ทำชีวิตติดดิน ให้ติดใจ

โดย sutthinun เมื่อ 16 กรกฏาคม 2010 เวลา 9:03 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2672

(กลับบ้านแล้วครับ แอร์แจกร่มแต่ไม่ยอมมากางร่มให้)

แผนกระชับพุง กว่าจะหาเจอแบบพอดิบพอดีก็ผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากมาย บังเอิญว่าช่วงนี้ ที่สวนป่าจะสับกิ่งไม้เลี้ยงโคทุกวัน ช่วงสายๆ9-10โมงเช้า ก็จะได้ยินเสียงเครื่องสับใบไม้ทำงาน ผมก็จะออกไปช่วยลุงอานเอาใบไม้ใส่ลงไปในเครื่องสับ ช่วยกันอย่างได้จังหวะพอดี กว่าวัตถุดิบในมือผมจะไหลลื่นออกไป ลงอานก็เตรียมกิ่งไม้มารอพอดี ทำให้การสับเกิดความต่อเนื่อง ประหยัดพลังงานและเวลาทำงาน ประมาณ11โมงหญ้าสดและใบไม้สับกองโตก็พร้อมเสิร์ฟคุณมอ..มอ.ทั้งหลาย การที่ได้ช่วยกันทำงานอย่างนี้ พบว่าผมได้เหงื่อซึมทุกวัน งานก็ไม่หนัก ความสุขเกิดทันทีที่เห็นคุณโคทั้งหลายมะรุมมะตุ้มกินอาหารอย่างอร่อย

(ปัจจัยในการออกกำลังกายของผมครับ)

หลังจากนั้นก็จะไปอาบน้ำ ช่วงนี้ผลมะกรูดเต็มต้น แวะไปเก็บเอาผลสดมาผ่าใช้สระผมและถูตัว กลิ่นของมะกรูดนำความสดชื่นมาให้หลายชั่วโมง อาบน้ำเสร็จก็ไปเตรียมอาหารกลางวัน คิดเมนูง่ายๆที่ชอบก็อิ่มอร่อยได้แล้วละครับ มื้อเย็นจะรับประทานให้น้อยและค่อยๆลดลง หันมารับประทานผลไม้มากขึ้น จะลองวัดผลความประพฤติใหม่ที่ว่านี้ในหนึ่งเดือน วันที่ 20 สิงหาจะพาตัวเองไปรบกวนป้าหวานตรวจพยาธิอีกรอบหนึ่ง จะลดหรือจะเพิ่มพุงก็ต้องพยายามต่อๆไป..

คืนนี้นอนฟังเสียงฟ้าร้องทั่วฟ้าบางกอก ทิวฝนทะมึนกว้างจากขอบฟ้าจรดขอบฟ้า ขะมุกขะมอมจนดวงอาทิตย์ยังสอดส่องแสงออกมาไม่ได้ สายแล้วหมอกสลัวเรี่ยราย นอนดูทีวีมีเรื่องวิทยาลัยนครราชสีมา เปิดสอนหลักสูตรคณะพยาบาลผิดขั้นตอน ไม่ผ่านการอนุมัติหลักสูตรจากสภาพยาบาล แต่ปิดบังข้อมูลดื้อสอนจนกระทั่งโดนสั่งระงับ ต้องลอยแพนักศึกษา293คน เรืออากาศเอก นพ.ศรัณย์ อินทกุล อธิการบดีวิทยาลัยนครราชสีมา แถลงว่าได้ส่งเรื่องให้ศาลปกครองพิจารณา เรื่องอย่างนี้ยังมีอยู่ที่ไหนอีกไหมหนอ คณะพยาบาลศาสตร์ ม.อุบลฯ ได้ช่วยรับนักศึกษาที่มีปัญหาดังกล่าวนี้ไปเยียวยาในบางส่วน เด็กต้องเสียเวลาเรียนและใช้จ่ายรอบใหม่ อนาคตชะงักไปได้อย่างเหลือเชื่อ ระหว่างเรียนก็ตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ จบไปแล้วก็ยังไม่รู้จะหางานที่ไหนได้ ในเมื่อเกิดวิกฤติชื่อเสียเป็นตราประทับ ความเสียหายที่เกิดขึ้นคงตกอยู่หลายขยักในแต่ละส่วนของหน่วยงานที่รับผิดชอบ สถานศึกษาโหลบานเป็นดอกเห็ด วิทยาเขตที่แข่งกันเปิดเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ตอนนี้ ก็มีการกล่าวถึงว่าคุณภาพยังน่าเป็นห่วง..

การเลือกใช้ชีวิตติดดินมายาวนาน ได้ประสบเรื่องแผ้วพานเข้ามาไม่เว้นวาย พบว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆเลยที่ไม่ดิ้นรน การเกิดเป็นทุกข์จริงหรือ ถ้าเราช่างสังเกต จะมีเหตุมีเรื่องให้คิดให้ทำอย่างสนุกเสมอ ระหว่างเดินชมสวน เห็นดอกแก้วมังกรสีเหลืองอ่อนบานสะพรั่ง แข่งกันชูช่อรอแสงแดดอุ่น หมู่มวลผึ้งบินหึ่งๆเข้าไปดูดซับอาหารข้างใน เดินตามไปที่ตั้งกล่องผึ้ง โอ้โหกล่องที่อยู่ท้ายสุด ทำไมปลวกแทะกล่องจนผุพังได้ละ ทั้งๆที่เราคิดป้องกันไว้แล้ว เอาเหล็กฉากมาทำเป็นเสาสูงจากพื้นประมาณ1เมตร เพื่อไม่ให้ปลวกขึ้นไปแทะกล่องผึ้งได้ วิธีนี้ทำให้กล่องผึ้งรอดปลอดภัยเรื่อยมา

แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว

ปลวกได้พัฒนาการวิชาความรู้ใหม่

ทำเป็นหลอดลำเลียงเกาะติดเสาเหล็กขึ้นไปแทะกล่องผึ้ง

เรื่องอึ้งกิมกี่นี้อธิบายได้ว่า

ไม่มีสัตว์แมลงชนิดใดที่ไม่ดิ้นรนแก้ปัญหาอย่างสุดเหวี่ยง

ทั้งๆที่ตามพื้นดินก็มีเศษไม้ให้เลือกแทะอย่างสะดวก

ตอบได้ไหมครับ..ว่าทำไมปลวกจึงจ้องที่จะมาแทะกล่องผึ้ง

มันอร่อย หรือมันอยากจะลองดี..อยากจะสั่งสอนเราว่า..

วิธีเก่าๆที่เราเอามาป้องกันปลวกนั้นใช่ไม่ได้กับปลวกพันธุ์ใหม่หรอกนะ

โอ้โห โลกใบนี้ เกิดความชุลมุนความรู้ใหม่ๆสดๆมาท้าทายชะลอหลังยาวเสียแล้วละครับ ใครไม่สนใจก็จะ-สอบตก-ตกโลก-ตกขอบ-เชียวนะ จิบอกไห่ สถานการณ์ของวิถีชุมชนทำท่าจะเข้าตาจน คนชนบทอยู่ในสภาพเหมือนถูกเลี้ยงไข้ ไม่รู้ที่จะตั้งตัวตั้งใจทำอะไรมันถึงจะกินอิ่มนอนอุ่นได้อย่างแท้จริง ในเมื่อระบบชีวิตไปผูกพันกับเรื่องนอกระบบ เช่น หนี้นอกระบบ การงานที่ถูกมัดมือชก ถึงไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตหรอกนะครับ ในเมื่อภาคเกษตรกรรมตกระกำลำบาก ไม่มีฐานรองรับที่เอื้ออำนวยต่อการทำมาหาเลี้ยงชีพ วิชาการยังหาวิชาชีพไม่เจอ ได้ยินคำโฆษณาปาวๆเรื่องครูมืออาชีพ แต่ชาวไร่ชาวนามืออาชีพยังเงียบๆ มีแต่เกษตรกรใจอาชีพที่สะบักสะบอม

(คณาจารย์ ม.ราชภัฏมหาสารคาม แวะมาสนทนาย่อยนอกรอบ หัวไวใจสู้กันทั้งน๊านนน)

วันนี้มีผู้นำเกษตรกรไปเข้าค่ายที่สวนป่า 55 ชีวิต และมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคามจำนวนหนึ่งมาขอคุยเรื่องบริการวิชาการสู่ชุมชน ผมกลับมาถึงบ้านช่วงบ่าย กลับไปร่ายยาวเรื่องโมเดล”ท้องถิ่น”ปฏิรูปประเทศไทย ที่รัฐบาลให้ความสนใจส่งเสริมการเคลื่อนไหวความรู้ความคิด ลงมือปฏิบัติฟื้นฟูองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 8,000 องค์กรทั่วประเทศ รวมกันปฏิรูปประเทศไทยให้เกิดความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยกันขจัดความยากจน สร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่มีให้ความปกติสุข ลดการอพยพไปหางานทำนอกถิ่น หันมาปลุกปล้ำการงานอาชีพด้วยน้ำพักน้ำแรงตนเอง โดยคณะทำงานมีข้อเสนอต่อรัฐบาลดังนี้

1.> แก้กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค ต่อการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง

2.>ปรับบทบาทกระทรวงมหาดไทยจากการใช้อำนาจมาสนับสนุนปรับบทบาทผู้ว่าราชการจังหวัดจากเป็นผู้บริหารเป็นผู้กำกับ

3. >ให้ชุมชนมีสิทธิในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน

4. >ให้ชุมชนท้องถิ่นมีสิทธิในการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของตนเอง

5. >ห้ามมิให้เศรษฐกิจมหภาคทำลายความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น แต่เศรษฐกิจมหาภาคควรเกื้อหนุนเศรษฐกิจชุมชน

6. >ให้มีมหาวิทยาลัยอย่างน้อย1แห่ง ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่นใน1จังหวัด

7. >ให้นายกรัฐมนตรีตั้งองค์กรอิสระเพื่อพัฒนาระบบปกครองตนเองของชุมชนท้องถิ่น

นอกจากนี้ยังมีผู้สันทัดกรณีเสนอแนวทางการปฏิรูปตนเองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวคือร่วมกันแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใส และการไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น หรือการลดจำนวนคอร์รัปชั่นลง เพื่อให้เป็นที่ไว้วางใจและยอมรับขององค์กรและหน่วยงานต่างๆ โดยที่ อปท. ร่วมกันคิดเองมีตัวชี้วัดธรรมภิบาลท้องถิ่น หรือมีนวัตกรรมที่แสดงถึงความโปร่งใสในรูปแบบต่างๆ

Ø อปท. ร่วมกันสร้างธรรมภิบาลท้องถิ่น

Ø อปท.ทั้งผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น บุคลากรหรือเจ้าหน้าที่อปท.ร่วมกันประพฤติ ปฏิบัติดี มีวินัย

Ø อปท.ร่วมกันส่งเสริมและยกย่องคนดี ที่ทำประโยชน์เพื่อชุมชนท้องถิ่น

Ø อปท. ร่วมกันส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในระดับแผนงานโครงการของทั้งใน อปท.และในระดับชุมชน

เราอยู่กับอนาคตที่เพ้อฝันลมๆแล้งๆมายาวนาน

แรงกายแรงใจ ความสุจริตใจ มีอยู่ในทั่วทุกตัวคนอยู่แล้ว

พัฒนาความเข้าใจไปสู่ความตั้งใจ

อยู่ในวิถีเรียนรู้ในพื้นที่จริง

ทำความจริงให้ปรากฏ

ถ้าชุมชนสร้างอนาคตไม่ได้ ก็ต้องอยู่กันแบบคดๆงอๆ

ถามตัวเอง ตอบตัวเอง ว่าทำไมต้องทำเรื่องนี้

« « Prev : การศึกษา ตอน:เหวี่ยงแหหา เหาใส่หัว

Next : มาเจียงใหม่ ถ้ายังไม่เคยเจออาปาอย่าเพิ่งคุย » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 กรกฏาคม 2010 เวลา 19:38

    เครื่องมือเพิ่มกิจกรรมทางกายนั้นใช้ได้เลยค่ะพ่อครู 

    ส่วนในเรื่องของอาหาร แค่ปรับเพียงเมนูที่ใช้น้ำมันปรุง ลดน้ำมันที่ใช้ปรุงลงสักครึ่ง เช่น เดิมใส่เป็นหลายช้อนข้าว ลดลงเหลือแค่ช้อนข้าวอย่างนี้ก็ถือว่าใช้ได้ 

    อาหารเย็น กินข้าวได้ อาหารก็ปรับเมนูที่มีเนื้อสัตว์ เป็นพืชผักให้มากขึ้น เท่านี้ก็พอไหวสำหรับการปรับแล้วค่ะ 

    ถ้าจะใช้ผลไม้เป็นอาหารเย็น มื้อเย็นไหนกินข้าวด้วย ผลไม้ด้วย ให้ลดปริมาณข้าว (ยังกินข้าวได้) เผื่อพุงไว้ให้ผลไม้ด้วย

    ถ้าจะกินผลไม้อย่างเดียวเท่านั้น ก็ให้จำกัดปริมาณนะคะ กินให้อิ่มเท่าอิ่มจากข้าว อาจจะเยอะไปได้ค่ะ

    ถั่วเม็ดแห้งที่กินเล่นเป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งที่เพิ่มพุงค่ะ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 กรกฏาคม 2010 เวลา 7:56

    รับปฏิบัติคร๊าบบบบบบบบบบบบ

  • #3 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 กรกฏาคม 2010 เวลา 7:10

    คน จะอาย ปลวก ก็คราวนี้…
    ปลวกเดี๋ยวนี้พัฒนาการเร็วจริง ๆ ค่ะ

    ว่าง ๆ หนูจะส่งสูตรลดพุงมาให้นะคะ พี่เขยลดได้ 3 กก.ภายใน 7 วัน ไม่กลับมาอีกเลยค่ะ

  • #4 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 กรกฏาคม 2010 เวลา 14:50

    ลดแบบไหนไวไฟขนาดนั้น อิอิ บอกด่วน อิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.07184886932373 sec
Sidebar: 0.069518089294434 sec