สอบตกกันทั้งประเทศ
อ่าน: 1387(ศาลากลางฯทำผิดอะไร เอ็-ถึงยกพวกมาเผา)
กรุงเทพวันนี้มันยิ่งกว่าตอนหณุมานเผากรุงลงกาเสียอีก
ความเสียหายในรูปวัตถุอาจจะดูร้ายแรง
ในความเป็นจริงธุรกิจมีระบบป้องกันความเสี่ยง
การประกันภัยย่อมจะดูแลเภทภัยได้ในระดับหนึ่ง
อย่างน้อยก็พอทำเนาเบาบางได้พอสมควร
แต่ศาลากลางจังหวัด ไม่แน่ใจว่ามีประกันภัยหรือเปล่า
ป้ายก็ไม่มีบอกไว้ให้พวกม็อบพิจารณาเสียด้วย
ถ้าไม่ประกันภัย ประกันใจ มีไหมละ
ชาวไร่ชาวนามีวัวควาย ไถ จอบ เสียม เป็นเครื่องมือทำมาหากิน
ข้าราชการมีที่ทำงาน ของใช้สำนักงาน อาคาร และตำแหน่ง เป็นเครื่องมือหากิน
วันนี้สามารถดูแลปกป้องเครื่องมือของตนเองได้หรือเปล่า
ความห่างเหิน ความเมินหมาง ความเป็นเจ้าขุนมูลนาย ความไม่ชอบธรรม
เป็นเชื้อสะสมกระตุ้นให้เกิดการกระทำที่ผิดทำนองคลองธรรม
ถ้าไม่ดูเบื้องหลังก็จะเห็นแต่เบื้องหน้า
มีป้ายรับเรื่องราวร้องทุกข์แทบทุกศาลากลางจังหวัด
วันนี้รับเรื่องทุกข์ร้อนของตนเองก็แล้วกัน
เมื่อไม่ทำหน้าที่ให้ครบถ้วนมันก็เป็นอย่างนี้แหละโยม
1 ทำหน้าที่การงานให้ดีเป็นปกติ
2 ทำหน้าที่ดูแลสังคมให้เป็นปกติ
เมื่อเกิดความเสียหายถึงชีวิต
ชีวิตที่หายไปกับชีวิตที่ยังอยู่
มีเสียงคร่ำครวญออกมาว่า
คนตายไม่ได้ตายแต่ตัว
เขาได้เอาครอบครัวแทบตายตามไปด้วย
ความเสียหายทางด้านความรู้สึกและจิตใจเป็นบาดแผลทางประวัติศาสตร์
ใครจะนึกว่า..หลังจากโดนพม่าเผากรุงฯเมื่อ200กว่าปี
เหตุการณ์นั้นจะย้อนกลับมาให้เห็นในยุคของเรา
เมืองไทยซ้อมใหญ่ผ่านเหตุการณ์3จังหวัดชายแดนภาคใต้มานาน
วันนี้ได้ลงมือทำสงครามกลางเมืองจริงๆ
ไฟในใจติดแล้วดับยาก
ไฟที่คุกรุ่นอยู่ในจิตใจจะใช้รถดับเพลิงกี่ร้อยคันก็ดับไม่ได้
เชื้อกิเลสที่เกาะกินใจดับด้วยวิธีธรรมดาไม่ได้หรอก
กระบวนการลิงหลอกเจ้ายาวนานเป็นเชื้อปะทุโดยไม่รู้ตัว
จะมีวิธีบริหารกิเลสให้อยู่ในระดับที่พอควบคุมได้อย่างไร
ความโลภออกหน้าออกตามาเดินเพ่นพ่าน
เหตุการณ์คราวนี้พิสูจน์แล้วว่าอย่าใช้น้ำลายแก้ปัญหา
ความจริงใจที่ไม่เคยมีให้กันทำให้ขาดแคลนน้ำใจ
จิตใจที่แข็งกระด้างย่อมไร้ความอ่อนโยน
ความอ่อนโยนต่างกับการโยนกลองมากนัก
การยึดถือแพ้ชนะเป็นความคาดหวังของแต่ละฝ่าย
ทั้ง 2 ขั้วพยายามวัดใจกันมาตลอด
ฝ่ายหนึ่งสู้นอกกติกา
อีกฝ่ายยึดกติกาทั้งๆที่รู้ว่าอยู่ในสภาวะที่ผิดปกติ
สอบตกวิชาบริหารจัดบ้านเมืองในสภาวะที่ผิดปกติ
ยึดกฎระเบียบ กฏหมาย กด กด ยิ่งกดก็ยิ่งดัน
ดื้อดึง ดึงดัน พัวพันไปมาจนแตก ดังโพล๊ะ!
สิ่งที่ได้คราวนี้คือบทเรียน
เห็นผลลัพธ์ของการเมืองที่ไม่พร้อมตั้งแต่สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วยัง
กระเหี้ยนกระหืออยากจะได้ระบอบปกครองใหม่
ยังไม่ได้เรียนรู้ให้ถ่องแท้ก็สร้างสถานการณ์จนกระทั้ง..
“ข้าฯขอสละพระราชอำนาจของข้าฯให้แก่คนไทยทั้งมวล”
เมื่อได้อำนาจมาแล้วคนไทยบริหารจัดการกันอย่างไร
เราสร้างประชาธิปไตยจำบ่มกันหรือเปล่า
เราสร้างการเมืองกำมะลอกันหรือเปล่า
เราจำยอมอยู่กันบนฐานการกินเมืองกันหรือเปล่า
ใครจะเขียนประวัติศาสตร์
ใครจะเรียนประวัติศาสตร์
ใครจะออกแบบการเรียนการสอนวิชาหน้าที่พลเมือง
ใครจะสอนวิชาความเป็นไท
เยาวชนไทยจะรู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร
วิชาประวัติศาสตร์ก็ไม่มีคะแนน
วิชาหน้าที่พลเมืองก็ไม่มีคะแนน
วิชาไม่ดูตาม้าตาเรือก็ไม่มีคะแนน
วิชาเลือกตั้งก็ไม่มีคะแนน
วิชารักเมืองไทยชูชาติไทยก็ไม่มีคะแนน
วิชาพุทธศาสนากับการเมืองการปกครองก็ไม่มีคะแนน
เด็กสมัยนี้บ้าคะแนน
อยากจะให้ใส่ใจเรียนเรื่องใดพิเศษก็ตั้งคะแนนไว้เยอะๆ
ควรบริหารคะแนนในวิชาเหล่านี้อย่างเป็นรูปธรรม
จะต้องให้เผาบ้านเผาเมืองอีกกี่ครั้งถึงจะบรรจุวิชาเหล่านี้
บางทีเราก็ไม่รู้ตัวหรอกว่า
เรากำลังสอนวิชาเรื่องของข้าใครอย่าเตะ
เรื่องน้ำจิตน้ำใจไม่ค่อยจะนำพากัน
ถนัดแต่เรื่องแบ่งก๊กแบ่งเหล่า
เมื่อครั้งกรุงแตก
คนไทยแตกแยกเป็นก็กเป็นเหล่า
ตอนนี้มีไม่รู้กี่ก๊กกี่สีกี่สไตล์
(เอาผลมะตูมมาทำถ้วยชิมชา ซดใบกระเพาะกลิ่นมะตูมคลายเครียดนะพี่น้อง)
อ้อ! มีก๊กหนึ่งชื่อเฮฮาศาสตร์
กำลังตั้งอกตั้งใจศึกษาวิธีดำรงวิถีชีวิตในสภาพที่สังคมผิดปกติ
ทำการบ้าน.. เราจะอยู่กับสภาพสังคมที่ผิดปกติให้ปกติสุขได้อย่างไร
ขอแนะนำ ..ไม่ควรใช้วิธีเป่ายิงฉุบ นะโยม
อย่าลืมส่งการบ้านก็แล้วกัน
Keyword :
ยุคเก่า “ทรัพย์สินทางราชการ ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้”
ยุคใหม่ “ทรัพย์ทางราชการ เผาเมื่อไร วายวอดไม่มีเหลือ”
4 ความคิดเห็น
ดูข่าวแล้วเศร้าค่ะ ..และไม่เข้าใจว่าทำไมนิยมเผา???
เผาไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ …เพราะสิ่งที่เผาก็แค่วัตถุ ไม่ได้เผาระบบหรือทำให้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย คนทำงานก็แบบเดิม ระบบก็แบบเดิม
คนเผาก็ร้อนระอุแผดเผาตัวเอง เกิดความชิงชังอาฆาต
กลับสร้างปัญหาเพราะทำให้ต้องรีดภาษีเพื่อไปสร้างใหม่ …ท้ายที่สุดตัวคนเผาก็ต้องไปใช้กรรมเหล่านี้ด้วยเพราะข้าวของก็จะต้องแพงกว่าเดิม
ตาบอดมองไม่เห็นกันหรือไงว่า เผาอาคารราชการหรืออะไรก็ตามก็คือเผาตัวเอง
คนที่เขาทำงานในนั้น เขาก็แค่เปลี่ยนที่ทำงานใหม่ แถมยังคงจะโอ่โถงหนักกว่าเดิมซะอีกด้วยซ้ำ
เฮ้อ
วิกฤตินี้ คงกระทบงบประมาณแผ่นดินมหาศาล
โครงการต่างๆอาจจะโดนตัดฉับๆๆอะไร
อาจจะมีการแบ่งเค็กกันใหม่
อะไรๆก็ต้องเปลี่ยนตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
ใจเย็นๆ ติดตาม ต่อไป นะโยม
ไม่รู้จะทำอะไร ทำใจไปพลางก็แล้วกัน
ตอนเป็นเด็กทำการบ้าน เพราะอะไร ตอนเป็นผู้ใหญ่ ทำการเมืองเพราะอะไร
ชาวเฮฮาศาสตร์ จะชวนปลูกต้นรักอย่างไร อิอิ
สมัยนี้ น้ำก็แล้ง น้ำใจก็แห้ง
ผู้ใหญ่ก็ไม่มีเวลา เด็กก็ไม่มีเวลา
แล้วเวลามันหายไปไหนเน้อ
เพราะคลั่งไคล้อะไรอยู่จึงหมดเวลาไปกับสิ่งนั้น
สิ่งจำเป็นจึงมองไม่เห็น
เพราะมองแต่ข้างนอกเลยไม่เห็นข้างใน อิอิ แคว๊กๆค่ะ
ช่วงที่เว้นวรรคทุกอย่างนี้
ลองทำการบ้านดีไหมครับ
คนไทยจะช่วยแก้วิกฤตินี้ได้อย่างไรบ้าง
ป้าหวานคิดดี คิดได้ อย่างน่าสนใจ
ช่วยกันคลิ๊กหาจุดพิเศษที่จะนำมาเยียวยาสังคม
เพราะสุดท้าย..ปัญหาต่าง ๆ ก็จะโยนโครมลงมาให้ประชาชน-รับ-แก้-เกา-เกาะ-และ-แกะ
แม้แต่เหตุการณ์ในเมืองกรุงขณะนี้
ถ้าภาคพลเมืองคนกรุงไม่ออกมา
ไม่ร่วมด้วยช่วยกันเชิงรุก
มีหวังตายอย่างเขียด
น่าเห็นใจรัฐบาล
คนป่วนมันอยู่ในมุมมืด ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
แต่รัฐบาลมีตุ้มถ่วงเต็มไปหมด
ถ้าไม่มีพลังทางสังคมช่วยอย่างเป็นรูปธรรม
มีหวังเอวัง จริง ๆ นะป้า