ปากจัดแต่ใจหวานเจี๊ยบ
อ่าน: 1285
มีหน่วยงานส่งสารให้สมัครเข้าโครงการคลังสมองของชาติ
อ่านแล้วตับหดเลยละขอรับ
อย่างผมนี่เป็นได้แค่เศษสมองกระปลกกระเปลี้ย
มิอาจเอื้อมไปทำอะไรที่เลิศประเสริฐศรีอย่างนั้นหรอกนะครับ
จึงขอบาย.. เหมือนอุ้ยขอส่งกุญแจคืนคณะฯนั่นแหละ อิ อิ..
นึกว่าจะจบ
อ้าวมีการทาบทามให้เป็นคณะทำงานเรื่องนโยบายการศึกษา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
เรื่องนี้ชักลังเล..
พอมีข่าวเรื่องเด็กเผาโรงเรียนตนเอง
และได้ข่าวตุๆอยู่เรื่อยๆ
อนึ่ง.มองเห็นตัวช่วย ก็ในหมู่เฮานี่แหละ
ล้วนแต่สันทัดกรณีมีไฟวูบวาบกันทั้งนั้น
จึงแบ่งรับแบ่งสู้..เอาก็เอา
ในระหว่างรอเรียกประชุมก็ทำการบ้านไปเรื่อยๆ
“ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่า..งานของครูอาจารย์นั้นอยู่ภายนอกมากกว่าภายในห้องเรียน ในสภาพปัจจุบันครูอาจารย์ต้องทำงานเพื่อค่าจ้าง ..ครูอาจารย์ไม่มีเวลาให้นักเรียนภายนอกห้องเรียนได้ และนี่เป็นอุปสรรคสำคัญยิ่งในการพัฒนาชีวิตและบุคลิกภาพของนักศึกษาในปัจจุบัน ตราบใดที่ครูอาจารย์ยังไม่พร้อมให้เวลาแก่นักศึกษานอกห้องเรียน..ตราบนั้นเราจะทำอะไรไม่ได้มากนัก ขอให้ครูอาจารย์ได้มาร่วมมือกันตกแต่งจิตใจนักศึกษาให้มาก กว่าตกแต่งสมองของพวกเขาเถิด”
· มหาตมะ คานธี
ปัญหาการศึกษาไทยเป็นปัญหาโลกแตก กระทรวงที่เกี่ยวข้องด้านสติปัญญา แต่หมดน้ำยาเอาดื้อๆ ไม่ว่าจะเอาเกณฑ์ไหนมาจับมาประเมินล้วนสอบตกไม่มีหูรูด แต่ก็ดำน้ำถูไถแค่นๆไปอย่างนั้นเอง ทำยังไงหนอ..ประเทศนี้จึงจะมีครูอย่างอาจารย์โสรีช์ โพธิแก้ว ถ้าเอาไปโคลนนิ่งได้ท่าจะดี ผมเห็นใจครูทั่วไปนะ ไม่ใช่ไม่อยากจะคิดดีทำดีทำเต็มความสามารถ แต่ระบบบริหารมันห่วยแตก ! ลูกอี-สั่งๆเอาสั่งเอา ส่วนใหญ่มือไม่ถึงแถมใจยังเน่าอีกต่างหาก
ปากจัดเกินไปแล้ว
อาจจะไปเหยียบตาปลาใครก็ไม่รู้
ขอสงบเสงี่ยมเจียมใจแค่นี้ก่อน นะโยม.
Next : แก้กรรม » »
2 ความคิดเห็น
สวัสดีค่ะครูบา
ปากจัดอย่างนี้ (ด้วยความเคารพ)
ท่าทางกระทรวงศึกษาจะชอบค่ะ…ฮา ๆ ๆ
;)
พ่อครูตับหด..แต่ทางลำพูนหัวฟูค่า..