แย้มรับวสันตฤดู
อ่าน: 2510
เหมันตฤดูล่วงไปแล้ว วสันตฤดูเปลี่ยนมือมาทำหน้าที่แทน ฝน-หนาว-ร้อน-เย็น เป็นไปตามวัฏจักรของธรรมชาติ แผ่นดินปกคลุมไปด้วยหญ้าเขียวขจี ราวป่ามีดอกไม้บานสะพรั่ง มรรคาก็เหมาะแก่การเดินทาง ฤดูนี้เป็นฤดูที่ไม่หนาวนัก ไม่ร้อนนักอากาศเย็นสบาย เมื่อฝนตกต้องตามฤดูกาล ชาวนาก็ไถหว่านพืช ท้องนาเขียวระบัดใบด้วยต้นข้าวปูพรมผืนดิน ได้ยินเสียงกบเขียดร้องระงมเล่นน้ำฝน ปลาตั้งท้องมองหาที่วางไข่ แมลงเม่าบินมาเล่นไฟแล้วชวนกันไปขยายพันธุ์ ทุกอย่างที่เป็นธรรมชาติยังดำเนินไปตามปกติ
ดูก่อน ญาติแซ่เฮผู้เจริญ
มีแต่มนุษย์เรานี่แหละที่เป็นพวกผิดปกติ คนมากขึ้น ปัญหาเพิ่มทับเท่าทวีคูณ มนุษย์โลกไม่มีปัญญาเพียงพอที่จะบริหารปัญหา ที่มนุษยชาติสร้างขึ้นไม่หยุดฉุดไม่อยู่ แทนที่มนุษย์จะใช้สติปัญญาแก้ปัญหาให้บรรเทาเบาบาง กลับพากันสร้างความเสียหายให้แก่โลกไม่บันยะบันยัง สนุกอยู่กับการพัฒนากิเลศ..แล้วอุปโลกน์เรียกว่าความเจริญ วิทยาการก้าวหน้า ความรู้ที่มนุษย์มีเป็นปัญหาในตัวของมันเอง มนุษย์ส่วนใหญ่จึงดื้อตาใส ตาบอดสี มีหัวใจเป็นพลาสติก
ปีนี้ผลิตรถยนต์ออกมา80ล้านคัน
จำนวนรถเก่าไม่ทราบว่ามีอยู่เท่าไหร่
หลุมเจาะน้ำมันก็ระเบิดพินาศไม่เป็นท่า
หนทางข้างหน้ามันจะมิยุ่งมิเหยิงหรือ
อยู่กันอย่างอมทุกข์อมโศกยิ่งกว่าสมัยพุทธกาลเสียอีก
ตรงไหนเล่า..ที่เรียกว่าความเจริญ เรียกความปกติสุข
ความรู้ในธรรมชาติเป็นของจริงของแท้แน่นอน ใบไม้ที่ผลิแตกใบอ่อน กิ่งก้านขยายร่มเงาให้ความชุ่มชื้น ทำหน้าที่เก็บคาร์บอนไดอ๊อกไซไปเก็บไว้ ขณะเดียวกันก็ปล่อยอ็อกซิเจนออกมา น้ำฝนล้างชำระคราบฝุ่นที่สะสมมานาน อากาศสะอาด บรรยากาศก็ชุ่มฉ่ำ ต้นไม้ใบหญ้าเร่งการเจริญเติบโต ไส้เดือนแข่งกับจุลินทรีย์ปรุงแต่อาหารให้แก่รากพืช ไม้ดอกอวดดอกสวยเต็มกิ่ง ส่งกลิ่นหอมเรียกผีเสื้อมาชื่นชม
บ่นมาเพื่อจะบอกว่า
มนุษย์ขี้เหม็นยังไม่รู้วิธีที่จะอยู่บนโลกใบนี้เลยพี่น้อง
เอาแค่จะเรียนรู้วิธีที่จะอยู่ในสภาพที่ผิดปกติได้อย่างไรก็บ้องตื้อแล้ว
ถ้าไม่ลดการดัดจริตก็อยากที่จะรู้ตัวเอง
จริตไม่ใช่เหล็กดัด
แต่เป็นอะไรอย่างไร ก็ไม่รู้แฮะ
พระพุทธองค์ท่านสอนว่า
ทำงานเพื่องานไม่ต้องการอะไร
ถ้าคนทำงานเพื่อต้องการอะไรก็เป็นทุกข์
ลองดูก็ได้
พอนั่งปั๊บก็ต้องการความสงบ
ก็นั่งอยู่นั่นแหละกัดฟันเป็นทุกข์แล้ว
มันละเอียดกว่ากันอย่างนี้
คือทำแล้วปล่อยวาง ปล่อยวาง
“โทสะจะสร้างอะไรได้ โมหะยิ่งไกลที่ใจฝัน
โลภะคือปัญหาสารพัน เผามูลนี้เท่านั้นตื่นทันใด”
จากคมเลาส์
Next : ปากจัดแต่ใจหวานเจี๊ยบ » »
2 ความคิดเห็น
สวัสดีค่ะพ่อครู ผ่านร้อนผ่านหนาว ทำให้หนูคิดถึงตัวเอง 47 ฝน 47 หนาว ทำอะไรมาแล้วบ้าง ให้อะไรกับสังคม ได้อะไรมาบ้างในชีวิต ให้ในการงาน สังคม ครอบครัว รู้สึกยังทำได้น้อยนะคะ
สู้ๆๆๆ ต่อๆๆๆ ไป อิ