สัมมนาจนเน่าทั้งกะบิ
อ่าน: 2549
ช่วงที่ผ่านมา2-3ปี คณะวิทยาการจัดงานหงายท้องให้เห็นอยู่เสมอๆ กระแสสั่งให้ผู้คนสนใจมาร่วมด้วยช่วยกันพัฒนางานอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง มีทั้งการเดินทางมาเยี่ยมเยียน มาดูงาน มาส่งเสริมการงานอาชีพ จัดฝึกอบรม นักวิชาการเดินทางกันจนขาขวิด ผู้นำชุมชน กลุ่มแม่บ้าน ปีหนึ่งๆไปดูงานจนตาแฉะ ไปมาหมดแล้ว ขึ้นเหนือล่องใต้ได้รู้ได้เห็นมานับ10-20ครั้ง กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญการไปศึกษาดูงานจนเจนจบ ไปสัมภาษณ์ในหมู่บ้านดูเถอะ มีใครบ้างที่ไม่เคยไปอบรม
พ่อใหญ่บอกว่า..ไปดูที่ไหนก็เจอแต่เรื่องดีๆ ได้ยินได้ฟังแต่เรื่องดีๆ รู้เห็นมาหมดแล้ว แต่พอกลับมาบ้านก็มานั่งงง ไม่รู้จะจัดการตัวเองยังไง ดินทำกินมีน้อย คลองส่งน้ำก็ไม่มี พันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ไม่มี ทำเลเลี้ยงสัตว์กลายเป็นสวนยางพารา ถนนหนทางก็ไม่สะดวก ทุนหายกำไรหด หนี้สินก็ท่วมท้น ซื้อหวยก็ไม่ถูก มีปัญหาบังปัญญาจนมืดมิด
ถามว่า..
..พวกผมไปซื้อเหล้ามากินได้ไหมครับ?
..พวกผมเล่นไพ่ได้ไหมครับ?
ตัวอย่างพวกนี้ใครนำร่องไว้ก็ไม่รู้
~!$&*&~~%$%%%#@@!
~!$&*&~~%$%%%#@@!
การอบรมดูงานมากล้นจนเหลือเฝือ
ชาวบ้านเบื่อจำใจเข้าเป็นแนวร่วมแบบงั้นๆ
บางหน่วยงานก็จัดให้มันจบๆไปตามใบสั่ง
การศึกษาดูงานถูกบรรจุในพันธกิจของทุกองค์กร
เมื่อความซ้ำซ้อนเป็นขยะมันจึงด้อยค่าลงไปเรื่อยๆ
เกิดอาชีพรับจ้างอบรมทั้งหมู่บ้าน
ไปเอาค่าหัวมากกว่าเอาความรู้..
หน่วยงานไหนหาคนอบรมไม่ได้ขอไปที่อบต..> > >
กระเป๋าเสื้อผ้าพร้อมที่จะเดินทางในฐานะผู้สนใจให้ใครก็ได้
ไปนั่งป๋อหลอเต็มห้องร่วมพิธีเปิด
หลังจากนั้นอีแอบจะทยอยกลับบ้าน
พอจะดำเนินการอบรม..อ้าว!
สมาชิกหายไปไหนหมด
เหลืออยู่แต่กระป๋องกระแป๋ง
หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการถึงกับนั่งกุมขมับ
การอบรมแบบเดี๊ยงทั้งประเทศ
ฤๅอาชีพรับจ้างอบรมเดินทางมาถึงจุดสุดท้ายแล้วกระมัง
การเข้าถึงวัฒนธรรมในแต่ละพื้นถิ่นเป็นการบ้านที่ต้องทำ
การสร้างความเข้าใจล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญ
การเตรียมสารสนเทชุมชนเป็นหัวใจของพันธกิจ
การตีแตกโจทย์ร่วมกันจะคลุกเคล้าความฝันใฝ่
การถ่ายเททุกข์สุขนำมาซึ่งความ-เห็นใจ-เข้าใจ-ตั้งใจ
การทิ้งช่วงว่างได้ฉุกคิดบ้างเป็นการเว้นวรรคความเครียด
การแลกเปลี่ยนความปรารถนาดีเป็นครรลองที่จะคลี่ใจให้กระจ่าง
การมุ่งมั่นจัดการอบรมแบบทุ่มเทเต็มที่ต่างจากละครอบรมแน่นอน
ปัญหาหนักอกของนักก่อการทางสังคม อยู่ที่ไม่รู้ว่าจะเกณฑ์เอาคนที่ไหนมาร่วมกระบวนการ การจัดอบรมสัมมนาตามปกติทั่วไปของหน่วยราชการหรือหน่วยงานต่างๆเริ่มประสบปัญหาที่ว่านี้ นอกจากจะต้องค่าเดินทาง-คาที่พักตามปกติแล้ว ยังต้องมีค่าหัว/ค่าเงินติดกระเป๋า คิดเป็นค่าเสียเวลาจ้างให้มาเอาความรู้
..ถ้าอยากให้ฉันมีความรู้
เธอต้องจ้างฉันมารับรู้ และต้องบริการฉันดีๆด้วย..
รถต้องมารับส่งกันบันไดบ้าน
ต้องมีรายการแวะเที่ยวสนุกๆด้วยนะ
เหล้ายาปลาปิ้งอย่าได้ขาด
เกิดเป็นกระบวนการสร้างเงื่อนไขในเข้าอบรม
เหตุการณ์นี้กระจายทั่วถึงไปทุกวงการณ์
ที่ทำให้ผู้จัดงานสัมมนาใจตุ๊บๆต๊อมๆ
ต้องสร้างเงื่อนไขมาจัดการอย่างรัดกุม
แม้แต่ม๊อบต่างๆนี่ก็เถอะ
ที่เกณฑ์คนมาจัดฉากเย๊วๆเอาเป็นเอาตายได้นั้นก็ต้องจ่ายจนหน้ามืด
ประชาสังคมแบบซื้อหามันก็อ่วมอย่างนี้แหละ
ในเมื่อระบบราชการห่วยแตกเรื่องการจัดอบรมสัมมเน่าจนเข้าตาจน
ทำลายวัฒนธรรมการแสวงหาความรู้จนยับเยิน
หน้าแตกเย็บไม่ติดจะไปคิดบัญชีเอาที่ใคร?
ถ้ายังตั้งเข็มทิศแห่งตนไม่ได้
เรื่องขอกินเหล้าจะตอบว่ายังไง
เอาอย่างนี้ดีไหม
จะนึ่งข้าวเหนียวร้อนๆ แกงอ่อมอร่อยๆ ลาบปลาดุกให้ชิม
ใจเย็นๆ..เหมือนน้ำลวกไก่
ปัญหาที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องใหญ่
เมื่อสังคมชนบทพื้นถิ่นถูกวัฒนธรรมใหม่บดขยี้
ความรู้ความสามารถและทักษะชีวิตขายไม่ออก
เพราะรูปแบบของวิถีชนบทเปลี่ยนไป
วิชาเอาควายไถนา เคียวเกี่ยวข้าว นวดข้าวด้วยแรงคน
แม้แต่การปักดำก็มีรถดำนามาทดแทน^^พูดไม่ได้ไอไม่ดัง
ฟังไปแล้วไม่ได้ใช้>>
ไม่เฉพาะเรื่องทำนาหรอกนะ
ทุกเรื่องนั่นแหละที่ทำให้วิชาความรู้ยุคเก่าตกรุ่น
ถามว่า..ผู้นำชุมชน พ่อแก่-แม่เฒ่าว่า..
จะเอาความรู้อะไรไปถ่ายทอดลูกหลาน
สภาพการณ์ตกอยู่ในอาการปีนเกลียว
ถามนักวิชาการว่า..
แผนงานพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่สอดรับกับความจริงอยู่ตรงไหน?
คนยุคเก่าจะเอาอะไรมาถ่ายทอดคนรุ่นใหม่
มนุษย์พันธุ์เก่ากับมนุษย์พันธุ์ใหม่จะเรียนเรื่องอะไร?
กรณีเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
การเกณฑ์คนมายัดเหยียดความรู้ตามสไตล์ราชการ
มันก็ไอ่แค่นั้นแหละ
ถูลู่ถูกังกันไปอย่างน่าเวทนา
อนิจจา อนิจจัง พุทธถัง พุทธเท
กระบวนการ แห้วเห แล้วฤๅ
พอดี พอเพียง พอเดี๊ยง
จุดเปลี่ยนอยู่ตรงไหน? อยู่ตรงไหน? อยู่ตรงไหน?
อิ
อิ
อิ
Next : วิชาเกินเผชิญวิชาการ » »
3 ความคิดเห็น
อ่านแล้วเจ็บจี๊ด ๆ ที่หัวใจ…
ละครสัมมนา เปิดใจยาใจได้ดูชม…
ก็รู้ทั้งรู้ ก็ยังต้องทำกันไป
เหมือนดูละครโรงใหญ่ เฮ ๆ กันเข้าไป…
ดูแล้ว…ก็เหมือนเดิม
สาูธุค่ะ
-ขออภัยมณีที่เว้าซื่อๆ ตีขลุมไม่แยกแยะ
-หน่วยงาน/องค์กร ที่เขาทำดีคิดดี มีการแก้ไขปัญหาอยู่ตลอดก็ใช่ว่าไม่มี
-บ่ายวันนี้ดีใจที่เห็นรายการทีวี สทท รายการประเด็นดังหลังข่าว
-เอาคริปเริ่มรายการ คนคิดบวก ที่สวนลุมมาออกอากาศ
ครูบาคะ
ที่เจ็บจี๊ด ๆ เพราะแทงใจดำ เป็นจริงดังที่ครูบาว่าไว้เลยค่ะ
ไม่กล้าสัญญาว่า หากได้มีโอกาสเป็นผู้จัดการสัมมนาต่อไป… จะทำให้ดีกว่านี้…
เพราะคิดมาหลายครั้ง แต่…แห้ว ๆ ๆ ๆ
;)