ย่ำเชียงใหม่ยามชุ่มฉ่ำ

โดย sutthinun เมื่อ 29 สิงหาคม 2010 เวลา 23:23 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 3994

เช้านี้อุ้ยตั้งใจจะพาไปห้วยฮ่องไค้ แต่ฝนโปรยปรายมาทำลายจังหวะ จึงเปลี่ยนแผนไปกินข้าวมันไก่ร้านเชลชวนชิมใกล้ๆศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ผศ.อภิรัช สกุลณียา คณะพยาบาลศาสตร์ .เชียงใหม่มาร่วมเที่ยวด้วย หลังจากอิ่มแล้ว ตกลงกางร่มเดินไปเที่ยวที่หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ อาคารสีขาว หลังอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ระหว่างที่ผมเดินไปถ่ายรูปด้านหน้า มีนกเขาบินมาจับที่บ่าของอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาขันคูให้บันทึกคริปวีดีโอไว้ >>ภายในจัดแบ่งออกเป็นนิทรรศการถาวร 15 ห้อง 2ชั้น การแอ่วหอศิลป์ชั่วโมงเดียว ทำให้รู้จักอดีตและปัจจุบันได้อย่างสมประโยชน์ ซื้อเสื้อยืดเป็นที่ระลึกตัวหนึ่ง ขอโฆษณา >>

“กินข้าวมันไก่แล้วไปแอ่วหอศิลป์เน้อ”

(กินๆๆ ทำงานๆๆ พูดๆๆๆ เที่ยวๆๆ วิ่งๆๆ แล้วขับรถกลับบ้านไปหาแม่นุ อิ อิ)

เรื่องราวที่จัดแสดงล้วนน่าทึ่ง

ได้พบเห็นเรื่องแปลกใหม่ประทับใจมากมาย

ทำให้รู้จักอาณาจักรล้านนาแห่งนี้ขึ้นอีกพะเรอเกวียน

มาวันฝนตกคนไม่แน่น

เดินไปเจอคณะถ่ายแบบแฟชั่นกำลังแอ็คกันใหญ่

จึงยกกล้องถ่ายฉับ

นางแบบมองมาเห็น>>เธอทำแก้มป่องเหมือนแก้มปลาทอง

ระหว่างที่เดินชมชั้น2คนเดียว มีแมวเหมียวสีดำปลอดร้องเหมียวๆเดินมาหา ทำท่ายังกับรู้จักมานาน เข้ามาเคล้าคลอเอาฟันงับเบาๆที่ขากางเกง จึงนั่งลงใกล้ๆ คุณเหมียวเธอนอนเกลือกกลิ้งไปมา อยู่ด้วยกันพักหนึ่งจึงบอกลา จะต้องเดินไปชมห้องอื่นอีก พอดีน้าอึ่งมาเจอ จึงปล่อยให้คนรักแมวคุยกันประสาแมว

(พอเราเดินผ่าน ไฟหน้ารถสว่างพร้อมกับมีเสียงรถวิ่งฉึกฉักออกจากถ้ำขุนตาล)

ออกจากหอศิลป์ อุ้ยทัวร์พาไปชมวัดอุโมงค์(วัดโพธิ์น้อย) ถนนราชภาคินัย ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เดินไปที่โบสถ์หลังเล็กๆ ได้ยินเสียงหลวงพ่อกำลังบรรยายเสียงดังฟังชัด เราเข้าไปเจอฝรั่งครอบครัวหนึ่งสนใจมาชมพระพุทธรูปมหัศจรรย์เปลี่ยนสีหน้าได้9แบบ ท่านพระครูวิโรจน์สีลาภรณ์ เจ้าอาวาสท่านเล่าบอกว่าความมหัศจรรย์เกิดจาก

1. ฝีมือการออกแบบปั้นพระ

2. เกิดจากแสงสีเงาสะท้อน

3. เกิดจากอภินิหาร

ระหว่างแสดงให้เห็นการเปลี่ยนพระพักตร์ หลวงพ่อท่านจะปิดประตูแล้วเปิด-ปิดไฟให้สะท้อนแสงให้ไปตกตามมุมต่างๆ บางช่วงท่านก็เปิด-ปิดหน้าต่างเพื่อให้เล่นแสงไปตกต้ององค์พระพุทธรูป เราสังเกตตามที่ท่านอธิบายก็พอเห็นเค้าความแปลกดังกล่าว ที่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือเรื่องราวและน้ำเสียงที่ดุดันของหลวงพ่อ นับว่าแปลกพอๆกับพระพุทธรูป เป็นธรรมจัดสรรให้2ประหลาดโครจรมาทำหน้าที่ไขความกระจ่างคู่กัน ท่านชวนคณะเราไปคุยต่อที่ห้องแสดงธรรม ได้ฟังเรื่องพิสดารเพิ่มเติม ท่านเห็นตั้งใจฟัง จึงแจกภาพพระพุทธรูปให้นับเป็นสถานที่แปลๆได้อีกจุดหนึ่ง ผมละทึ่งจริงๆ อุ้ยที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง ทำไมยังมาค้นเจอคนและสถานที่อึ้งกิมกี่อย่างนี้ คุณหมอจอมป่วนคงจะโดนใจกับปรัชญาที่หลวงพ่อท่านฉอดๆให้ฟังคงเอาไปผสมผสานคนโง่ยังเอ๊ะใจ !

(สภาพภายในและบริเวณร้านข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง อยู่ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง มีสาขาที่แม่สอดอีกแห่ง)

ออกจากวัดเราเดินทางไปพบกับคณาจารย์คณะพยาบาลที่กรุณาเป็นเจ้ามือเลี้ยงมื้อเที่ยง ร้านข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง เป็นร้านแปลกและอลังการในด้านการออกแบบภูมิทัศน์ ฝีมืออาหารก็เด็ดดวงเชียวแหละ โดยภาพรวมแล้วนับว่ามีเอกลักษณะพิเศษ ตบแต่งด้วยต้นไม้เชิงศิลปสถาปัตย์ ตัวอาคารเป็นโดมเหมือนดอกเห็ดยักษ์ นอกจากมีน้ำไหลผ่านแล้วยังมีน้ำตกประดิษฐ์ไหลจ๊อกๆชุ่มฉ่ำอยู่ด้านข้างมุมอาหาร ท่านคณบดีบอกว่า ห้องน้ำเขาจัดได้ดีระดับที่ใครมาไม่แวะไม่ได้ ผมกับคุณหมอจอมป่วนจึงไปเยี่ยมเป็นที่ระลึก อย่างน้อยก็จะได้กลับไปคุยว่าเคยไปแอ่นก๊อกมาแล้ว อิ อิ ..

(ห้องสุขาสะอาดจนเกรงใจ ต้องค่อยๆเปิดก๊อกตั้งเป้าให้ตรง ไม่ให้กระเซ็นออกนอกลู่นอกทาง)

เมนูร้านนี้อร่อยทุกจาน การพูดคุยออกรสชาติ มีท่านอาจารย์ฝ่ายบริหารมาร่วมอิ่มด้วยหลายท่าน คุณหมอจอมป่วนชวนคุย อาจารย์หลายท่านสนใจจะมาเที่ยวสวนป่า จึงเกริ่นไว้ว่าควรจะไปช่วงหนาว เอาไว้ลงตัววันไหนค่อยส่งข่าวถึงกัน ก่อนกลับชาวคณะชวนกันถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก งานนี้นอกจากอิ่มท้องอิ่มใจแล้ว ผมยังได้รับพระองค์เล็กๆจากท่านคณบดี และท่านรองคณบดีได้ฝากซีดีเพลงพยาบาลอีกด้วย ขอขอบคุณสำหรับน้ำใจไมตรีของชาวคณะพยาบาลเชียงใหม่ทุกท่านนะครับ

(ภาพแห่งความทรงจำ ขออภัยท่านที่ไม่มีรูป คราวหน้าคณะจัดอย่าลืมมารับบัตรคิว)

ผมกลับมาตั้งหลักที่บ้านน้าอึ่ง

ระหว่างเก็บของรอเวลา

ได้งีบได้คุยกับอุ้ยนิดหน่อย

น้าอึ่งช่วยเก็บของให้เรียบร้อยมาก

ได้เวลาก็พามาส่งบิน

อุ้ยกับน้าอึ่งฝากยากับแกงแคและน้ำพริกหนุ่มอบแห้ง

ตอนแรกนึกว่าเป็นพริกแกง

มาอ่านดูที่กรุงเทพพบว่าเป็นแกงแคสำเร็จรูป

(แม่น้ำปิงไหลผ่านเชียงใหม่ มารวมปิง-วัง-ยม-น่าน-ที่ปากน้ำโพ เป็นแม่น้ำเจ้าพระยา)

ระหว่างอยู่บนน่านฟ้าก็ถ่ายรูปไล่เรียงมาเรื่อยๆ

พบว่าเจ้านกยักษ์ก็บินตามลำน้ำเจ้าพระยา

สมัยก่อนเราถ่อเรือ มาสมัยนี้เปลื่ยนมาบิน

ผมมาถึงบางกอกตอนเย็นๆ

ไม่มีงานอื่นจึงนั่งรายงานปิดทริปนี้นะขอรับ

ขอขอบคุณผู้อุปการคุณทุกท่าน

ของให้ชีวิตมีแต่ อิ อิ ตลอดไป

” มีเรือดีๆไว้ขี่ข้าม อย่าไปเอาเรือรั่วน้ำมาข้ามขี่

รักษาใจดูใจกันให้ดี ช่วยกันขี่ช่วยกันพายสบายเอ๋ย”

« « Prev : พยาบาลหัวใจกระปลกกระเปลี้ย ซ่อมได้

Next : คนแซ่เฮบุกสถาบันวิจัยสังคมจุฬาฯ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 สิงหาคม 2010 เวลา 8:41

    ชอบเก็บเล็ก เก็บน้อยค่ะ
    ” มีเรือดีๆไว้ขี่ข้าม อย่าไปเอาเรือรั่วน้ำมาข้ามขี่
    รักษาใจดูใจกันให้ดี ช่วยกันขี่ช่วยกันพายสบายเอ๋ย”
    ฝึกวิทยายุทธกับท่านจอมยุทธทั้งหลายสกุลเฮ…
    แล้วจะสบายแฮ..กิ๊บกิ้ว..( คำสุดท้าย ขอยืมน้องแห้วศรีมาค่ะ?!?!)

  • #2 silt ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 สิงหาคม 2010 เวลา 10:12

    ร้านข้าวเม่าข้าวฟ่างที่แม่สอด มีเมนูเด็ดคือ ผักกูด ไฟแดง ยำผักกูด
    เท่าที่เห็นในรูปรู้สึกว่า เหมือนกับยกเอาร้านจากแม่สอดมาวางไว้เจียงใหม่เลยครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.089409112930298 sec
Sidebar: 0.17109990119934 sec