ย่ำเชียงใหม่ยามชุ่มฉ่ำ
อ่าน: 4010
เช้านี้อุ้ยตั้งใจจะพาไปห้วยฮ่องไค้ แต่ฝนโปรยปรายมาทำลายจังหวะ จึงเปลี่ยนแผนไปกินข้าวมันไก่ร้านเชลชวนชิมใกล้ๆศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ผศ.อภิรัช สกุลณียา คณะพยาบาลศาสตร์ ม.เชียงใหม่มาร่วมเที่ยวด้วย หลังจากอิ่มแล้ว ตกลงกางร่มเดินไปเที่ยวที่หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ อาคารสีขาว หลังอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ระหว่างที่ผมเดินไปถ่ายรูปด้านหน้า มีนกเขาบินมาจับที่บ่าของอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาขันคูให้บันทึกคริปวีดีโอไว้ >>ภายในจัดแบ่งออกเป็นนิทรรศการถาวร 15 ห้อง 2ชั้น การแอ่วหอศิลป์ชั่วโมงเดียว ทำให้รู้จักอดีตและปัจจุบันได้อย่างสมประโยชน์ ซื้อเสื้อยืดเป็นที่ระลึกตัวหนึ่ง ขอโฆษณา >>
“กินข้าวมันไก่แล้วไปแอ่วหอศิลป์เน้อ”
(กินๆๆ ทำงานๆๆ พูดๆๆๆ เที่ยวๆๆ วิ่งๆๆ แล้วขับรถกลับบ้านไปหาแม่นุ อิ อิ)
เรื่องราวที่จัดแสดงล้วนน่าทึ่ง
ได้พบเห็นเรื่องแปลกใหม่ประทับใจมากมาย
ทำให้รู้จักอาณาจักรล้านนาแห่งนี้ขึ้นอีกพะเรอเกวียน
มาวันฝนตกคนไม่แน่น
เดินไปเจอคณะถ่ายแบบแฟชั่นกำลังแอ็คกันใหญ่
จึงยกกล้องถ่ายฉับ
นางแบบมองมาเห็น>>เธอทำแก้มป่องเหมือนแก้มปลาทอง
ระหว่างที่เดินชมชั้น2คนเดียว มีแมวเหมียวสีดำปลอดร้องเหมียวๆเดินมาหา ทำท่ายังกับรู้จักมานาน เข้ามาเคล้าคลอเอาฟันงับเบาๆที่ขากางเกง จึงนั่งลงใกล้ๆ คุณเหมียวเธอนอนเกลือกกลิ้งไปมา อยู่ด้วยกันพักหนึ่งจึงบอกลา จะต้องเดินไปชมห้องอื่นอีก พอดีน้าอึ่งมาเจอ จึงปล่อยให้คนรักแมวคุยกันประสาแมว
(พอเราเดินผ่าน ไฟหน้ารถสว่างพร้อมกับมีเสียงรถวิ่งฉึกฉักออกจากถ้ำขุนตาล)
ออกจากหอศิลป์ อุ้ยทัวร์พาไปชมวัดอุโมงค์(วัดโพธิ์น้อย) ถนนราชภาคินัย ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เดินไปที่โบสถ์หลังเล็กๆ ได้ยินเสียงหลวงพ่อกำลังบรรยายเสียงดังฟังชัด เราเข้าไปเจอฝรั่งครอบครัวหนึ่งสนใจมาชมพระพุทธรูปมหัศจรรย์เปลี่ยนสีหน้าได้9แบบ ท่านพระครูวิโรจน์สีลาภรณ์ เจ้าอาวาสท่านเล่าบอกว่าความมหัศจรรย์เกิดจาก
1. ฝีมือการออกแบบปั้นพระ
2. เกิดจากแสงสีเงาสะท้อน
3. เกิดจากอภินิหาร
ระหว่างแสดงให้เห็นการเปลี่ยนพระพักตร์ หลวงพ่อท่านจะปิดประตูแล้วเปิด-ปิดไฟให้สะท้อนแสงให้ไปตกตามมุมต่างๆ บางช่วงท่านก็เปิด-ปิดหน้าต่างเพื่อให้เล่นแสงไปตกต้ององค์พระพุทธรูป เราสังเกตตามที่ท่านอธิบายก็พอเห็นเค้าความแปลกดังกล่าว ที่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือเรื่องราวและน้ำเสียงที่ดุดันของหลวงพ่อ นับว่าแปลกพอๆกับพระพุทธรูป เป็นธรรมจัดสรรให้2ประหลาดโครจรมาทำหน้าที่ไขความกระจ่างคู่กัน ท่านชวนคณะเราไปคุยต่อที่ห้องแสดงธรรม ได้ฟังเรื่องพิสดารเพิ่มเติม ท่านเห็นตั้งใจฟัง จึงแจกภาพพระพุทธรูปให้นับเป็นสถานที่แปลๆได้อีกจุดหนึ่ง ผมละทึ่งจริงๆ อุ้ยที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง ทำไมยังมาค้นเจอคนและสถานที่อึ้งกิมกี่อย่างนี้ คุณหมอจอมป่วนคงจะโดนใจกับปรัชญาที่หลวงพ่อท่านฉอดๆให้ฟังคงเอาไปผสมผสานคนโง่ยังเอ๊ะใจ !
(สภาพภายในและบริเวณร้านข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง อยู่ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง มีสาขาที่แม่สอดอีกแห่ง)
ออกจากวัดเราเดินทางไปพบกับคณาจารย์คณะพยาบาลที่กรุณาเป็นเจ้ามือเลี้ยงมื้อเที่ยง ร้านข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง เป็นร้านแปลกและอลังการในด้านการออกแบบภูมิทัศน์ ฝีมืออาหารก็เด็ดดวงเชียวแหละ โดยภาพรวมแล้วนับว่ามีเอกลักษณะพิเศษ ตบแต่งด้วยต้นไม้เชิงศิลปสถาปัตย์ ตัวอาคารเป็นโดมเหมือนดอกเห็ดยักษ์ นอกจากมีน้ำไหลผ่านแล้วยังมีน้ำตกประดิษฐ์ไหลจ๊อกๆชุ่มฉ่ำอยู่ด้านข้างมุมอาหาร ท่านคณบดีบอกว่า ห้องน้ำเขาจัดได้ดีระดับที่ใครมาไม่แวะไม่ได้ ผมกับคุณหมอจอมป่วนจึงไปเยี่ยมเป็นที่ระลึก อย่างน้อยก็จะได้กลับไปคุยว่าเคยไปแอ่นก๊อกมาแล้ว อิ อิ ..
(ห้องสุขาสะอาดจนเกรงใจ ต้องค่อยๆเปิดก๊อกตั้งเป้าให้ตรง ไม่ให้กระเซ็นออกนอกลู่นอกทาง)
เมนูร้านนี้อร่อยทุกจาน การพูดคุยออกรสชาติ มีท่านอาจารย์ฝ่ายบริหารมาร่วมอิ่มด้วยหลายท่าน คุณหมอจอมป่วนชวนคุย อาจารย์หลายท่านสนใจจะมาเที่ยวสวนป่า จึงเกริ่นไว้ว่าควรจะไปช่วงหนาว เอาไว้ลงตัววันไหนค่อยส่งข่าวถึงกัน ก่อนกลับชาวคณะชวนกันถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก งานนี้นอกจากอิ่มท้องอิ่มใจแล้ว ผมยังได้รับพระองค์เล็กๆจากท่านคณบดี และท่านรองคณบดีได้ฝากซีดีเพลงพยาบาลอีกด้วย ขอขอบคุณสำหรับน้ำใจไมตรีของชาวคณะพยาบาลเชียงใหม่ทุกท่านนะครับ
(ภาพแห่งความทรงจำ ขออภัยท่านที่ไม่มีรูป คราวหน้าคณะจัดอย่าลืมมารับบัตรคิว)
ผมกลับมาตั้งหลักที่บ้านน้าอึ่ง
ระหว่างเก็บของรอเวลา
ได้งีบได้คุยกับอุ้ยนิดหน่อย
น้าอึ่งช่วยเก็บของให้เรียบร้อยมาก
ได้เวลาก็พามาส่งบิน
อุ้ยกับน้าอึ่งฝากยากับแกงแคและน้ำพริกหนุ่มอบแห้ง
ตอนแรกนึกว่าเป็นพริกแกง
มาอ่านดูที่กรุงเทพพบว่าเป็นแกงแคสำเร็จรูป
(แม่น้ำปิงไหลผ่านเชียงใหม่ มารวมปิง-วัง-ยม-น่าน-ที่ปากน้ำโพ เป็นแม่น้ำเจ้าพระยา)
ระหว่างอยู่บนน่านฟ้าก็ถ่ายรูปไล่เรียงมาเรื่อยๆ
พบว่าเจ้านกยักษ์ก็บินตามลำน้ำเจ้าพระยา
สมัยก่อนเราถ่อเรือ มาสมัยนี้เปลื่ยนมาบิน
ผมมาถึงบางกอกตอนเย็นๆ
ไม่มีงานอื่นจึงนั่งรายงานปิดทริปนี้นะขอรับ
ขอขอบคุณผู้อุปการคุณทุกท่าน
ของให้ชีวิตมีแต่ อิ อิ ตลอดไป
” มีเรือดีๆไว้ขี่ข้าม อย่าไปเอาเรือรั่วน้ำมาข้ามขี่
รักษาใจดูใจกันให้ดี ช่วยกันขี่ช่วยกันพายสบายเอ๋ย”
« « Prev : พยาบาลหัวใจกระปลกกระเปลี้ย ซ่อมได้
Next : คนแซ่เฮบุกสถาบันวิจัยสังคมจุฬาฯ » »
2 ความคิดเห็น
ชอบเก็บเล็ก เก็บน้อยค่ะ
” มีเรือดีๆไว้ขี่ข้าม อย่าไปเอาเรือรั่วน้ำมาข้ามขี่
รักษาใจดูใจกันให้ดี ช่วยกันขี่ช่วยกันพายสบายเอ๋ย”
ฝึกวิทยายุทธกับท่านจอมยุทธทั้งหลายสกุลเฮ…
แล้วจะสบายแฮ..กิ๊บกิ้ว..( คำสุดท้าย ขอยืมน้องแห้วศรีมาค่ะ?!?!)
ร้านข้าวเม่าข้าวฟ่างที่แม่สอด มีเมนูเด็ดคือ ผักกูด ไฟแดง ยำผักกูด
เท่าที่เห็นในรูปรู้สึกว่า เหมือนกับยกเอาร้านจากแม่สอดมาวางไว้เจียงใหม่เลยครับ