เรื่องเล่าชุมชนชาวเฮที่ผ่านมา

โดย sutthinun เมื่อ 7 มกราคม 2010 เวลา 11:23 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1279

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ฟ้าบันดาลให้เกิดชุมชนคนแซ่เฮขึ้นมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เมื่อใจจ่อใจความเป็นไปก็คืบคลานเข้าหากันทุกมิติ ได้เรียนรู้กันมากขึ้น เฮฮาปะหน้ากอด ๆ กันเกิดขึ้น สนิทสนมดูแลสารทุกข์สุกดิบกัน พยายามหาเรื่องฮามาเขย่าใจกันอยู่เรื่อย ๆ ช่วงแรก ๆ นี้ทุกท่านขยันเขียน  ถือเป็นช่วงบรมสุขเลยละขอรับ.. เมื่อเอาความรักมาใส่ความรู้ ความปรารถนาดีก็เปิดเปิงไปถึงไหน ๆ ใครได้อ่านต่างถ้อยทีถ้อยไต่รับความรู้ของกันและกัน ทำให้รู้จักว่าสังคมแห่งการเรียนรู้ที่แท้นั้นเป็นอย่างไร? ความรู้ในตัวคนส่งผลให้เกิดชุดความรู้กว้าง ๆ ตามความถนัดของแต่ละสำนัก ..แต่พักหลังเกิดอาการแป๊ก! ขึ้นมาดื้อ ๆ   หลายคนเว้นวรรคการเขียนไปอย่างน่าเสียดาย มันเหมือนกับการสะดุดอะไรสักอย่าง เคยจ๊ะจ๊ากันอยู่ดี ๆ ก็เกิดไม่มีกะจิตกะใจที่จะเขียนขึ้นมาอย่างนั้นแหละ ไม่เห็นใจที่คนที่ติดตามอ่านบ้างเลย ยุเท่าไหร่ของก็ไม่ขึ้น ความชื่นมื่นที่เคยมีแต่แรกเปลี่ยนมาเป็นไก่เหงาไปตามกัน แต่ก็ต้องขอขอบคุณ นักเขียนบล็อคหลายท่านที่ยืนหยัดคงเส้นคงวา ร่ายเรื่องราวสนุก ๆ มาให้คิดให้อ่านตลอด ทำให้เห็นร่องรอยกระบวนการนำเสนอที่เริ่มจะขมวดกลุ่มสาระชัดเจนขึ้น

  • อัยการชาวเกาะ เจาะใจเรื่องกฏหมายที่ท่านมีส่วนอยู่ในกระบวนการเหล่านั้น ถอดรหัสการบอกเล่าเรื่องยุ่ง ๆ ทางกฎหมายให้เป็นกฎเฮได้อย่างสนุก อ่านกิ๊ก ๆ กั๊ก ๆ พุงกระเพื่อมลดไขมันทางอ้อมได้ด้วย วิทยาทานความรู้ที่แฝงความสุขนั้นทำได้ไม่ง่ายนักหรอก ที่จะไม่นำเสนอระเบียบหรือวิชาการที่แข็งโป๊ก แต่เห็นได้ชัดว่าได้พบค้นเส้นทางเขียนให้โดนใจทางอ่านได้อย่างเหมาะเหม็ง เรื่องเจาะใจสรุปตอนแต่งลูกสะใภ้ รวมเล่มเมื่อไหร่ส่งให้คณะกรรมการซีไรท์ได้เลย อิอิ..
  • หมอเจ๊ คุณหมอจอมป่วน ป้าหวาน อุ้ยสร้อย อาม่าหลินฮุ่ย หนูหนิง ก๊วนนี้เริ่มสร้างบริบทมาทางด้านสุขภาวะทางกายใจและจิตวิญญาณ ยกโรงพยาบาลและคลีนิคมาใส่บล็อก ถ่ายทอดในมุมที่เป็นประโยชน์กับสภาพปัจจุบัน ความรู้ที่ปฎิบัติในหน้าที่การงานรับผิดชอบ ได้เล็ดลอดออกมาให้ประโยชน์ทางอ้อมกับคนขี้โรคได้อย่างยอดเยียม เป็นการยกเครื่องเรื่องสุขภาวะประชาคมตามสไตล์ของชาวเฮ เรื่องที่ต่อท่อออกไปในสนามความรู้นี้ ทำให้เกิดความร่วมมือในการค้นหาจุดพอดี สะสางชุดความรู้เดิมมาต่อเติมชุดความรู้ใหม่ให้ไฉไลยิ่ง ๆ ขึ้นไป ในอนาคตงานวิจัยเหล่านี้ จะช่วยสังคายนาเรื่องการแพทย์ทางเลือกพบกันครึ่งทางกับแพทย์แผนปัจจุบันโดยไม่แยกขั้ว แยกค่าย แต่เอาเหตุผลมาวางให้เห็นว่าจะผสานให้เนียนเข้าเป็นเนื้อเดียวกันอย่างไร?  เชื่อว่าสาระที่ช่วยกันปะติดปะต่อร่วมกันของผู้สันทัดกรณีทางด้านนี้ จะเป็นตำราเวชศาสตร์ชุมชนที่สถาบัน นักศึกษา ประชาชนคนรักสุขภาพจะต้อนรับอย่างอื้อฮือ..
  • ครูPanda ครูอึ่ง ครูอาลาม ครูปู ครูถัง ครูHandy ครูนิด ครูมิม เล่าเรื่องการศึกษาได้อร่อยเหาะ  ปล่อยออกมาแต่ละตอนเหมือนตีตราวิธีมองวิธีเรียนและวิธีขมวดความรู้ได้อย่างเอกอุ ไม่ได้ชมนะนี่ ทุกเนื้อหาแฝงเสน่ห์แม่ไม้ครูไทยไว้สม่ำเสมอ พูดได้ไหมว่า..มันยิ่งกว่าเรียนฟรี 15 ปี สัก 100 เท่า แคว๊ก ๆ
  • ท่านบางทราย อาว์เปลี่ยน คุณหมอจอมป่วน จอมยุทธเหล่านี้ลุยทางด้านสังคมศาสต์ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และขยะศาสตร์ มีประสบการณ์ตรงชนิดกอดตัวเมื่อไหร่ ก็ได้ความคุกรุ่นที่เกิดจากการร้อนวิชา ปักหลักตีแตกกับเรื่องนี้อย่างหามรุ่งหามค่ำ นาน ๆ จะแว๊บมาพักเหนื่อยด้วยการอิอิศาสตร์  ทุกตอนเป็นตำราพัฒนามนุษย์ที่หาอ่านที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เค้นเอาเลือดและน้ำตาของผู้ที่ถูกพัฒนาแบจะ ๆ  ภาควิชาต่าง ๆ ที่จัดตั้งเรื่องการพัฒนาสังคม ถ้าผมมีโอกาสก็จะแนะนำให้มาอ่านกลุ่มงานของจอหงวน 3 ท่านนี้ ก่อนที่จะไปยกร่างหลักสูตรที่ปนเปื้อนทฤษฎีโดยที่ตนเองไม่เคยสัมผัส บางทีความถนัดเรื่องการยกเมฆบ่อย ๆ  ก็จะทำให้เกิดความแห้งแล้งทางวิชาการได้เหมือนกันนะขอรับ แคว๊ก ๆ..
  • รอกอด อ.เม้ง และ โสธร 3 ทหารเสือลุยเรื่องเทคโนโลยี ปรัชญา นาโน ตอนนี้กำลังสนุกกับเรื่องประสบการณ์ชีวิต ปลูกต้นไม้ปลูกผักหญ้า ขี่มอเตอร์ไซด์คันโตบรึนๆ..ถ้าเห็นว่ามีเรื่องด้านวิทยาการไอทีหรือเรื่องที่เกี่ยวข้อง ก็จะยกมานำเสนอชวนคิดชวนคัน เป็นวิทยาศาสตร์ที่ไม่บ้าทฤษฎี แต่ได้นำทฤษฎีตีกลับให้อยู่ในรูปที่สอดรับกับการนำไปสู่การทดลอง เช่น ชวนกันขุดเตา 2 หัว 3 หัว หุงข้าวควันโขมงมาแล้ว วิทยาการที่ไม่ห่่างไกลจากวิถีขีวิตจึงน่าสนุกทุกครั้ง หรือแม้แต่เรื่องเล่าปั้นพระ แกะพระ นี่แหละการเรียนเรื่องจิตใจตนเอง ละเมียดละไมสุด ๆ ก็ได้ สมบุกสมบันแบกจอบไปฟันดินแข็ง ๆ จนซี่โครงคลอนก็ทำมาแล้ว การลงมือทำจริง ๆ จึงมีอานุภาพยิ่งนัก เรื่องยุให้คิดยุให้ทำเชิงประจักษ์ เอาพริกสดหั่น ๆ ใส่ไข่เจียวทอดร้อน ๆ  อร่อยง่าย ๆ สไตล์กุ๊กเม้งอย่างนี้แหละน่ากอดนัก
  • หมอเบิร์ด ตั้งหน้าตั้งตาเขียนด้านจิตวิทยาที่ผสมเชื้อเฮฮาลงไปด้วย เป็นงานเขียนละเมียดละไมในรายละเอียด เก็บตกทุกเม็ด ผู้อ่านจึงได้รับเต็ม ๆ แทบไม่ต้องไปค้นหาที่ไหนอีก บางครั้งอารมณ์หวามก็เขียนเรื่องยั่วสังคมด้วยนะ เป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจเขียนมาตลอดปี คาดว่าปีใหม่นี้คงจะมีเรื่องพิเศษ ๆ มาเสนอให้ฮือตึงอีก เบิร์ดเป็นนักสร้างบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม สั่งให้กอดใครไว้ใจได้ยิ่งกว่ากดปุ่ม ฮิตาชิ ..

ลุงเอก ท่านไร้กรอบ นาน ๆ จะแวะมา แต่มาทีก็เหมือนไฟฟ้าซ๊อต !ช่วยกระตุ๊กความง่วงเหงาหาวนอนได้ดี

น่องหวาน ตาหวาน สูญหายไร้ร่องรอย ต่อไปจะประกาศหาคนหายใน นสพ.ไทยรัฐ

น้าอึ่ง มาบ่น แล้วก็แว๊บไปสั่งกาแฟเย็นเฉยเลย

น้าแป๊ดตกอยู่ในอาการเดียวกัน ใครมียาผีบอกช่วยส่งให้หน่อย

สำหรับท่านสมาชิกใหม่ รออ่านจนเหงือกแห้งก็ไม่ยอมโผล่มาเสียที

ทำไมต้องอุ่นเครื่องนานนักก็ไม่รู้นะ

กลุ่มเขียนช้านี้อยากแนะนำให้ไปกราบท่าน BM.chaiwut

ท่านเขียน ๆ ลื่นไหลได้ให้ธรรมมะอย่างธรรมชาติมาก

สาธุ สาธุ สาธุ ขอให้ว่าที่ท่านเจ้าอาวาสจงบรรลุทุกความมุ่งหมายเทอญ

แีคว๊กๆ..

« « Prev : ของดีวันปีใหม่

Next : ตัดต้นตาลทำไม? » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

5 ความคิดเห็น

  • #1 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 มกราคม 2010 เวลา 11:45

    วันนี้รับออร์เดอร์ จปผ๒ อีกสองออร์เดอร์จำนวน 50+5 เล่มครับ ท่านผู้ที่สั่ง 50 เล่ม (เคยสั่ง จปผ๑ มาแล้ว 50 เล่ม) ถามว่าทำไมไม่วางขายตามร้านหนังสือ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 มกราคม 2010 เวลา 11:53

    ของเขาดีจริง
    แจกใครๆโอ้โฮๆๆ
    จะเอาอีกแน๊ะ
    บอกรอปีหน้าละกัน แคว๊กๆๆ

  • #3 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 มกราคม 2010 เวลา 15:10

    ยังขาดคนหนึ่งค่ะ พ่อครูบาสุทธินันท์

    ผู้เขียนเรื่องทำมะดาให้เป็นเรื่องพิเศษได้ยอดเยี่ยม  มีชุดความรู้เฉพาะตัวที่เกิดขึ้นจากความใส่ใจในทุกเรื่องราว ท่านนี้ถ้าไม่เขียนลาน ฯ เหงาไปเลยล่ะค่ะ  ^ ^

  • #4 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 มกราคม 2010 เวลา 22:43

    ผมเฝ้ามองกลุ่มเฮฮาศาสตร์ผ่านประสบการณ์การทำงาน รอสักพักจะลองวิภาคตัวเองซะหน่อย
    น่าสนใจครับ…
    การเดินทางของประวัติศาสตร์

    น่าสนใจตรงที่ พ่อครูบาฯเปิดประเด็นนี้
    ผมก็อยากเชิญชวนพี่น้องช่วยกันเปิดอกเปิดใจกันตรงๆได้ไหม
    จะเปิดในลาน หรือจะจัดเฮฮาพิเศษวิภาคตัวเองก็น่าสนใจ

    ถามว่าทำทำไม  ก็หากจะก้าวไปข้างหน้า เมื่อสะดุดก็ควรหันกลับมามองตัวเองว่าเป็นอะไรไป
    หากไม่ไหว ก็ช่วยบอกว่าไม่ไหว  หากว่าขอเวลาหน่อยก็ช่วยบอกหน่อย
    หากว่า เบื่อ เซ็ง เฮ่อ ก็แค่นั้นแหละ.. คนที่สนใจชุมชนแบบนี้ก็จะได้มีข้อมูลสรุป
    KM ที่เป็นรูปแบบใหม่ก็จะมีบทเรียน

    เดินทางมาพอสมควรที่ จะนั่งลงมองรอบตัวบ้างก็ได้
    เพื่อเดินไปข้างหน้าครับ

    อิอิ

  • #5 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 8 มกราคม 2010 เวลา 1:11

    ยก2มือ สนับสนุนท่านบางทราย
    ผมเอาชื่อท่านไปขายให้คณะยกร่างหลักสูตรการพัฒนาสังคมหลายแห่ง
    ขออนุญาตล่วงหน้าว่าอาจจะมีรายการรบกวนเชิญมาวิพากษ์ในบางวาระนะครับ
    แคว๊กๆๆ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.048217058181763 sec
Sidebar: 0.060397863388062 sec