แย้มรับวสันตฤดู

โดย sutthinun เมื่อ 8 มิถุนายน 2010 เวลา 9:43 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2470

เหมันตฤดูล่วงไปแล้ว วสันตฤดูเปลี่ยนมือมาทำหน้าที่แทน ฝน-หนาว-ร้อน-เย็น เป็นไปตามวัฏจักรของธรรมชาติ แผ่นดินปกคลุมไปด้วยหญ้าเขียวขจี ราวป่ามีดอกไม้บานสะพรั่ง มรรคาก็เหมาะแก่การเดินทาง ฤดูนี้เป็นฤดูที่ไม่หนาวนัก ไม่ร้อนนักอากาศเย็นสบาย เมื่อฝนตกต้องตามฤดูกาล ชาวนาก็ไถหว่านพืช ท้องนาเขียวระบัดใบด้วยต้นข้าวปูพรมผืนดิน ได้ยินเสียงกบเขียดร้องระงมเล่นน้ำฝน ปลาตั้งท้องมองหาที่วางไข่ แมลงเม่าบินมาเล่นไฟแล้วชวนกันไปขยายพันธุ์ ทุกอย่างที่เป็นธรรมชาติยังดำเนินไปตามปกติ

ดูก่อน ญาติแซ่เฮผู้เจริญ

มีแต่มนุษย์เรานี่แหละที่เป็นพวกผิดปกติ คนมากขึ้น ปัญหาเพิ่มทับเท่าทวีคูณ มนุษย์โลกไม่มีปัญญาเพียงพอที่จะบริหารปัญหา ที่มนุษยชาติสร้างขึ้นไม่หยุดฉุดไม่อยู่ แทนที่มนุษย์จะใช้สติปัญญาแก้ปัญหาให้บรรเทาเบาบาง กลับพากันสร้างความเสียหายให้แก่โลกไม่บันยะบันยัง สนุกอยู่กับการพัฒนากิเลศ..แล้วอุปโลกน์เรียกว่าความเจริญ วิทยาการก้าวหน้า ความรู้ที่มนุษย์มีเป็นปัญหาในตัวของมันเอง มนุษย์ส่วนใหญ่จึงดื้อตาใส ตาบอดสี มีหัวใจเป็นพลาสติก

ปีนี้ผลิตรถยนต์ออกมา80ล้านคัน

จำนวนรถเก่าไม่ทราบว่ามีอยู่เท่าไหร่

หลุมเจาะน้ำมันก็ระเบิดพินาศไม่เป็นท่า

หนทางข้างหน้ามันจะมิยุ่งมิเหยิงหรือ

อยู่กันอย่างอมทุกข์อมโศกยิ่งกว่าสมัยพุทธกาลเสียอีก

ตรงไหนเล่า..ที่เรียกว่าความเจริญ เรียกความปกติสุข

ความรู้ในธรรมชาติเป็นของจริงของแท้แน่นอน ใบไม้ที่ผลิแตกใบอ่อน กิ่งก้านขยายร่มเงาให้ความชุ่มชื้น ทำหน้าที่เก็บคาร์บอนไดอ๊อกไซไปเก็บไว้ ขณะเดียวกันก็ปล่อยอ็อกซิเจนออกมา น้ำฝนล้างชำระคราบฝุ่นที่สะสมมานาน อากาศสะอาด บรรยากาศก็ชุ่มฉ่ำ ต้นไม้ใบหญ้าเร่งการเจริญเติบโต ไส้เดือนแข่งกับจุลินทรีย์ปรุงแต่อาหารให้แก่รากพืช ไม้ดอกอวดดอกสวยเต็มกิ่ง ส่งกลิ่นหอมเรียกผีเสื้อมาชื่นชม

บ่นมาเพื่อจะบอกว่า

มนุษย์ขี้เหม็นยังไม่รู้วิธีที่จะอยู่บนโลกใบนี้เลยพี่น้อง

เอาแค่จะเรียนรู้วิธีที่จะอยู่ในสภาพที่ผิดปกติได้อย่างไรก็บ้องตื้อแล้ว

ถ้าไม่ลดการดัดจริตก็อยากที่จะรู้ตัวเอง

จริตไม่ใช่เหล็กดัด

แต่เป็นอะไรอย่างไร ก็ไม่รู้แฮะ

พระพุทธองค์ท่านสอนว่า

ทำงานเพื่องานไม่ต้องการอะไร

ถ้าคนทำงานเพื่อต้องการอะไรก็เป็นทุกข์

ลองดูก็ได้

พอนั่งปั๊บก็ต้องการความสงบ

ก็นั่งอยู่นั่นแหละกัดฟันเป็นทุกข์แล้ว

มันละเอียดกว่ากันอย่างนี้

คือทำแล้วปล่อยวาง ปล่อยวาง

โทสะจะสร้างอะไรได้ โมหะยิ่งไกลที่ใจฝัน

โลภะคือปัญหาสารพัน เผามูลนี้เท่านั้นตื่นทันใด

จากคมเลาส์

« « Prev : ความรู้ที่ชิมได้

Next : ปากจัดแต่ใจหวานเจี๊ยบ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 สุวรรณา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 8 มิถุนายน 2010 เวลา 10:08

    สวัสดีค่ะพ่อครู ผ่านร้อนผ่านหนาว ทำให้หนูคิดถึงตัวเอง  47 ฝน 47 หนาว ทำอะไรมาแล้วบ้าง ให้อะไรกับสังคม ได้อะไรมาบ้างในชีวิต ให้ในการงาน สังคม ครอบครัว  รู้สึกยังทำได้น้อยนะคะ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 8 มิถุนายน 2010 เวลา 11:59

    สู้ๆๆๆ ต่อๆๆๆ ไป อิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.63200211524963 sec
Sidebar: 0.34927487373352 sec