ยั่วให้อยาก

โดย sutthinun เมื่อ 28 เมษายน 2010 เวลา 6:48 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 3218

(ชมภาพก่อนชมของจริง)

ทริปนี้อาจจะตั้งได้หลายชื่อ

(ให้ความรักก่อนให้ความรู้-จากไร้กรอบ) (ย่องเบาความรู้-จากสวนป่า)

ครูอึ่งกับอุ้ยตีปิ๊บมานาน แจกหนังสือ 60 ปี อาจารย์โสรีช์ โพธิแก้ว

(ก่อให้เกิดอภินิหารทางด้านความรู้สึกสะสม)

บางท่านอาจจะมีความคันความคิดทบต้น

(มาปีละ6-7 ครั้งก็ยังกระดี๊กระด๊า)

การที่มีพระอาจารย์ผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือมาด้วย

(ขอสมัครเป็นลูกศิษย์ภาคสมทบ) ดูดร้าฟท์

กลุ่มคนสกุลเฮบังเอิญมีช่วงว่างตรงกันก็อยากจะมา

(มาแล้วมาอีก ไม่เข็ดลาบ ไม่ว่างก็แหกด่านมา)

กลุ่มที่ไม่เคยมาก็โดนมอมเมาจนเกิดจินตนาการคล้อยตาม

(อยากมา อยากเห็น อยากสนุกด้วย)

แม้แต่เจ้าสำนักเองก็ตื่นเต้นไม่เบา

(แอบทำการบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ)

(เด็กชนบทมีของเล่นที่ดิ้นได้)

  • ปลูกฟักทองเสริมจากที่มีอยู่เิดิมที่อุ้ย-ครูอึ่ง-ครูอารามมาปลูกไว้ ตั้งใจว่าจะชวนทำเมนูอาหารลูกฟักทองอ่อน ลูกเล็กเท่ากำปั้นเด็ก เอามาแกง มาผัด อร่อยกรุบกรอบยิ่งนัก เอาลวกมาจิ้มน้ำพริกก็ฮ่อแรด แต่ปรากฎว่าความแล้งมหาโหดทำให้ผลอ่อนฟักทองที่ออกมายั้วเยี๊ยเน่าหล่นทิ้งแทบทั้งหมด แต่ด้วยฝีมือเหลือกินเหลือใช้และช่วงนี้ฝนลงมาบ้าง ไปแอบดูแล้ว มีลูกฟักทองหลายขนาดที่เกิดจากตอเก่าปีที่แล้ว มีผลเล็ก-กลาง-ใหญ่-อยู่บ้าง พอที่จะเอาแกงใสไก่ตามแบบอาหารพื้นถิ่นอีสาน ก่อนยกลงจากเตา เอาใบแมงลักขยุ้มหนึ่งใส่ลงไป ปรุงด้วยหัวน้ำปลาดีจากเมืองสุราษฎร์ธานี   ป้าหวานเอ๋ย เอาหูฉลาม หูหมู หูเป็ดหูไก่ที่ไหนมาแลกก็ไม่ยอม

(ไผ่ทิ้งใบหน้าแล้งคลุมรอบๆกอ ใส่ปุ๋ยอย่างเดียวก็พอ)

  • ช่วงนี้คาดคะเนสภาพภูมิอากาศยาก ไม่แน่ใจว่าจะร้อนสลับฝนหรือเปล่า แต่ถึงอย่างไรก็เถอะ ด้วยฝีมืออีกนั่นแหละสภาพธรรมชาติเป็นอย่างไร แต่บรรยากาศเราสามารถปรุงแต่งให้ชื่นมื่นได้ รายการภาคสนามจึงขึ้นอยู่กับอากาศในช่วงวันนั้นๆ วันที่ร้อนมากๆ ช่วงบ่ายคล้อยพอออกไปลอยชายได้ ก็จะพาบุกสวนแตงโม ล่อแตงโมคลายร้อน หรือถ้าร้อนมาก ๆ จนออกไม่ได้ โฉมยงก็จะต้มน้ำมะขาม น้ำตะไคร้ น้ำใบเตย น้ำใบบัวบก ปรุงให้มีรสเปรี้ยวอมหวานนิด ๆ ใส่น้ำแข็งชิมกันคนละแก้วแล้วนั่งมองตากัน (คราวนิสิตแพทย์มา ..บางคนชิมน้ำที่ว่านี้แล้วท้องไส้ลั่น เผลอระบายลมตามธาตุหนัก-เบา) ท่านที่ธาตุไฟอ่อนอาจจะถามหาสุขาอยู่หนไหน มันก็ไม่เชิงท้องเสีย แต่ระบายของเหลวบ่อย อาจจะเป็นเพราะน้ำมะขาม บังเอิญอร่อย เผลอดวลไป 4-5 แก้ว ช่วยคลายร้อนคลายใจสลายของเก่าได้อักโข (ไม่เหมือนอยู่ในเมืองหรอกนะ ที่น้าอึ่งจะสั่งกาแฟเย็น สั่งไอติม เราอยากให้เห็นวิถีคนรากหญ้า ว่าเขามีวิธีคลายร้อนที่เป็นภูมิปัญญาฉันใด

(ฟักทอง มีดอก-ยอด-ผล พอให้แม่ครัวหัวป่าส์แสดงฝีมือ)

  • เรื่องต้นไม้ใบหญ้าพอไหว เพราะพ้นช่วงไม้ผลัดใบไปแล้ว กลุ่มไม้ที่ทิ้งใบยกชุดก็แตกยอดอ่อนเขียวไสว ขณะที่โลกร้อนแต่เราเรียนวิชาใจเย็นจะเป็นไรไปเล่า ความเป็นอยู่ส่วนใหญ่จะฝังตัวอยู่ในมหาชีวาลัยอีสาน ช่วงนี้ฝนตกมาบ้างแล้ว เช้า ๆ นกเขาป่าจะมาขันคู เสียดายนิสิตแพทย์มาไม่เจอเสียงสวรรค์นี้ เช้ามืดไก่ป่าจะพากันขันเซ็งแซ่ เราไม่ปลุกตอนย่ำรุ่งหรอกนะ แต่อยากให้นอนพิจารณาฟังเสียงไก่ขันเงียบ ๆ เท่าที่ทราบถ้าคอไม่อักเสบ ไก่ทุกตัวไม่เบี้ยวการทำหน้าที่โก่งคอกัน อยู่ที่นี่จะได้เริ่มเรียนกันตั้งแต่ยังงัวเงียอยู่บนที่นอน (ยังไม่ต้องตื่นก็เรียนได้) ได้เวลาบิดขี้เกียจ นกกระปูดก็จะร้องให้สัญญาณว่าตื่นได้แล้ว หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย ช๊อตแรกของวัน อุ้ยก็จะชวนคณะออกกำลังกาย จะรำมวยจีน มวยลาว มวยเขมร ก็เชิญตามอัธยาศัย
  • รำมวยหลายกระบวนท่าจนร่างกายกระฉับกระเฉง ดื่มน้ำเต้าหู้สักคนละถ้วยดีไหม ชาสมุนไพร กาแฟ โอวัลตินก็มีให้ หรือจะชิมน้ำสมุนไพรสดตำหรับเจ้าสำนักก็ได้ (เอาน้ำร้อนใส่แก้ว เด็ดใบกระเพา 3 ใบ ใบสะระแหน่ 3 ใบ รอให้น้ำอุ่นก็ลองชิม กลิ่นน้ำหอมระเหยจะช่วยให้หูคอตาจมูกโล่ง หายจากอาการใจโรยอย่างน่าอัศจารรย์ หลังจากนั้นก็จะออกเดินไปพิจารณาตามที่พระอาจารย์โสรีช์ ท่านชี้โพรงให้กระรอก..

-ต้นไม้ใหญ่กว่าจะเติบโตใหญ่ได้

ก็ต้องอาศัยหยาดฝนเล็ก ๆ ค่อยโลมไล้ ให้กำลังใจในห้วงเวลายาวนาน

-ต้นไม้ใหญ่กว่าจะเติบใหญ่

ก็ต้องอาศัยสายลมอ่อนโยนพัดพาให้กิ่งก้านมั่นคง และเติบโตแผ่ขยายให้กว้างใหญ่

-ต้นไม้ใหญ่กว่าจะเติบโ

ก็ต้องอาศัยแสงแดดอุ่น ทาบทอต้นไม้ให้พลังงานแก่ชีวิต

-เด็ก ๆ กว่าจะเติบใหญ่

ต้องอาศัยมือลูบไล้ที่นุ่มนวล อ่อนโยน ปลอบโยนให้กำลังใจของพ่อแม่

-ความมั่นคง ความเติบโต ความอิ่มเอมใจ

เกิดขึ้นในหัวใจของมนุษย์ด้วยความอ่อนโยน

-ความอ่อนโยนที่แท้เกิดจากหัวใจแห่งความรัก

ความรักที่เยือกเย็นดั่งสายน้ำที่ไหลฉ่ำเกื้อกูลทุกแผ่นดินให้เจริญเติบโตร่มเย็นอยู่เสมอ

พระไพศาล วิสาโล ท่านสะท้อนคิดเรื่องนี้ไว้ว่า..

-ต้นไม้ไม่เคยดูดน้ำและปุ๋ยจากดินมาเลี้ยงตัวเองอย่างเดียว

หากยังคายน้ำและทิ้งกิ่งใบเป็นปุ๋ยกลับคืนผืนดิน

อีกทั้งยังให้อาหารและให้ที่พักพิงแก่สรรพสิ่งทั้งปวง

-มนุษย์เราก็เช่นกัน

ควรรู้จักตอบแทนผู้มีพระคุณ

และทำตนให้มีประโยชน์แก่โลก

-พินิจดูให้ดี ต้นไม้ยังรู้จักเปลี่ยนแสงแดดให้กลายเป็นร่มเงา

เปลี่ยนขยะมูลฝอยในดินให้เป็นดอกไม้และผลไม้ที่หอมหวาน

  • นอกจากมีกิจกรรมกระแซะปัญญาแล้ว ยังมีกิจกรรมผ่อนคลายใจ คอนดั๊กเตอร์คงจะชวนปั้นพระพุทธรูป และชวนเล่นไฟศิลปะถ่ายภาพ (Light Painting)  รายการคุยกับวัวก็น่าสนุกนะครับ นอกจากวัวแล้วยังมีเรื่องนกยูง ไก่ต๊อก ไก่ป่า หมู และนกป่าให้เลือก ถ้าโลกร้อนจะนอนยังไงนี่ก็จ๊าบส์ไม่เบา รายการแม่ครัวหัวป่า อยากจะชี้ชวนให้รู้จักเมนูป่า ๆ แบบพื้นถิ่นประยุกต์ เช่น ป้าหวานตำน้ำพริกกะปิ 2 มาตรฐานในถ้วยเดียวกัน (เผ็ดมากอยู่ด้านล่างเผ็ดน้อยอยู่ด้านบน) ที่พิเศษคือรายการกะทะร้อน จะเป็นผักสมุนไพรพื้นถิ่นเป็นส่วนใหญ่ และอาหารประจำภูมิภาคที่พี่น้องสกุลเฮจะชวนนักศึกษาจิตวิทยาที่ปรึกษาทำกันทุกมื้อเย็น ต้องการให้อยู่กินแบบง่าย ๆ จะได้มีเวลาสนทนากันมาก ๆ
  • มีข้อมูลที่เป็นปรากฎการณ์เกี่ยวกับโลกร้อนจากชาวบ้าน บอกว่าปีนี้ต้นไม้ใบหญ้าติดดอกออกผลน้อย มะม่วงแทบมองหาผลไม่เจอ ต้นมะนาวผมปลูกด้วยเมล็ดมา 10 กว่าปี ยืนต้นตายแทบหมดสวน ยังดีที่มีต้นไม้ใหญ่ช่วยบรรเทาแดด ไม่งั้นจะกรอบเกรียมกว่านี้อีก ปีนี้มีมดแดงตัวเล็ก ๆ กับมดดำตัวจิ๋วแต่กัดแสบคันเป็นบ้าขยายพันธุ์เต็มไปทั่วไหนทั่วหนึ่ง มากมายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ..ข่าวล่ามาเร็วบอกว่า ที่หมู่บ้านห่างออกไปจากสวนป่าประมาณ 10 กิโลเมตร มีจิ้งหรีดยกโขยงกันมาจากไหนไม่รู้ มากมายอย่างกับกองทัพมดเสียอีก ชาวบ้านหลายหมู่บ้านขนกันไปจับจิ้งหวัดมาบริโภค บ้างก็เอามาขาย ก.ก.ละ 100 บาท ไปรุมจับกันเป็นเดือนแล้ว จิ้งหรีดก็ยังมากมายเหมือนเดิม แสดงว่าอุณหภูมิที่พอเหมาะกับการฟักไข่ ทำให้มีจิ้งหรีดทะยอยออกมาต่อเนื่องมหาศาล คิดเล่นๆว่า..ถ้าคนอีสานไม่เปิบพิสดาร จิ้งหรีดหลายล้านตัวพวกนี้จะกินอะไร จะไปแย่งหญ้าวัวควายหรือเปล่า หรือจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาอีก คงเข้าทำนองไข้หวัด 2009 นั่นแหละ ไม่มีปี่มีขลุ่ยก็ระบาดตูมตามไปทั่วโลก ไม่แน่นะครับ บางคืนที่ร้อนนอนไม่หลับ ผมอาจจะพาไปจับจิ้งหรีดก็ได้ ถ้ากลัวบาปก็ไปดูชาวบ้านเขาจับ ถ้ามีจิตอาสาก็ช่วยชาวบ้านจับ ถ้าคิดเอาข้างเข้าถู..แมลงพวกนี้อายุสั้น วางไข่แล้วก็ตายทิ้งไปเฉย ๆ เราจับมาเลี้ยงนกยูง เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เป็นอาหารโปรตีนชั้นเลิศของสัตว์เลี้ยงเชียวแหละ เรื่องนี้เล่าให้ฟังเฉย ๆ ใครจะอยู่ใครจะไปก็ค่อยว่ากันอีกที ยังดีนะครับ ถ้ามาช่วงฝนตกหนัก อาจจะพาไปจับอึ่งอ่างก็ได้นะ บ่ายเมื่อวานฝนตก ยืนอาบน้ำฝนแล้วคิดถึงสมัยเป็นเด็ก ..ใครไม่เคยเล่นน้ำฝนแข่งกับอึ่งอ่างเข้าใจไม่ได้หรอกว่ามันสนุกยังไง!
  • ส่วนรายการเชิงวิชาการ (อุ้ย กับอึ่ง และอึ่งกับอาราม4อ.) เตรียมการบ้านไว้ในส่วนของจิตตปัญญาพอสมควร แล้วยังจะมีจอมยุทธไร้กระบวนท่า-คุณหมอจอมป่วน-ท่านบางทราย-หลวงพ่อโต-อาว์เปลี่ยน-ป้าหวาน-ออต-ฯลฯ มาช่วยขบคิด ไม่แน่นะครับ หลวงพี่ติ๊กร่ำ ๆ จะแหกโผมาจนได้ คาดว่าการจัดรายการทริปนี้จะเป็นการทบทวนวิสัยทัศน์ของคนสกุลเฮเช่นกัน เราเปิดกว้างที่จะบรรจุเรื่องที่เหมาะสมได้เสมอ ท่านใดคิดอะไรออกบอกตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้ตระเตรียมไว้ให้
  • ที่เตรียมให้ไม่ได้ก็คือ พกหัวใจที่รื่นเริงมาด้วย เอ๊ะแบบนี้ก็ต้องบรรจุรายการร้องเพลงให้แห้วศรีแล้วล่ะสิ รองเท้าเดินป่า ผ้าขาวม้า กล้องถ่ายภาพ โน๊ตบุค ไฟฉาย ชุดว่ายน้ำไม่ต้องเพราะน้ำน้อยค่อย ๆ หยอดทีละขัน..แป้งตรางูเงี้ยวอะไรนั่นอย่าลืม กะทะตะหลิวไม่ต้อง หยอดขนมครกตอนเช้า ๆ ดีไหม? จะให้หุงข้าวหม้อดินหลายมื้อ เตาดาโกต้ายังใช้ได้ดี มีเรื่องแปลกแต่จริงด้วยนะ จะได้เห็นอภินิหารของฝักต้นแดง ที่ให้พลังไฟแรงเหลือใจ
  • ขออนุญาตตั้งน้าอึ่งอ๊อบเป็นผู้กำกับข้อมูลทุกเรื่อง ท่านใดข้องใจเรื่องใดสอบถามได้ ฝากให้ไล่เรียงรายชื่อคณะที่จะมาทั้งหมดด้วยเน้อ จะได้หาที่หลับที่นอนให้ครบคน นอกจากจะมีคณะเราแล้ว ยังจะมีมาจากฝั่งทุ่งกุลาร้องไห้อีกนับ 10 ชีวิต บอกว่าจะมากราบพระอาจารย์โสรีช์ เป็นนิสิต ป.เอก จะมานอนคืนวันที่ 8 กลับเช้าวันที่9 ถ้าเจ้าเอกจตุพรมาร่วมช่วงนี้ได้ ก็จะเข้าล็อกเลย นะเอกนะ รวมทั้งเจ้าแป๊ดคนตัวใหญ่มาได้จะได่ฮึน้า หมอ Pao ก็ร่ำ ๆ อยากจะมา ไม่ทราบว่ามีเวลาว่างพอไหม ถ้าครูอึ่งหนีบมาด้วยได้ หมอPao ก็จะได้กลับไปเล่าให้เพื่อนแพทย์เชียงใหม่ฟัง  นักศึกษาแพทย์ ม.อุบลก็จะมานะครับ กำลังหาเวลาฟันธง วันที่ 3 เดือนหน้าผมไปประชุมที่อุบล ฯ จะสอบถามเวลาอีกครั้งหนึ่ง ทริปนี้อาจจะมีคณบดีวิทยาลัยแพทย์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มาร่วมสังเกตการณ์ ท่านชื่อจริงว่า รศ.นพ.ป่วน สุทธิพินิจธรรม เคยเล่าว่ารู้จักหมอจอมป่วนของเราด้วย ท่านคณบดีป่วน เป็นคนคุยสนุกถ้าเจอกันที่สวนป่า ป่วนยกกำลัง 2 แน่ ๆ บางทีก็อาจจะชวนคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ ม.อุบลฯ มาด้วย แต่ที่แน่ ๆ วันที่ 5 คุณหมอ JJ พาชาวรังสีฯ  โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่นมาก่อนเพื่อน รับประทานมื้อเที่ยงบ่าย ๆ กลับ

Key Word งานนี้..

ภาพนิ่ง 10

.O {color:white; font-size:233%;} a:link {color:#66CCFF !important;} a:active {color:#468A4B !important;} a:visited {color:#F0E500 !important;} <!–.sld {left:0px !important; width:6.0in !important; height:4.5in !important; font-size:103% !important;} –>

  • สมัยเชื่อท่านผู้นำก็บังคับให้สวมหมวก

มาสมัยนี้ก็บังคับให้ใส่หมวกกันน็อค

แต่เรื่องลึกลงไปในหัวกระโหลกไม่ค่อยจะคิดกัน

ไม่ทราบว่าจะป้องกันก้อนสมองโง่ ๆ ไว้ทำไม

  • คาถาคลายม็อบ

ถึงฝันดีอย่าตีเป็นเลขหวย

เร่งปลูกกล้วยปลูกป่าภักษาหาร

เลี้ยงหมูไก่ปูปลาอย่าช้านาน

ชวนแม่บ้านจู๋จี๋อยู่ที่นา

« « Prev : กระบวนกลอนเฮฮาศาสตร์

Next : โลกของคนบ้านป่า » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

12 ความคิดเห็น

  • #1 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2010 เวลา 8:41

    เดินทางถึงวันที่ 5 เช้าค่ะ .ถ้าภาระกิจเร่งเร้าอาจจะต้องกลับก่อน..แต่ถ้าไม่อะไรอย่างไงนักหนาคงขออาศัยรถครูอึ่งกลับด้วยวันที่ 9 ค่ะ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2010 เวลา 9:30

    อะไรอย่างหนักหนา จะกลายเป็นอะไรอย่างเบาๆก็ได้ อิอิ

  • #3 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2010 เวลา 10:11

    ฝากหารือครูอึ่งคร๊าบบบบบบ
    1 ถ้ามีเครื่องเสียงสนามแบบหิ้วสะดวก ตอนบรรยายระหว่างเดินป่า ขอให้ติดมาด้วย
    2 จะบันทึก วีดีโอ. เป็นช่วงไหมๆ มีมือกล้องไหม?
    3 เอาอย่างนี้ไหม? คณะที่มาทุกท่านถ้าช่วยกันบันทึกเรื่องราวมาร้อยเรียงพิมพ์เป็นเล่ม
    ก็จะได้หนังสือที่ประมวลกรณีศึกษาภาคสนาม-ฉบับจิตวิทยาฮาเฮ 1 เล่ม
    ไผบ่ส่งการบ้านบ่ให้กลับ! อิอิ 

  • #4 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2010 เวลา 18:13
    • แหม..เพิ่งจะคุยกันว่าจะหิ้วเครื่องเสียงสนามตัวเล็กๆ ไปด้วยพอดีค่ะ  แต่ วิ.ดิ.โอ  ไม่ค่อยแน่ใจเรื่องคนถ่าย อาจต้องคุยกันดูอีกทีค่ะ  หนังสือก็น่าสนใจนะคะ
    • ส่วนเป๋า เดือนนี้ฝึกงานอยู่ในโรงพยาบาลอำเภอ  บ่นว่าอยากมาๆ  แต่หาเวลาไม่ได้สักที  ได้แต่แว๊บมาแจมเวลามีใครไปทางเหนือ
    • ตอนนี้กำลังขมักเขม้นทำงาน  เพื่อที่ว่า พอถึงวันที่ 4 พ.ค. จะวางงานไว้แล้ว ปายเล้ยยยย
    • นัดกับคุณหมอจอมป่วน  พี่พรพรรณ และ อาจารย์ไพลินแล้วด้วยค่ะ
  • #5 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2010 เวลา 18:27

    เช้าวันที่ ๕ นะอุ๊ยถึงที่ไหน เวลากี่โมงละจ๊ะ เผื่อพี่ี่จะปรับเวลาไปถึงให้ไล่เรี่ยกันได้

  • #6 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2010 เวลา 18:48

    งานคราวนี้ เปรียบเสมือนยกพลขึ้นบกของกองทัพชาวเฮกับอาคันตุกะหลายคณะ มีญาติมิตรที่ไม่เคยมาหลายท่าน ดีใจที่อาจารย์ไพลินกับพรพรรณมาได้ ถ้าแถมหมอเป๋าอีกคนก็ครบเครื่องคนอยากมาเที่ยวอีสาน
    เปิดฉากด้วยทีมหมอJJ มากินข้าวเที่ยงด้วยวันที่5

    หมอเจ๊ จะมาทางไหนอย่างไรเวลาไหนบอกด้วยครับ เผื่อจะมีรถคิวพิเศษฝากมาด้วย

  • #7 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2010 เวลา 21:24

    พ่อครูบาครับ ผมได้เมล้ดผักหวานป่า lot แรกแล้วจากหมอธีระ เซียนผักหวานป่านี่แหละครับ บังเอิญวันนี้ไปสัมภาษณ์ท่านพอดี หมอธีระก็บอกว่า อ้าวพอดีเลยกำลังจะส่งข่าวว่าเก็บเมล็ดผักหวานป่ามาแล้ว

    ผมจะส่งมาให้ทางไปรษณีย์ครับจำนวนไม่มากประมาณครึ่งกิโล สวยมาก ครับ จะส่งมาให้วันพรุ่งนี้เลยนะครับ

  • #8 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 เมษายน 2010 เวลา 0:01

    พ่อครูค่ะ ขอวีซ่าผ่านเรื่องวันเดินทางได้ว่า เป็นวันที่ ๔ เย็น กำลังคิดว่าน่าจะออกจากรุงเทพฯมาถึงบุรีรัมย์เช้าน่าจะดี  ยังไม่ได้ไปซื้อตั๋วเลยค่ะ แน่นอนอย่างไรจะแจ้งมาใกล้ๆวันอีกทีค่ะ  ส่วนวันกลับยังไม่ลงตัวกัน อาจจะกลับก่อนหรือยังไงรอตกลงอยู่ค่ะ

  • #9 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 เมษายน 2010 เวลา 2:28

    นับเป็นข่าวดี ครับท่านบางทราย เมื่อวานได้คุยเรื่องโครงการวิจัยไม้ป่ากับกรมป่าไม้ มีแผนที่จะไปช่วยเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม ผมมีพันธุ์ไม้พิเศษไปแจก เช่นไม้หอมเมืองจีนที่คนหากันให้ขวัก เอาไว้คุยรายละเอียดกันนะครับ อยากจะทดลองปลูกผักหวานด้วยเมล็ดอีกสักรอบ ขอบคุณครับ

  • #10 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 เมษายน 2010 เวลา 2:30

    ดีใจที่หมอเจ๊มาได้ๆๆๆๆๆ ส่งข่าวมานะครับ
    ถ้ามาถึงเช้าวันที่ 5 น่าจะตรงเวลาเดียวกันกับน้าอึ่ง-อุ้ย มาจากเชียงใหม่ ลงที่ บขส.บุรีรัมย์ จะได้ไปรับเข้าสวนพร้อมๆกัน และมาทันคณะหมอJJ มาด้วย

  • #11 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 เมษายน 2010 เวลา 21:55

    วันที่ 3 ครูปูไปกับครูบาครับ วันที่ 4 ป้าจุ๋มไปกับผม

  • #12 silt ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 พฤษภาคม 2010 เวลา 0:58

    วันที่ ๙ไม่ได้เกาะรถไปเหนือกับครูอึ่งแล้วล่ะครับ

    แต่สวนป่ายังได้ไปอยู่
    นั่งปั่นงานโครงการลาดเสือที่ปากเซอยู่ยิกๆกลัวบ่ได้ไปแคว๊กๆ

    เย็นนี้ลองทำคั่วแค ซ้อมฝีมือไว้ ลำแต้ๆแต่หนักเกลือไปหน่อย เอาไว้แก้มือที่สวนป่าครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.87077403068542 sec
Sidebar: 0.062539100646973 sec