลังมองหาเครื่องสับที่ใหญ่ขึ้น จะได้สับความบ้องตื้นของตนเองให้มันกระเจิดกระเจิง ยังตั้งตารออยู่นะ ถ้าครูอึ่ง ครูอาราม อุ้ยมา จะพาชิมผัก ยำหน่อสูตรเมืองเหนือที่อุ้ยเล่า เล่ายังไงมันก็ไม่เท่าเอาพริกมาเผาแกะเปลือกโขลกโปกๆให้ลั่นป่าหรอกนะครับ คณะไหน มหาวิทยาลัยใด เอานักศึกษามาปีนี้จะสนุก สนุกเรียน สนุกกิน สนุกเดินป่า อาบแดด ได้เลี้ยงวัวด้วย ไม่แน่นะครับ ส่วนป่าอาจจะชวนเทวดาเปิดภาควิชาโป๊กๆศาสตร์ก็เป็นได้ คณะใดจะมาอย่าลืมถ่ายท้องมาด้วย
เดี๋ยวหาว่าหล่อไม่เตือน
3 ความคิดเห็น
ถ้าประเทศไทยจะฉีกตำรา-เทวิชาการเก่าๆทิ้งไปบ้างก็ดีนะครับ หันมาค้นคว้ากันเอง ชวนกันสร้างชุดความรู้ใหม่ๆสดๆที่เหมาะสมขึ้นมา ทิ้งกากตำรากากความคิดที่ไปลอกของฝรั่งมาปลื้ม เปลี่ยนมาเป็นคิดเองทำเองได้ไหมละ
…โดนๆๆๆๆ ค่ะ
ลูกศิษย์ อ. แป๋วโชคดีเหลือเกินที่ได้ อ. แป๋วพาไปถึงที่ ไปเรียนในสภาพการเรียนแบบทะลุมิติทฤษฎีการศึกษาที่อธิบาย (ต่อๆ) กันมา
ถ้าลูกศิษย์ อ. แป๋ว เขียนเล่าเรื่อง ความคิด ความรู้สึก ต่อสิ่งที่ได้ไปเห็น ไปดู ไปเรียน ในมุมมองของสัตวแพทย์ด้วยแล้ว…โอ๊ย….อยากรู้ๆๆๆ ค่ะ ว่าสัตวแพทย์จะอธิบายอย่างไร….พูดใส่คลิป แล้วขึ้นบล็อกครูบาก็ยังได้เลยค่า
(กำลังคิดว่า เมื่อนักศึกษาหรือใครก็ตามที่ไปสวนป่า มักเกิดอาการชะงักงันในการเขียนบล็อกเล่า..เราน่าจะหาวิธีสื่ออื่นๆ มาช่วย เช่น เล่าผ่านวิดีโอ หรือคลิป คนละประโยคยาวๆ แล้วเอามานำเสนอ..จากนั้นเอามาถอดความก็ได้…ครูบามีอุปกรณ์สื่อแบบนี้ที่สวนป่าหรือเปล่าคะ)
สื่อมีนะอุ้ย แค่กล้องดิจิตอลก็ทำอะไรได้เยอะ
ถ่ายเป็นคลิปไว้สบายๆ
เพียงแต่ผมยังเอาขึ้นจอบล็อกไม่เป็น
ทำได้แค่ขึ้นLCDใใ
ยังความรู้ไม่พอใช้
แต่จะถ่ายเป็นคลิปไว้ได้
เพียงแต่เขาไม่ใช้ไมโครโฟน เสียงอาจจะเบาหน่อย
แล้วจะส่งให้นะครับ อิอิ
ครูบากรุณาส่งเป็นไฟล์ทางเมล์ก็ได้ค่ะ