มาเจียงใหม่ ถ้ายังไม่เคยเจออาปาอย่าเพิ่งคุย

โดย sutthinun เมื่อ 28 กรกฏาคม 2010 เวลา 7:55 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 3355

นอนละปูน2คืนอายุยืน14ปี แต่คืนต่อไปนี้จะย้ายที่นอนไปเจียงใหม่ เรื่องกิน-เรื่องนอน-ทำภารกิจ-ไปไหนๆ-ได้รับความกรุณาจากญาติแซ่เฮที่วางแผนให้อย่างทะลุปรุโปร่ง เมื่อวานออกเดินทางแต่เช้า ครูอึ่ง-อาราม-อุ้ยสร้อย-พรพรรณ-อาจารย์ไพลิน รถขนต้นไม้ไปถึงตั้งแต่ตี2 ถ้าเราไปถึงเร็วก็จะได้ลงมือซ่อม-ปลูกต้นไม้เร็ว “ปลูกเร็วเท่าไหร่ก็โตเร็วเท่านั้น” จึงบึ่งไปถึงวัดพระบาทห้วยต้มประมาณ 8.30 . การซ่อมตนไม้คราวนี้ กาซอ บัญชาการอย่างขันแข็ง พระและเณรตะลุยปลูกต้นไม้จีวรเหลืองปลิวไสวสองข้างถนน อาการครึ้มลมพัดเย็นสบาย

ต้นไม้ส่วนใหญ่กำลังตั้งพุ่มกิ่งก้านเริ่มขยับ มีต้นไม้ตายประมาณ20% ปีนี้พระเณรท่านช่วยกันถางพรวนเอาวัชพืชออกจากโคนไม้ ช่วยกันปลูกซ่อม ใส่ปุ๋ยทุกหลุมเรียบร้อย กล้าไม้ที่เอาไปรุ่นนี้โตกว่าต้นเดิม คาดว่าอัตราการเติบโตคงจะไล่เรียงกัน ปัญหาที่พบจากการปลูกครั้งแรก การเตรียมการไม่ดีพอ เช่น

1 ผู้คนจำนวนมาก (พระ-เณร-เยาวชน-ชาวบ้าน)ยังไม่เข้าใจวิธีการปลูก เริ่มตั้งแต่หิ้วต้นไม้ต่องแต่งพะรุงพะรังต้นไม้ก็บอบช้ำ

2 บางคนไม่ระวังตอนแกะถุงพลาสติกทำให้ถุงแตกเปลือยราก ถ้าปลูกแล้วไม่ได้รดน้ำ โอกาสที่รากพืชจะเหี่ยวเฉามีมากทำให้ต้นตาย

3 การเตรียมหลุมไม่ดีพอ ระหว่างปลูกควรมีการแต่งหลุม ไม่สามารถบอกกล่าวทำความเข้าใจได้ทัน จึงปล่อยให้ปลูกกันอย่างโฉ่งฉ่าง

4 ไม่ได้รองปุ๋ยก้นหลุมอย่างทั่วถึง

5 ปลูกแล้วปลูกเลย ปล่อยให้ไฟไหม้ วัชพืชปกคลุม ไม่ได้พรวนดินใส่ปุ๋ย ฝนแล้งยาวนานในรอบ40ปี ทำให้ต้นไม้เติบโตในอัตราช้า

6 คาดว่าหลังจากปลูกซ่อมแซมใส่ปุ๋ยแล้ว ปีหน้าคงจะมีทิวไม้เอกมหาชัยเป็นร่มเงาสูงท่วมศีรษะ

ผมสัมภาษณ์กาซอถึงสภาพปัญหาทั่วไป กาซอเล่าว่าปีนี้แล้งมาก ชาวเขาปลูกข้าวโพด2-3รอบ (ปลูกเจอแล้งก็ไถทิ้งปลูกใหม่) แม้แต่ต้นข้าวโพดรอบสุดท้ายกาซอชี้ให้ดูว่าไม่มีฝัก คงจะไถทิ้งอีก กาซอโยงไปถึงเรื่องโลกร้อน ผู้คนใช้ยาฆ่าหญ้ามากทั่วภาคเหนือ ก็ยิ่งทำให้ผืนดินแห้งเกรียม ความชุ่มชื้นจะเอามาจากไหน น้ำในห้วยที่เคยเต็มปริ่มก็เหือดหาย ชาวบ้านเริ่มยากลำบากในการดำรงชีพ ยังบอกไม่ได้ว่าจะเดินไปทางไหน ลำไยที่ปลูกไว้ก็ไม่มีลูกเสียอีก ทั้งๆที่ปีนี้ราคาดี ลำไยเกรดเอก..ละ29 บาท ต่างจากปีที่แล้วก..ละ5-8บาท ลำพูนวันนี้ชาวสวนลำไยที่มีผลผลิตจึงอู้ฟู่พอควร

อุ้ยมีลูกศิษย์ชาวสวนลำไย

ที่เอาปุ๋ยขี้ม้าบำรุงต้น

ได้ลำไยลูกโตหวานหอมมาให้ชิมกล่องใหญ่

เล่าให้ฟังเฉยๆ..ว่าได้ชิมลำไยที่อร่อยที่สุดในจักรวาล

หลังจากจัดการเรื่องปลูก-ซ่อมต้นไม้ คณะเราทีมไปชมไร่นาของกาซอ ที่อยู่ท่ามกลางป่าไม้ มีร่องน้ำไหลผ่านคดเคี้ยวและมีบ่อน้ำผุด ปลูกลำไย-ปลูกข้าวไร่ทำนาดำและเลี้ยงวัวฝูง ปีนี้ลำไยไม่ติดผลเงินหายไปหลายแสน ข้าวไร่กำลังแตกกอเล็กๆ ฝูงวัวอยู่ในสภาพดีเพราะมีอาหารในธรรมชาติอย่างพอเพียง มีรายจ่ายค่าคนเลี้ยงเดือนละ1,500 บาท เลี้ยงแบบต้อนให้ไปหากินในสวนและป่าธรรมชาติ คุยกันว่า ถ้าเปลี่ยนพ่อพันธุ์ เอาใบไม้มาหั่นให้วัวกินเสริม วัวที่อยู่ในสภาพกลางๆก็จะอ้วนท้วนยิ่งขึ้น มูลวัวไม่ตกเรี่ยราดนอกคอก ทำให้มีปุ๋ยไปบำรุงดิน

กลับจากชมสวนกาซอ คณะกลับมารับประทานอาหารเจที่เฮือนคุณอัมรา อิ่มอร่อยจนอืด แล้วจึงล่ำลากันไปตามจุดประสงค์ คุณอัมราเข้ากรุงเทพฯ คณะเราไปเที่ยวดอยเต่า ห่างจากที่เคยไปเยือนเมื่อ30ปีที่แล้ว ดอยเต่าปีนี้น้ำแห้งอย่างมาก สมัยก่อนนั่งเรือยนต์ไปขึ้นที่เขื่อนภูมิพลได้ ปีนี้สภาพดอยเต่าที่น้ำลดไปจนสุดกู่ ก็แสดงว่าน้ำในเขื่อนภูมิพลคงจะวิกฤติอย่างมาก เหลือเวลาฝนจะเทมาอีก2เดือน ถ้าพระพิรุณไม่เป็นใจส่งฝนมาให้ น้ำต้นทุนในเขื่อนต่างๆก็จะมีน้อยมากที่สุดตั้งแต่สร้างเขื่อนมา บางทีเราอาจจะเห็นเขื่อนกับลมแทนน้ำ และ “น้ำใช้อาจจะหมดก่อนน้ำมัน” ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะต๋อย! มนุษย์ต้องช่วยกันปลูกต้นไม้อย่างเอาจริงเอาจัง อย่าคิดและทำอย่างเชื่องช้า ปลูกต้นไม้คนละ1ต้น ปลูกคนละหลายๆต้นไม่ได้หรือ เต่าที่ดอยเต่าร้องไห้เป็นเต่าเผาไปแล้วในเวลานี้

อารามพาเราฝ่าสายฝนไปวัดชมวัดพระธาตุศรีจอมทอง พระธาตุจอมทองมีอายุกว่า500ปี ประดิษฐานอยู่บนยอดดอยจอมทอง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวาที่เรียกว่า ทักษิณโมลีธาตุ ธาตุกระดูกด้ามมีดเบื้องขวา (ขากรรไกร) สัณฐานเป็นรูปสามเหลี่ยมขนาดเท่าเม็ดข้าวสารหัก และส่วนอื่นมีขนาดเท่าเมล็ดพันธุ์ผักรวม5องค์ สัณฐานกลมเกลี้ยงสีดอกพิกุลแห้งมีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่นคือ พระบรมธาตุที่มิได้ฝังใต้ดิน แต่ประดิษฐานอยู่ในกู่ภายในวิหาร สามารถอัยเชิญมาสรงน้ำได้

เทวดาชี้ชวนว่าคนเกิดปีหนู ควรจะได้มีโอกาสไปกราบไหว้พระประจำตัว ไปถึงฝนหยุดโปรยปราย แต่อุโบสถปิดประตูไว้ ทางวัดคงเห็นว่าไม่มีคนมาเที่ยวในจังหวะฝนปรอยๆอย่างนี้ จึงได้แต่ชื่นชมวัดที่สวยงาม ไปเจอรูปปั้นยักษ์เด็กๆถือตะบอง ไหว้พระอยู่ด้านนอกแล้วจากลา ฝากไว้ก่อนโอราฬ..

เรื่องเด็ดส่งท้ายวันนี้ อยู่ตรงที่อุ้ยให้โอกาสเราไปไหว้อาปาผู้อาวุโสอายุ87-88ปี แต่ยังแข็งแรงร่าเริงเสียงดังฟังชัดคุยสนุก จะมีสักกี่คนที่อายุปานนี้ยังสนใจเล่นอินเตอร์เน็ท ผมนะอึ่งกิมกี่ตีหลบที่เดียวแหละ บ้านอุ้ยอยู่ถนนสายที่สวยที่สุดในประเทศไทย ถ้าใครผ่านถนนสารภี-เชียงใหม่ คงจะเห็นต้นยางนาขนาดใหญ่ยืนคู่ขนาน2ข้างทาง ผมอิจฉาคนที่มีเคหาอยู่ในบริเวณนี้มานานแล้ว วันนี้มาเจอตัวจริงเสียงจริง จึงถามอาปาว่า..มีความเป็นมาอย่างไร?

อาปาเล่าว่าเกิดที่กรุงเทพฯ เป็นลูกชายคนโตของครอบครัว เรียนจบชั้นประถมต้นแล้วติดตามอาจารย์ที่สอนไปเรียนต่อที่เมืองจีน ไปช่วงเริ่มต้นสงครามโลก จึงตกอยู่ในไฟสงคราม การเล่าเรียนท่ามกลางวิกฤติสงครามนั้นมันสุดแสนจะหฤโหด ต้องย้ายหนีลูกระเบิดไปหลายเมือง สงครามสงบจึงได้กลับมาเมืองไทย พบว่าครอบครัวยากลำบาก ในฐานะพี่คนโตจึงแสวงหางานทำ มีผู้แนะนำให้ไปเป็นครูสอนภาษาจีนในจังหวัดสตูลและจังหวัดภาคใต้หลายแห่ง

ต่อมาเพื่อนแจ้งว่า ที่เชียงใหม่โรงสีข้าวต้องการหลงจู้ พร้อมกับโฆษณาว่า..เชียงใหม่เป็นเมืองน่าอยู่ แถมสาวๆสวยๆเป็นกะตั๊ก มาไหม? ..ไม่ทราบว่าประเด็นหน้าหรือประเด็นหลัง หนุ่มมังกรแซ่เฮง..นักสู้ชีวิตตัดสินใจแบบข้ามาคนเดียว เข้าทำงานอย่างขยันขันแข็ง เจริญก้าวหน้าขึ้นมาตามลำดับ และแล้วก็มาพบเอื้องเหนือคนงามแห่งเมืองลำพูน จึงปักหลักปักฐานเป็นปึกแผ่นมาเท่าทุกวันนี้ อาปาบอกว่า “มันเหมือนเมล็ดผัก ตกมาอยู่ที่เหมาะสมจึงเจริญงอกงาม” ยึดหัวหาดเมืองสารภีอยู่ดีมีสุขมาตลอด60ปี ไม่เคยย้ายไปไหน มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง ที่แปลกก็คือลูกๆอาปา5คนล้วนรับราชการเจริญก้าวหน้ามีตำแหน่งใหญ่โตทั้งนั้น..ที่ผนังบ้านเต็มไปด้วยภาพรับปริญญาของลูกหลานจนละลานตา เมื่อวานเพิ่งเลี้ยงชุมนุมญาติ หลานสาวคนที่เป็นแพทย์รางวัลเกียรติยศเหรียญทอง ขอเลือกไปทำงานที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เป็นที่ฮือฮามาก ผู้มีโอกาสจะอยู่เมืองกรุงที่ไหนก็ได้..แต่เลือกไปเมืองดินดำน้ำชุ่ม ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมลูกหลานอาปาเก่งกันทุกคน

อาปาเป็นครูที่ขยันขันแข็งให้เห็นตลอดชีวิต

อาปาได้แต่งหนังสือเรียนภาษาจีนเบื้องต้นให้แก่วงการศึกษาไทย

อาปาเป็นพี่คนโตที่ดูแลน้องๆให้สร้างฐานะกันได้ดีทุกคน

อาปาเป็นศูนย์รวมของความดีมีสุขและมั่นยืนของวงศ์ตระกูล

ผมโชคดีที่สุดในโลก อาปาได้มอบหนังสือเกี่ยวกับภาษิตและคติพจน์ต่างๆ ที่ท่านค้นคว้าแล้วแปลเป็นภาษาไทยกำกับ รับมากับมือพร้อมลายเซ็นอุ่นๆ เปิดอ่านแล้วแทบวางไม่ลง เรื่องดีๆอย่างนี้จะเล่าอย่างรวบรัดได้อย่างไร มีข้อแนะนำว่า ถ้าใครได้คุยกับอาปา ควรจะเอาเทปไปบันทึกเสียงด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะเผลอฟังเพลิน ภายหลังจะนำมาถอดเนื้อหา ก็จดจำรายละเอียดไม่ได้ทั้งหมดอย่างที่ผมกำลังงึมงำอยู่ในขณะนี้

: กาซอ คือหัวหน้าชุมชนชาวปากะญอ เป็นศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อครูบาวงศ์

« « Prev : ทำชีวิตติดดิน ให้ติดใจ

Next : ซิปแตก » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "มาเจียงใหม่ ถ้ายังไม่เคยเจออาปาอย่าเพิ่งคุย"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.15559601783752 sec
Sidebar: 0.06468677520752 sec