ศิลปการยกก้นตัวเอง

โดย sutthinun เมื่อ 15 กันยายน 2010 เวลา 10:46 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1575

คนเราจะยกก้นตัวเองก็ใช่ที่

กลองที่ไม่มีคนตี อยู่ดีๆถ้ามันดังขึ้นมาเอง คนโบราณเขาถือกัน

ดังนั้นเมื่อยุให้สายญาติชาวเฮเข็นเอาผลงานออกมา

จึงระดมช่วยกันหาคนมาตีกลอง

แทนที่จะให้เจ้าตัวตีเอง-ฟังเอง มันจะเพ้อไปกันใหญ่

พี่น้องผมนั้นไม่มีใครธรรมดาหรอกนะ 1 ไม่มี 2 ทั้งนั้น

ทุกท่านเขียนคิด-คิดเขียน-บริบทของตนเองไว้ดีมาก

โดยเฉพาะสไตล์แต่ละท่านนั้นมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว

เมื่อผมมีญาติเก่งๆผมก็บ้าเห่อ อยากอวด อยากโชว์ คนอื่นนะสิ

หมู่นี้จึงไหว้วานใครต่อใครไปทั่ว

แต่การดำเนินงานของชาวเฮ เป็นอะไรก็ไม่รู้นะ

มีเรื่องไฟล้นก้นอยู่เรื่อยๆ

เพราะทำเรื่องหนึ่งจะไปโยงอีกเรื่องหนึ่ง

ก็เรื่องที่จะเอาไปอวดผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเชิงนโยบายนั่นแหละ

ไอ่เรื่องที่จะยิงโป้งเดียว ได้นกตัวเดียว มันไม่ได้ก่อกวนใจใคร อิอิ

จึงขออภัยท่านที่อุปการะคุณ ที่ชวนฉุกละหุกทุกที สิน่า..

เมื่อวาน หรือเมื่อไหนๆก็ตามทีเถอะ ผมจะเจอะคำถาม ในกลุ่มเปลีือยครูบา คำถามเกี่ยวกับกลุ่มเครือข่าย คำถามที่เกี่ยวกับงานที่ทำ ครั้นจะตอบเองเออเองมันก็จะเหมือนกลองที่ดังเอง จะกลายเป็นขี้โม้โอ้อวดตัว ซึ่งคนปกติเขาไม่ทำกัน ผมจึงอาศัยตัวช่วย วันนี้ขอยกเอามาฉายอีกรอบหนึ่ง ต่อไป ใครถามก็จะยกเอาบทสรุปที่ว่านี้มาตอบ ถ้ายังข้องจิตค่อยต่อเติมเล็กๆน้อยๆในภายหลัง แบบนี้จะดูดีกว่าใช่ไหมละครับ >> เมื่อคราวที่มีความคิดจะรวบรวมบทความที่ชาวเฮจะพิมพ์รวมเล่มครั้งแรก ผมก็มองหาคนมาช่วยโปรยความสนใจให้กับหนังสือเรา มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่จะไปกราบรบกวนอยู่ในใจหลายท่าน พระอาจารย์ไร้กรอบเป็นท่านหนึ่งที่หมายตาไว้เลยว่าจะไปรบกวนท่าน แล้วพระอาจารย์ก็เมตตา ลองอ่านดูอีกสักรอบดีไหมครับ

เรียนครูบา ฯ ขอส่งการบ้าน บันทึกเฮฮาศาสตร์

ผมเขียนบันทึกนี้เพื่อมอบให้ครูบาฯ จะเอาไปรวมเล่ม เป็นเฮฮาศาสตร์ Pocket book ได้เลยครับ

บันทึก ของคนไร้กรอบ เป็นดังนี้

เฮฮาศาสตร์ ….  คือ อะไร เนี่ย ??

ผมได้รับมอบหมาย จากท่านพ่อครูบาสุทธินันท์ ให้เขียนบันทึก อะไรก็ได้ จะได้เอาไปรวมเล่มอ่านกัน และ ก็เพราะอะไรก็ได้นี่แหละ ทำให้เปิดพื้นที่สะโล่งจนยากที่จะเขียน ผมก็เลยเขียนนิยาม ของเฮฮาศาสตร์สะเลย ง่ายดี

ก่อนอื่น คนที่คิดคำนี้ เป็นคนแรก และนำมาใช้ คือ ครูบาฯ ของเรานี่เอง

ผม มองท่านพ่อ ครูบา ฯ (ในภาษาอีสาน ครูบา คือ ปราชญ์ ผู้รู้ในชุมชน ไม่ใช่ พระสงฆ์นะครับ อย่าไปสับสนปะปน กับภาษาเหนือว่า คือ พระ )   ว่า ดังนี้

1) ท่านเป็น กระบวนกรซึ่งคำว่า กระบวนกรนี้ หมายถึง Facilitator     คือ คนที่ ยั่ว แหย่ ผลัก ไล่ (จนไปถึงขั้นถีบ”) ผู้เรียนให้ผ่านกระบวนการเรียนรู้ …    คนที่คิดคำว่ากระบวนกร น่าจะเป็น คุณณัฐรส วังวิญญู หลานท่านอาจารย์วิศิษย์ วังวิญญู

เอาคำว่า กระบวนการ (เรียนรู้) มาผสม กับคำว่ากร”    เช่น วิทยา + กร = วิทยากร เกษตร + กร = เกษตรกร เป็นต้น

กระบวนการ ที่ผมว่านี้ คือ กระบวนการเรียนรู้ จะเป็นแบบ เชิงประจักษ์ (Action learning)   แบบสร้างองค์ความรู้เอง (Constructionism)    แบบวงจรโนนากะ (Nonaka learning cycle) ก็ได้ ทั้งนั้น

นักเรียนรู้ และ พี่เลี้ยง (Facilitator) หลายๆท่าน ที่ผมพาไปอยู่ ไปเรียนรู้ ที่ มหาชีวาลัยอีสานของครูบาฯ กลับมาเล่าให้ผมฟังว่า ครูบาฯ มีวิธีการอันแยบยล ทำให้ พวกเขาสนุกที่จะเรียน พร้อมที่จะให้เมื่อถาม แต่ไม่ใช่ ยัดให้โดยไม่ได้ถาม พวกเขาผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบสนุกสนาน เฮฮา (ศาสตร์) ตั้งแต่ “คุย คิด คลิก คลำ”  ( หน้าต่างทั้ง 4 ของ โนนากะ)

กระบวนกร ย่อม จัดเตรียมเวที หรือ พื้นที่ หรือ ให้โอกาส (ภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า ba)   เตรียมกระบวนการให้ผู้เรียน ได้ ปะทะโลกความเป็นจริง (Real world) ด้วยตนเอง ค้นพบเอง …….นี่แหละ Tacit knowledge    คือ เรียนรู้ ค้นพบ ผ่านการลงมือทำจริง ครูบาฯ ท่านไม่เหมือน ครูที่ แย่งการปะทะ real world ไปจากผู้เรียน

;วันหนึ่ง ผมโดนท่าน ครูบา ฯ ลากขึ้นเวที ไปพูดที่โรงเรียนรุ่งอรุณ โดยไม่ได้บอกกันล่วงหน้ามาก่อน ผมคิดว่า นี่ ก็คือ หนึ่งในความน่ารักของกระบวนกรระดับเซียนอย่างครูบาฯ ครับ ท่านหาเวที ให้ ลูกๆ (พวกเรา ชาวเฮฮาศาสตร์ หรือ ทุกคนก็มาเป็นสมาชิกเฮฮาศาสตร์ได้ ไม่จำกัด ไม่มีการลงทะเบียน ไม่มีการสอบเข้า ไม่มีการไล่ออก มาด้วยใจล้วนๆ) อยู่เสมอ

ทำๆไปเถอะครับ ขอให้เป็นเรื่องกุศล เรื่องมีประโยชน์ ผลออกมาจะ ผิด ถูก กระบวนกรอย่างท่านก็ไม่ว่าอะไร คนเราโตๆ กันแล้ว มันรู้กันอยู่แก่ใจดีครับ ผิดพลาด ก็ สำนึกผิด (Hansei)   แล้ว คิดใหม่ ทำใหม่ คุยกันใหม่

2)  ท่านเป็นปราชญ์ หรือ Knowledge maker จริงๆ ท่านทำจริง เล่นกับธรรมชาติจริง เอาพื้นที่อีสาน ทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ใครแค่ได้ยินชื่อ ก็เผ่นแล้วครับ

ท่านมี tacit knowledge มากมาย คนจริง ของจริง เมื่อถ่ายทอดออกมา ย่อมเป็นของจริงเช่นกัน แต่ คนฟัง หากไปเอาไปทำ ของจริง ของดี ของท่าน ก็ หายไปครับ เป็นแค่ข้อมูลหนึ่งเท่านั้นเอง

ผมเห็นท่าน เล่น คอมพิวเตอร์ ใช้โปรแกรมต่างๆ แบบ คนสนใจ คนใฝ่รู้ ไม่น่าเชื่อ ความกล้าแบบนี้ หายไปจากใจผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆคน

คนเราหลายคน เคยมีจิตใจงดงาม แต่ เมื่อโดนบริบท อำนาจ หน้าที่ เงิน วัตถุ ค่านิยมผิดๆ เพื่อนชั่ว คนพาล ฯลฯ ลวงไป ลากไป จน ความน่ารัก ความเป็นนักเรียนรู้ หายไป เหลือแต่ ด้านดำๆ ของ จิตใจ แบบเข็มขัดสั้น”    ใครเตือนก็ไม่ฟัง ไม่ยอมออกจาก “ความสะดวกสบายที่เคยชิน” ก็เลยตาบอด ครูบาฯ เรียกพวกนี้ว่าโง่แล้วยังไปเอะใจ”

3) ท่านเป็นนักยุทธศาสตร์ ท่านสงบนิ่ง วางแผน วางหมาก จัดการกับ ผู้คนแบบต่างๆ ท่านทำให้ผมได้ฉุกคิด

ผมติดนิสัย ตำหนิ ด่า แย็บๆ ด่าตรงๆ จี้โดนใจดำ ฯลฯ ต่อเหล่า ผู้คน ที่หลงทาง”  หลงเข้าใจผิด ว่าตนเอง คือ ใคร ?   เช่น จบปริญญาเอกด้านการศึกษา แต่ ไม่เฉลียวใจ ว่า ตนเอง ไม่รู้จักการศึกษาเลยแม้นแต่น้อยอ้าว จริงๆ นะ

ท่านครูบาฯ ท่านนิ่ง เฉยๆ ไม่เป็นหมาบ้าแบบผม คงเห็นผมเห่า แล้วเหนื่อยแทน เพราะ ใบตองแห้ง มันแห้งไปแล้ว มันจะสดใสได้อย่างไรกัน มันต้องฟันทิ้ง

4) อื่นๆ ท่านผู้อ่าน ลองไปเจอ ไปคุยกับ ครูบาฯ เอง ก็แล้วกัน จะมี ข้อ 4 ข้อ 5 และ อีกหลายๆข้อครับ

เฮฮาศาสตร์ มันเป็นกระบวนการเรียนรู้ ที่มีอะไร อะไรหลายๆอย่าง ที่ยากจะเขียนออกมาเป็นวิชาการได้

ผมขอมั่วๆ เขียนถึงเฮฮาศาสตร์ แบบผิดๆไปก่อน (ในมุมมองของผมคนเดียว) พอเวลาผ่านไป ได้คิด ได้ทำ ได้ล้ม ได้ผล มากขึ้น ผมอาจจะกลับมาแก้ไขใหม่ ดังนี้

ก) เป็น การรวมตัวกัน แบบ ชิวๆ สบายๆ เบิร์ดๆ เพราะในสภาพที่เปิดใจ คลื่นสมองที่อัลฟา เราอยู่ในสภาพที่พร้อมจะเรียนรู้ สิ่งดีๆ มีประโยชน์ เป็นกุศล ย่อมเกิดขึ้นได้

บรรยากาศ การรวมตัวกัน ผ่านเว็ป gotoknow ของเหล่าBlogger ทั้งหลาย เป็นการรวมตัวกันแบบ ไม่หน้ากากมากั้น ไม่มีโหมดเอาตัวรอด เป็นโหมดปกติ เหมาะกับการเรียนรู้จริงๆ

ข) เป็นการเรียนรู้แบบใหม่ คือ ไม่รู้ว่าใครสอนใคร ไม่มีใครเป็นวิทยากร การเรียนรู้เกิดขึ้นเอง ในตนเองแบบเนียน นุ่ม ลึก”    ไม่มีคำศัพท์ ตามมาอธิบายให้วุ่นวาย

ค) เรียนรู้เป็นทีม จากคนหลากหลายอาชีพ ครู อาจารย์ มนุษย์เงินเดือน กระบวนกร เจ้าของกิจการ ข้าราชการ เกษตรกร ฯลฯ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันแบบไม่รู้ตัว

ง) อื่นๆ ……  ท่านผู้อ่าน มาร่วมวงด้วยสิ จะได้ คิดข้อนี่ออกไงล่ะ ผมเปิดพื้นที่ให้แล้วนะ หลายท่าน อย่าเพิ่งหมั่นไส้ ว่าพวกเฮฮาศาสตร์ คืออะไร ทำอะไรกัน ภาษาแปลกๆ ทำอะไรแปลกๆ ….  มันไม่มีอะไรจริงๆ ครับ เราเริ่มต้นที่ไม่มีอะไร”  แล้ว จบลงที่ไม่มีอะไร”   นี่แหละไตรสิกขา

« « Prev : ครูพิจิตรบุกประชิดสวนป่า

Next : อาจารย์แป๋วลุยสวน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.54592204093933 sec
Sidebar: 0.71480417251587 sec