ตำนานรักเมือง2แคว

โดย sutthinun เมื่อ 11 กันยายน 2008 เวลา 10:04 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1998

กาลครั้งหนึ่ง..เมื่อ36ปีที่แล้ว

มีนักเลงบ้านนอกอีสาน อุ้มสาวเชียงใหม่ผ่านมาทางนี้..

เรื่องมันมีที่ไปที่มานะพี่น้อง สมัยนั้นรักใครชอบใครผมบุ่มบ่ามจับแขนบอก..ผมรักคุณนะ เว้าซื่อๆ

บังเอิญว่าไปเจอคนใจถึง..เธอถามกลับว่าจริงรึเปล่า

จริงสิ รักจริงหวังแต่ง ..แน่นะ..แน่สิ..

แน่จริงก็เข้าบ้านเลย ไปขอกับพ่อแม่หนู

เจอคนจริงแบบนี้ก็ง่ายหน่อย..พาอ้ายไปเลยอี่น้อง

ผมก็บอกว่าที่พ่อตาแม่ยายตรงๆ ว่าผมรักบุตรีท่าน จะมาสู่ขอ..ขอหมั้น

ท่านถามว่า..มาขอก็ดีแล้ว..ไหนละผู้หลักผู้ใหญ่

อ้าว! ผมลอดถ้าขุนตานมาคนเดียว จะไปหาญาติผู้ใหญ่ที่ไหนมาค้ำประกันกะรันตี

สมัยนั้นอุ๊ยจั่นตา น้าอึ่งอ๊อบ อยู่ที่ไหนยังไม่รู้จัก ไม่ยังงั้นจะชวนมาหน้าแตกด้วยกันสักกะหน่อย!

กราบเรียนไปว่า..ผมมาคนเดียวครับคุณพ่อ

เมื่อไม่ครบถ้วนตามทำนองคลองธรรม ใครเขาจะบ้ายกลูกสาวให้

ผมก็อึ้งกิมกี่สิครับ  คิด คิด ..ทำยังไงดี

ตอนนั้นลานปัญญาก็ยังไม่มี จะปรึกษาผู้สันทัดกรณีก็ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน?

หันหน้าหารือคนงาม..ถามเธอว่า..รักก็รักแล้ว ไปขอก็ไปขอแล้ว แห้วตามเคย..จะทำยังไง?

ติดต่อกันมาถึง8ปีแล้ว ได้แต่รอ..รอ..จนหัวใจโป่งพองแล้วน้องจ๋า..

จับแขนครั้งที่เท่าไหร่ก็ลืมนับ..เอาอย่างนี้ไหม? เราไปจดทะเบียนกันไว้ก่อน

ทางจารีตประเพณียังไม่สมบูรณ์ เรามาทำทางนิตินัยให้สมบูรณ์ไว้ก่อน

จดทะเบียนแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะครม.ยังไม่อนุมัติเหมือนเดิม

ใครว่าสาวเชียงใหม่จีบง่าย ของ่าย แต่งงานง่าย

กระผ๊มเอาหัวเป็นประกัน ยากมาก ยาก ยาก..และยุ่งยากอย่างที่สุด

มา2แควครั้งนี้ แอบถามคนชอบวิ่งว่า..ไปคุยอีท่าไหนพ่อตาถึงยอมยกลูกสาวให้

จอมป่วนก็เล่นตัวไม่ยอมเผยเคล็ดลับ  อีโธ่..แค่นี้ก็บอกไม่ได้!!!

หน้ามืดเข้าจริงๆ  วันเปิดศึกหัวใจมาถึง

ไปชวนคนสวยมาทานข้าวกลางวัน แทนที่จะส่งเธอกลับไปที่ทำงาน

บอกแท๊กซี่ว่า..พี่ขับไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ..

คนสวยเอ๊ะใจ..อ้าวมาตั้งไกลอ้ายจะพาน้องไปไหน?

ไปบุรีรัมย์..

เธอนั่งเงียบกริบ! เงียบสนิท เงียบจนวังเวงใจ เธอกำลังคิดอะไร?

สมบัติติดตัวก็คือชุดที่แต่งมาทำงาน กับกระเป๋าตังส์ใบเล็กๆ

ผมสงสารเธอจับใจ ได้แต่นั่งเงียบๆ มิกล้าที่จะเอ่ยคำใดออกมาทำลายความเงียบ

เฮ้อ รักแบบนี้น่ากลัวเหมือนกันนะขอรับ

ประมาณ5ทุ่ม รถอุ้มสาวหนีมาถึงเมือง2แคว

บอกให้แท๊กชี่แวะไปวัด  คนบาปขอกราบพระพุทธชินราช

ชวนเธอลงจากรถ นั่งเคียงกัน ก้มกราบองค์พระที่สวยที่สุดในโลก

ต่างคนต่างอธิฐานในใจ ไม่ได้ถามกันเสียด้วย ว่าอธิฐานอย่างไร?

ท่านจอมป่วนจัดให้กราบพระพุทธชินราชในครั้งนี้จึงโดนใจยิ่งนัก คณะเราได้รับแจกพระคนละองค์สององค์จากคุณลุงที่เป็นเจ้าถิ่น พากันไปปิดทองไหว้พระ เข้าไปในอุโบสถ..ผมมองไปจุดที่เราเคยนั่งกราบพระด้วยกัน ก็ได้แต่สะท้อนอก พึมพำบอกองค์พุทธชินราชว่า..ลูกช้างกลับมากราบท่านคราวนี้มาเดี่ยว ขอให้วิญญาณที่รักจงไปสู่สุขคติๆด้วยเถิด

หลังจากนั้นเราแวะไปชิมก๊วยเตี๋ยวหย่อนขาเจ้าตำหรับ แล้วไปชิมอาหารเวียตนาม จอมป่วนเลี้ยงเราแบบสะบั้นหั่นแหลก อาเหลียงอยากชิมอะไรขอให้บอกจัดให้ เพื่อชดเชยที่พลาดเมนูเด็ดจากเมื่อวานนี้ ตอนชิมอาหารเวียตนามนี่นึกถึงท่านคอนดรี๊กเตอร์ อยากจะบอกว่าร้านนี้เขาเด็ดดวงรสจัดจ้านดีนัก พวกเราได้ชิมเผื่อแล้วด้วย ที่ซ้ำร้ายคุณหมอจอมป่วนสาธิตการเดินชนประตู ครูสุได้โอกาสเอาคืน หัวเราะกลิ้งแทบตกเก้าอี้

ป้าจุ๋มแยกไปดูพิพิทธภัณฑ์ภูมิปัญญาไทย ผมขอเวลาเตรียมPower Point ที่จะประกอบการคุยเรื่องบทบาทองค์กรท้องถิ่นกับการศึกษา ได้เวลาพวกเราก็มารวมตัวกันบุกสำนักงานเทศบาลพิษณุโลก ได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่งจากชาวเฮฮากลุ่มนักการ ดีใจที่เจอครบหน้าครับตา แต่เวลามีน้อยและฉุกลุกเลยอดกอดนักการอิ่ม นักการเมี่ยง และนักการท่านอื่นๆ ..งานนี้มีคุณครูในสังกัดโรงเรียนเทศบาลมาร่วมรับฟัง หลังจากนั้นครูสุขึ้นเวทีแนะนำการเข้าบล็อกลานปัญญา อ.ภูคาสมัครเป็นคนแรก แนะไปฮาไปผลเป็นประการใดต้องตามอ่านที่บล็อกท่านจอมป่วนนะครับ

ได้เวลาทะยอยลา ทะยอยกอด

น้องมิ้น สิงห์ป่าสัก ไปทางเดียวกัน หลังจากแจกกล้วยไข่กันแบบครบวงจร

อาเลียง แม่บ้าน และน้องเบิร์ด ไปเชียงรายด้วยกัน ผลัดกันขับผลัดกันคุย

ผม ป้าจุ๋ม ครูสุ ราณี ลูกหว้า แม่นุ คนชอบวิ่ง ไปรับการเลี้ยงส่งที่ร้านบ้านไม้

อร่อยจนอืดจึงแยกย้ายมาบุกบ้านคุณหมอชอบวิ่งในยามวิกาล

เดินชมรอบบ้านที่เต็มไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด

เสียดายว่ามีเวลาน้อย จึงเยี่ยมยามแบบหอมปากหอมคอ แล้วยกโขยงไปที่สนามบิน

4 ทุ่มเศษ กอดกันร่ำลาอาลัยในไมตรีจิตของญาติมิตรชาว2แคว

ลาที มิใช่ลาก่อน อย่าอาวรณ์ ไม่หายไปไหน?

วันหลังมีอะไรขอให้บอก..จะมาล้มทับอีก อิ อิ..

เรื่องนี้บอกให้รู้ว่า

อย่าทำให้นักเลงบ้านนอกหลงปลื้มเป็นอันขาด

ไม่อย่างนั้นจะโดนอุ้มกลับบ้านดื้อๆ

ขอบอก!!

« « Prev : โรตีที่อาเหลียงสะอื้นร่ำ

Next : กระดาษกู้ชาติ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

7 ความคิดเห็น

  • #1 rani ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 กันยายน 2008 เวลา 10:31

    มาซึมซับความทรงจำอันแสนหวานของพ่อเรา อิอิ พามาไหว้หลวงพ่อพุทธชินราชนี่เอง ความสุขอยู่ในใจเรานี่เอง เวลาเอากลับมาคิด ก็ทำให้สุขใจได้ไม่สิ้นสุดนี่เอง ..เสียดายแทนคนไม่ได้มา ด้วย อิอิอิ(3อิ) 

  • #2 ลูกหว้า ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 กันยายน 2008 เวลา 12:36
    • แอบตามราณีมาติดๆค่ะ  โผล่หน้ามาให้คิดถึงค่ะ แม้ว่าจะไม่ค่อยมีเวลาให้พ่อที่สองแคว เพราะติดงานสอน คงไม่ว่าอะไรนะคะพ่อขา
  • #3 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 กันยายน 2008 เวลา 13:35

    ป่านนี้ยังเซ็นไม่หมดเลย  อิอิ

  • #4 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 กันยายน 2008 เวลา 13:57

    #3 ทำทีละหนึ่งครับ

  • #5 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 กันยายน 2008 เวลา 19:35

    #3 ระวังแฟ้ม ทับคอหักนะจะบอกให้ 5555

  • #6 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 กันยายน 2008 เวลา 21:35

    เรื่องแฟ้มจริงๆด้วย ไปเห็นแล้วอดที่จะถ่ายรูปมาฟ้องด้วยภาพไม่ได้

  • #7 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 กันยายน 2008 เวลา 19:15

    เพิ่งรู้นะเนี่ย  ครูฯ มีอะไรคล้ายๆ ………. ใครไม่รู้  ฮ่าๆๆๆๆๆๆ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.75835919380188 sec
Sidebar: 0.35947895050049 sec