ล่องใต้ไปแลใต้
อ่าน: 5871“นักเลงบล็อกไม่เขียนBlogก็ต๊อกต๋อย
จะให้นั่งหง๋อยๆอยู่เฉยๆ
อาจจะลงแดงได้ดิ้นตายเลย
ก็คนเคยร่ายคำทุกค่ำคืน”
ไหนๆก็ไปเยือนถิ่นใต้อยู่แล้ว แถมยังมียานพาหนะและสารถีเป็นขาใหญ่แดนใต้อีก โจทย์ดีๆอย่างนี้กระชากใจให้เปลี่ยนแผนหักเลี้ยว360องศา ยอมทิ้งตั๋วสายการบินอีแร้งแก่ มาตะลอนๆกับพระอาจารย์Handyและเล่าฮูแสวง ทั้งๆที่ไม่สบายเท่าไหร่นัก ก่อนหน้ามาก็ปกติดีจึงไม่ได้เตรียมล่วมยามาด้วย ระหว่างเดินทางก็เริ่มมีอาการคันคอฟุตฟิต เอาละสิ..ยังดีที่ได้ยาพญามือเหล็กของป้าจุ๋มพยุงสังขารไว้ ช่วงที่อยู่พุ่มเรียงก็ไปหาหมอ เมื่อเช้าไปฉีดยา อาการก็ทุเลาไม่ค่อยทุลักทุเล
การไปเยือนถิ่นใดก็ตาม ถ้ามีสายญาติเจ้าถิ่นเป็นเจ้าภาพ เราจะได้รับโอกาสพิเศษในทุกกรณี ได้พบปะครอบครัวผู้หลักผู้ใหญ่ พบเงื่อนไขดีๆที่จะไปเชื่อมโยงกับเรื่องในอดีต ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ สังคมพื้นถิ่น และเรื่องประทับใจมากมาย นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่อยากจะตามไปดูสภาพแวดล้อมโดยรวม ที่พระอาจารย์จะกลับมาตั้งหลักที่บ้านเก่า มาเห็นแล้วสบายอย่างมาก ต้นทุนของพระอาจารย์Handyกับสายเครือญาตินั้นมั่นคงนัก ในฐานะลูกชายกำนันเก่าที่โด่งดังในอดีตจะธรรมดาที่ไหนเล่า ญาติแต่ละคนมีกิจการร้านค้าขายส่ง-ปลีกใหญ่โต ที่บ้านโมถ่าย ตำบลโมถ่าย จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากพุ่มเรียงประมาณ 15 กม. ด้านข้างร้านยังเป็นตลาดนัดของชุมชุน ที่ทางแต่ละแห่งอุดมสมบูรณ์รอคนมาปรับปรุง นอกจากงานค้าขายแล้ว ยังมีสวนปาล์ม สวนมะพร้าว สวนยางพารานับ100ไร่ บ้านสวนอยู่ติดกับสวนโมกข์นานาชาติ มีน้ำพุร้อนไหลผ่านทั้งปี อบต.วิทยุชุมชนก็ล้วนแต่คนรู้จักกัน ผมคิดว่าพระอาจารย์Handyกลับบ้านเก่าช้าไปหน่อย ถ้ามาก่อนหน้านี้เป็นพระเอกขาโจ๋ไปนานแล้ว
พระอาจารย์Handyบวชเป็นศิษย์วัดสวนโมกข์รุ่นแรกๆ แถมเป็นประธานของรุ่นอีกต่างหาก จึงรู้จักหลวงพี่หลวงน้าหลวงลุงทั่วไปหมด ก้าวแรกที่เดินเข้าในวัด เห็นใยแมงมุมห้อยใบไม้ลงมา จิตหวนไปคิดว่านี่เป็นเยื่อใยที่ได้กลับมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง ไก่ป่า กระรอก หรีดเรไร ความครึ้มของป่าไม้ ได้นั่งสนทนาธรรมกับท่านสิงห์ทอง ได้รับหนังสือและแผ่นซีดี.ได้คุยกับคนสำคัญๆของสวนโมกข์ เช่นครูนพพร มากมี สอนอยู่ที่โรงเรียนธารน้ำไหลประชาสรรค์..ตั้งอยู่ในบริเวณสวนโมกช์ ร่มรื่นรักษาสภาพอาคารรุ่นเก่าที่คาสสิกมากแห่งเดียวที่เหลืออยู่ในภาคใต้ คุณน้าทองมาก มากมี เป็นผู้ที่ปรนนิบัติท่านพุทธทาสตั้งแต่ต้นอย่างต่อเนื่อง การที่ได้สนทนากับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งจึงไม่ธรรมดาใช่ไหมครับ เราได้ไปกินข้าวฝีมือคุณน้าอำพัน มากมี ที่ทำอาหารครบเครื่องตำหรับใต้ดั่งเดิมอย่างอิ่มเอม เป็นวาสนนาของกระเพาะเชียวละครับ นอกจากนี้ยังได้กินกล้วยเล็บมือนางที่แสนอร่อยจนอิ่มอืดทุกมื้อ ได้โชว์พุงป่องๆที่อ่างน้ำพุร้อน แต่ไม่อายใครหรอกนะเพราะย่องไปเล่นน้ำพุร้อนตอนกลางคืน อุณหภูมิประมาณ 40 องศา ใครเป็นโรคใจเย็นขอแนะนำให้มาแช่บ่อแร่น้ำร้อนที่นี่
คุณน้าทองมากอายุ79ปี6เดือน ส่วนคุณน้าอำพันอายุ78ปี แต่ร่างกายแข็งแรง เล่าฮูแสวงชื่นชมมาก บอกว่าสุขภาพของท่านเทียบเท่ากับคนอายุ50ปี ทั้ง2ท่านเป็นเสาหลักให้เราสืบสาวราวเรื่องของสวนโมกข์ได้ไม่อั้น เสียดายว่ามีเวลาน้อย แต่ก็เราก็มีสัญญาจะเย้าเยือนกันในวาระอันควร เพราะเป็นมนุษย์สายพันธุ์ที่ชอบปลูกต้นไม้เหมือนกัน งานนี้มีการบ้านติดปลายนวมมาเยอะขอรับ
เราตระเวนในชุมชนไม้เรียง ไปเที่ยวแหลมโพธิ์ที่อดีตเคยเป็นที่ตั้งทัพพระเจ้าตากสิน ชิมอาหารใต้รสเด็ด ไปอาบน้ำพุร้อน ขากลับแวะมาตามรายทาง จุดพิเศษสุดอยู่ตรงที่ชายแดนพม่า ไปตามล่าสมบัติใต้ท้องทะเลลึก ไปพบตลาดค้าชายแดนที่มีกล้วยไม้สวยๆ พรรณไม้แปลกๆ ดอกบัวผุดพันธุ์เล็ก แม่ค้าบอกว่าหั่นบางๆตากแดดชงดื่มเป็นยาโด็ปชั้นสุดยอด เล่นโฆษณาอย่างนี้ ..เหมาทั้งร้านนี่เท่าไหร่..มีตอไม้สวย ไม้แกะสลักพระปางต่างๆ คิดถึงคอนตะหงิดๆ..ได้พันธุ์ไม้แปลกๆมาปลูกบ้าง เสียดายพระอาจารย์ไม่ได้เอารถ10พ่วงไป ไม่ยั้งงั้นจะได้ขนต้นไม้เมืองใต้มาปลูกอย่างจุใจ อิ อิ..
เล่าฮูแสวงพาไปชมสมบัติใต้สมุทร์ซึ่งแปลกมากๆ ถ้าไม่ได้มาเห็นกับตาคงจะเข้าใจว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์เพราะลักษณะใกล้เคียงแทบดูไม่ออก เป็นส่วนของฟันปลากระเบน ที่ชาวประมงค่อยลอกออกมาดัดโค้งให้เป็นกำไล เป็นของประดับสร้อยห้อยคอเก๋ๆ เรื่องความแปลกความสวยงามนั้นไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แต่แถมโชคลางในทางอุ้มชูกำลังใจนี่สิพิเศษจริงๆ
คนพม่ามีความเชื่อว่า
..ถ้าใครสวมสร้อยกำไลที่ว่านี้
จะเกิดเมตตามหานิยม
มีคนชื่นชมขนาดพระขุนแผนชิดซ้ายนั่นแหละครับ
เท่าที่รับฟังมาทุกคนหาคู่ได้ดั่งใจหมาย
เอ๊ะ!..ชักจะเข้าท่าแฮะ
ผมก็มีลูกสาวหลายคน
เห็นทีจะต้องควักกระเป๋าซื้อไปฝากเป็นของขวัญปีใหม่เสียหน่อย
ถึงราคาแพงเหลือใจ
แต่ถ้าดลบันดาลให้ลูกหลานมีคนรักก็คุ้มใช่ไหมละครับ.. แคว๊กๆ
« « Prev : คลื่นรักท่วมเกาะภูเก็ต
Next : กลับบ้านเฮาฮักรออยู่ » »
2 ความคิดเห็น
สวัสดีครับท่านผู้ชม
ตื่นมาตีสาม นอนไม่หลับเพราะรู้สึกว่ามีอะไรต้องทำ และนอนมากว่า 3 ชั่วโมงแล้ว ลงไปจัดการอย่างละเอียด ประณีตกับของที่จะถวายพระเป็น Happy New Year ให้ท่านอีกชิ้นหนึ่ง ทำความสะอาด คราบเทปกาว ที่ตัวของดังกล่าว โดยใช้น้ำยา 2-3 ชนิด ขัดถู ซ้ำๆจนดูน่าจับน่าถือก็ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง ของก็พร้อมที่จะถวายเช้านี้ ขึ้นมาเปิดเครื่องตอบ e-mail 1 ฉบับ แล้วก็รีบเข้ามาลานนี้เพื่อมาดูลีลาการบอกกล่าวเรื่องราวที่สุดแสนประทับใจของพวกเราทุกคนที่ร่วมทีมเดินทาง
เป็นการขับรถระยะทางยาวที่แทบไม่รู้สึกเหนื่อยเลย เพราะรู้ดีว่าขับให้ใครนั่ง .. อิ อิ อิ
เรื่องนี้ยังอีกยาว และถึงหลายตอนก็ดูจะจบยาก .. คนไชยาจะบุกสวนป่าในไม่ช้า .. รวมทั้งแปลงนาของท่านเล่าฮู ก็ไม่น่าจะรอดพ้นจากการถูกบุก ..
แคว๊ก ๆ ๆ
-กำลังจะโทรฯไปถามสาระทุกข์สุกดิบด้วยความห่วงใย เปิดมาเจอบันทึกบนลานก็เลยเบาใจไม่ต้องโทรศัพท์แล้ว…แสดงว่ายังสบายมาก…นั่งเขียนบันทึกได้ถึงตี 2…อิอิ
-ก็กลับมาสู่อ้อมอกสวนป่าแล้วทุกอย่างก็คงจะHappy…Happy…Happy…ในโอกาศนี้ป้าจุ๋มถือโอกาศอวยพรปีใหม่แด่ครูบาและแม่หวีด้วยค่ะ…ขอให้โชคดีปีใหม่ 2553…ขอให้ท่านทั้งสองมีสุขภาพพลานามัยที่ดี ตลอดปีและตลอดไป…จะคิดหวังสิ่งใดก็ให้สมความปรารถนาทุกประการค่ะ…อยู่ไหนๆก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา…รักบ้านเรา…ความสุขที่แท้จริงก็คือมีคนใกล้ตัวให้ได้รักได้ดูแลกัน…อบอุ่น…ค่ะ