ลานสวนป่า

พี่น้องครับ

วันนี้จะพาทัวร์น้ำท่วมทางอากาศ เป็นโครงการที่วาดหวังไว้ว่าฟ้าจะเป็นใจ

เพราะจะกลับบ้านช่วงบ่าย4โมง ถ้าแดดยังดี ไม่มีเมฆมาก หรือฝนไม่ตก

และเจ้านกเหล็กบินผ่านจุดสำคัญ

เราคงจะได้ทัวร์กันอย่างแน่นอน

วันนี้มาก่อนเวลาเล็กน้อย ไม่ต้องตื่นเต้นลากกระเป๋าหน้าตั้งเหมือนทุกครั้งที่เข้าสุวรรณภูมิ

มีผู้โดยสารน้อยมากยังกับเราเหมาลำเลยละขอรับ

นับดู 1-2-9 ทั้งลำมีเก้าคนครับพี่น้อง

ที่นั่งริมหน้าต่างเหลือเฟือ สบายใจไปเปลาะหนึ่ง

ได้เวลาโผบิน เราก็ได้เวลาเรากดชัตเตอร์ ฉับๆ

บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิเป็นแอ่งอยู่แล้ว รอบข้างที่เป็นเรือกสวนมาน้ำเจิ่งพอประมาณ

อีก5-6วันน้ำเหนือหลากมาถึงคงระบายลงแก้มลิง นาหลายหมื่นไร่แปลงสภาพเป็นที่รับน้ำ

โชคดีมากที่ไม่เจอมรสุม PB air บินเหนือชั้นกลุ่มเมฆฝน ช่วงนี้จะมองไม่เห็นอะไร

นึกถึงคำโบราณ คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคืบก็เมฆ ศอกก็เมฆแทน

จึงถ่ายภาพหมู่เมฆเพราะรามสูรและเมฆขลาก็ไม่เหาะผ่านมาทางนี้

ข้างบนเป็นทะเลหมอกทะเลเมฆ เบื้องล่างชาวไร่ชาวนาน้ำตานองหน้า

ได้ข่าวว่าทางการจะชดเชยให้ไร่ละ800บาท

อย่าลืมสำรวจส่งลูกพี่ก็แล้วกัน

รัฐบาลใหม่จะได้มีผลงานโดนใจรากหญ้า

ผ่านเขาใหญ่ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ น้ำคงลงเขาไปหมดแล้ว

จนกระทั่งเข้าเขตบุรีรัมย์ตำน้ำกิน

ปีนี้ไม่ต้องตำน้ำแล้วพี่น้อง

น้ำมาจากไหนไม่รู้ท่วมเอาๆอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ถนนหนทาง สะพานพังยับก็คราวนี้

ไร่นาที่ลุ่มไม่ต้องพูด ..ถึงจะแจกเครื่องประดาน้ำก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก

มันท่วมเพราะโลกร้อน หรือท่วมเพราะเราไม่เสริมสร้างสภาพแวดล้อมให้ดี

ต่อไปนี้นับวันจะมีวิกฤติทางธรรมชาติรุนแรงขึ้น

ถ้ามนุษย์ยังดูแคลนธรรมชาติ ไม่ใส่ใจป้องกันอย่างยั่งยืนอนาคตก็ยักแย่ยักยันอย่างนี้ละครับ

เมืองบุรีรัมย์เป็นที่ลุ่มแอ่งกระทะ ถ้าฝนตกแบบฟ้ารั่วหลายวันก็จะเป็นกาละมังรวมน้ำดีๆนี่เอง

แก้มลิงก็ยังไม่มี ห้วยฝายมีแบบเล็กๆ คูคลองขุดบ้างแบบวัดครึ่งหนึ่งกรรมการครึ่งหนึ่งไม่ตามสเป็ก

ถนนบางแห่งน้ำท่วมสูงถึงเมตรเศษ รถราหยุดชะงัก ชาวบ้านนอนดมน้ำเน่าเคล้าน้ำตา

ว่าแต่เขาอิเหนาก็เป็นด้วย

ช่วงที่เครื่องโฉบจะบินลง

อ้าว!รอบๆบริเวณอำเภอสตึกบางส่วนก็ปริ่มน้ำเป็นบริเวณกว้าง

ต้นข้าวตกน้ำป๋อมแป๋มเป็นบริเวณกว้างประมาณ1,500ไร่

ที่สวนป่าละเป็นยังไง

อ๋อ..สบายมาก เราอยู่ที่สูงต้นไม้สูงฝนตกมาเท่าไหร่ก็ได้สบายมาก

ไม่เดือนร้อนใดๆ ผักงามสะพรั่ง ยอดฝักทองยั๊วเยี้ย

เย็นนี้ปิ๋วแกงส้มมะรุมต้อนรับ

เธอบอกว่ากินเพิ่มภูมิต้านทานช่วงอากาศเปลี่ยน

ถามแม่หวีตอนที่ขับรถมารับ

เรื่องนาที่พวกเรานัดกันจะมาเกี่ยวข้าวปลายปี

แม่หวีบอกว่า..น้ำท่วมมิดมองไม่เห็นอะไรเลย

สงสัยจะเปลี่ยนแผนมาเลี้ยงปูนาแทนเสียแล้ว

ปลายปีจัดประกวดร้องเพลง..แม่จ๋าปูน้อยหนีบมือ อิอิ..

สรุป..ตามอำเภอใจ

- แผนแม่บทด้านการดูแลแม่น้ำ ลำคลองในระดับหมู่บ้าน ชุมชน และภูมิภาคยังไม่มีเจ้าภาพ

-แผนการจัดการน้ำ ยังอยู่ในระดับผีลุกปลุกผีนั่ง ตื่นตาเฉพาะช่วงเกิดภัยพิบัติ

-แผนการสร้างเสริมสภาพแวดล้อมธรรมชาติยังอยู่ในอากาศ

    แผนการปรับปรุงสภาพพื้นที่ทำกินยังเยาะแยะแย่งกันทำแบบเล็กๆน้อยๆตามมีตามเกิด ไม่มีวิธีคิดถึงอนาคต ประเทศจีนคิดใหญ่ สร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง น่าศึกษาว่าแก้ปัญหาอะไร ได้ เกิดประโยชน์แวดล้อมในทางใด เราควรวางแผนเกี่ยวกับด้านความแปรเปลี่ยนของภัยพิบัติเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไร ประมวลความสูญเสียแต่ละปี ถ้าเปลี่ยนงบประมาณด้านการชดเชย มาเป็นงบป้องกัน จะช่วยลดความเสี่ยงและได้ประโยชน์จากการกับเก็บน้ำไว้ใช้ในไร่นาหน้าแล้งไม่ดีกว่าหรือ ควรสำรวจความเหมาะสมถึงวิธีแก้ไขภัยภิบัติในแต่ละท้องถิ่น กระจายความรับผิดชอบและความร่วมมือไปสู่ประชาคมในพื้นถื่นนั้นๆ

    นับวันวิกฤตทางธรรมชาติจะมากขึ้น เลิกวิธี..ฝนแล้งก็แช่ง น้ำท่วมก็ด่า เอาของมาแจกตอนน้ำหลาก หน้าแล้งเอารถบรรทุกน้ำปุเลงๆไปแจก จะบริหารน้ำให้เป็นระบบไต่ระดับไปสู่จุดพอดีพอใช้ได้อย่างไร?

    เกษตรจำนวนมาก ทำมาหากินบนพื้นที่ๆขาดการปรัปรุงสภาพความพร้อม บางพิ้นที่ควรจะดำเนินการดังนี้

-ยกคันนาให้กว้างและสูง เพื่อเป็นถนนเข้าสู่ไร่นา ควรมีขนาดกว้างพอที่จะปลูกไม้ยืนต้นยาวเป็นทิว2ข้างทาง (ประมาณ4-5เมตา) นอกจากจะให้ร่มเงาร่มรื่นแล้ว ยังช่วยยึดคันนาได้ด้วย

-ดินที่ขุดออกไปทำคันคูจะเป็นที่ลุ่ม ปรับสภาพให้ดี กว้าง4เมตร ลึก3-4 เมตร จะเป็นแหล่งกักเก็บน้ำฝนยาวคดเคี้ยวคู่ขนานไปตามรูปถนน

-ริมถนนปลูกต้นไม้ แหล่งน้ำเลี้ยงปลา ปลูกผัก เพิ่มงานเสริมอาชีพที่เหมาะสม เช่นเลี้ยงเป็ด ไก่ ปลูกหญ้าเลี้ยงโค

-ถ้าขยายคันนาเป็นคันคูไปทุกพื้นที่ คันคูเหล่านี้จะช่วยกักเก็บน้ำไว้ไม่ให้ไหลไปรวมกันเป็นสายน้ำหลาก ชาวไร่ชาวนาจะได้ประโยชน์ไม่ต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า อีกทั้งช่วยบรรเทาอุทกภัยได้ไม่มากก็น้อย

-การทำเช่นนี้ หน้าตาที่ดินจะเปลี่ยนไป แทนที่จะเป็นที่นาเตียนโล่ง ก็จะมีต้นไม้ขึ้นเต็มท้องทุ่ง

       Key Word

        นาหัวโล้น ภูเขาหัวโล้น หมดไปจากสายตาเมื่อใด

       อุทกภัยจะลดลงอย่างเป็นรูปธรรม

        เรามาประเมินสภาพแวดล้อมเชิงรุกอย่างยั่งยืนด้วยวิธีนี้ดีไหมต๋อย!

« « Prev : ไปเกาะแกะที่เกาะเกร็ด

Next : วันระพีเสวนา » »