คลื่นรักท่วมเกาะภูเก็ต
(ท่านอัยการปูพื้นฐานให้เราดังที่กล่าวแล้วก่อนหน้านี้)
เมื่อ5ปีที่แล้ว วันที่ 26 ธันวาคม
มหันตภัยสึนามิบุกถล่มเกาะภูเก็ตวอดวายอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เป็นโศกนาถกรรมที่นุษย์ชาติยากจะลืมเลือน
แต่มาปีนี้..พายุรักบุกถล่มเกาะภูเก็ตอย่างถล่มทลายไม่แพ้กัน
ความรัก ความปรารถนาดี ยกพลขึ้นบกที่เกาะสวรรค์แห่งนี้อย่างคับคั่ง
ถนนทุกสาย ยานพานะทุกประเภท บรรทุกความชื่นมื่นมาเปี่ยมล้นหัวใจ
เป็นงานที่เกี่ยวดองสายญาติฝั่งทะเลอันดามัน กับทะเลฝั่งหาดใหญ่ สงขลา
อัยการจึงแทบจะปิดเกาะภูเก็ตจัดงานให้ลูกชาย-ลูกสะใภ้ สุดที่รัก
คนสกุลเฮ นอกจากจะเป็นนกรู้แล้ว ยังตั้งใจที่จะมาต่อยอดความรักปักใจหมาย ป้าจุ๋มชวนจองตั๋วสายการบินอีแร้งแก่ตั้งแต่ปีมะโว้ ทำให้เราต้องขอบคุณตัวเองหลายครั้งที่ตัดสินใจแน่่วแน่มาโดยตลอด ทำให้เราได้เห็นการจัดงานพิเศษที่สุดในโลก ที่ใช่ว่าใครจะมีเงินก็จัดได้ ใครมีอำนาจก็จัดได้ คนที่จัดงานด้วยความรักของสังคมนั้นปรากฎเป็นจริงขึ้นแล้วที่ภูเก็ต ซึ่งยากมจะอธิบายว่ามันอลังการณ์และสมบูรณ์แบบอย่างไร ถ้าไม่ได้เอาหัวใจมาสื่อรับด้วยตัวเอง อย่าว่าแต่โม้ แม้ผมตั้งใจโม้ก็ไม่ถึงครึ่งของความเป็นจริง งานที่ทำให้คนน้ำตาซึมทั้งงาน งานที่ทำให้ความรักกระจายทั่วเกาะ ทุกคนอาสามาช่วยทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ..
พิมพ์บัตรเชิญครั้งแรก 700 ใบ พิมพ์ชื่อ..จ่ายไปจ่ายมาไม่พอและไม่ถึงครึ่ง
ขอเพิ่มอีก (เจ้าของโรงพิมพ์แอบยิ้มอยู่ในใจ ..ทำไม่สั่งน้อยจังวะ)
ได้บัตรเชิญมาอีก 300-400 ใบ
แขกคุณพ่อ-คุณลูก-คุณญาติผู้ใหญ่ ทะยอยความสำคัญออกมาเรื่อยๆ
หมดไป 1000 ใบ ตัดสินใจว่าพอแล้ว
แขกสายอัยการ สายปกครอง สายพ่อค้าคณบดี สายญาติ สายเพื่อน สายมิตรไมตรี
ยอมตัดใจไม่เชิญแขกที่หลายสำนัก..
สั่งปิดภัตตาคารไทนานที่กว้างขวางของเกาะแห่งนี้
เตรียมรับญาติที่รักหลายพันคน
และแล้วก็มีเสียงโทรฯเข้ามาตลอดเวลา ..ด้วยความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยาวนาน
ได้ข้อสรุปว่า..ไม่ได้บัตรเชิญก็ต้องมา ไม่งั้นค้างคาใจตายเลย
แม้แต่ชาวเฮนี่ก็เถอะ..ไม่มีใครได้รับบัตรเชิญหรอก
เพราะอัยการชาวเกาะ..ใช้..หัวใจเชิญ !! แคว๊กๆๆ
ผมขออนุญาติเล่าให้ฟังเท่าที่ความตื่นเต้นจะไม่กระแซะความจำตกหล่น ผมคิดว่าเราได้เรียนภาคสังคม ประวัติศาสตร์ จารีตประเพณี วัฒนธรรมแดนใต้ ความพิเศษที่คาดไม่ถึง.. ตลอดจนได้เห็นอานุภาพที่ทรงพลังของความดี ที่ตระฏูลทองตันสะสมเก็บเล็กเก็บน้อย ทบเท่าทวีคูณพอกพูนความงดงามของชีวิตและหน้าที่การงานเพื่อสังคม เราพูดถึงความดีและการทำความดี ซึ่งถ้าทำจริงทำให้ถึงจุดหมายจุดที่ความดีเปล่งประสิทธิภาพ ความดีที่สะสมไว้ก็พร้อมที่จะคืนความดีให้อย่างมหัศจารรย์ ผมคิดว่าเราได้เห็นอานุภาพของความจริงเชิงประจักษ์ ทำดีได้ดี งานนี้ฟันธงให้เห็นจะๆ
(ในภาพถ่ายได้แค่เศษ1ส่วน4 ของแขกที่มาในงาน)
ผมมองเบื้องหลังจากจัดงานที่พร้อมสรรพได้อย่างน่าอัศจจรย์ ด้วยความทึ่งอึ้งกิมกี่ ขนาดเราเป็นแขกยังระทึกใจ เราได้เห็นการแต่งกายชุดสตรีของสาวใต้ขนานแท้ นุ่งผ้าลวดลายสวยๆเสื้อจีบระบาย..สวยประทับใจจริงๆ แขกเป็นพันๆนั่งเต็มห้องโถง ขณะเดียวกันก็มีแขกเดินเข้ามาไม่ขาดสาย เจ้าภาพแบ่งหน้าที่กันต้อนรับ ใครรับแขกต่างประเทศ รับแขกผู้ใหญ่ รับแขกทางไกล รับแขกพิเศษ มีแม้กระทั้งแขกที่เป็นคุณหนูๆทั้งหลาย จะมีห้อง-มีอาหาร-มีของเล่นแจก ทุกเพศทุกวัยทุกสถานะทางสังคมต่างได้รับความอิ่มเอมใจทั่วหน้ากัน ดีใจที่ได้เจอหมอเจ๊กับโกเหลียงและเขียว น้าแป๊ดยกกันมาทั้งบ้าน อาหารเครื่องดื่มเพียบ ส่วนมากจะเหลือเพราะแขกตะลึงกับบรรยากาศจนลืมเจี๊ยะ อิ อิ..ถึงกระนั้นก็เถิด ท่านอัยการยังเล่าควันหลงว่ามีแขกเข้าใจผิดคิดว่างานเลี้ยงตอนเย็น เหมือนที่เขาจัดงานวิวาห์ทั่วไป เมื่อมีแขกตกค้้าง ต้องเปิดภัตตาคารเลี้ยงแขกหลงเวลาอีกยกหนึ่ง แต่อัยการชาวเกาะเสียอย่าง มีอิทธิพลความรักท่วมท้นจึงรับลูกได้ทุกสถานการณ์ ซุ๊ดยอดจริงๆ
(โกไข่มอบเพลงหลวงพ่อแช่ม คู่บ่าวสาวเดินไปกราบหุ่นหลวงพ่อแช่มเพื่อเป็นสิริมงคล ..พอดีทุกย่างก้าว)
ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวระหว่างอวยพระคู่บ่าวสาวว่า
นึกว่าหลงมางานคอนเสริตส์ะดับโลก
เป็นข้อสรุปบรรยากาศในงานได้ตรงข้อเท็จจริงอย่างที่สุด
นับแต่ก้าวแรกที่เยื้องย้ายเข้ามา
เราจะเห็นนิทรรศการความสัมพันธ์เป็นขั้นเป็นตอนที่จัดไว้มุมทางเข้า
มีบอร์ดติดภาพ สมุดภาพ มุมถ่ายภาพ
ข้างในมีโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยผู้มีเกียรติจำนวนมาก
ด้านหน้าเวทีมีสีสรรด้วยจอถ่ายทอดสด
การแสดงรัีวิวชุดเด็ดๆของเยาวชนและหนูๆแต่งตัวชาวเกาะมาร่ายรำประกอบเพลง
มีโฆษกสาวสวยเสียงดีเชิญชวนให้เราพบกับรายการที่ร่ายเรียงมาอย่างเหมาะเจอะ
พีธีไหว้รับขวัญหลานจากญาติสายเจ้าบ่าวติดต่อกันชั่วโมงเศษยังไม่จบ
คำว่า “สกุลทองตัน” กำลังเกิดปรากฎการณ์ “ทองเป็นตันๆ”
ทองทั้งนั้นไม่รู้กี่ร้อยกี่พันสาย แล้วอย่างอื่นอีกละ
บวกกับญาติทางฝ่ายเจ้าสาวแล้วพีธีไหว้ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
ในระหว่างการประกาศเชิญญาติผู้ใหญ่เข้าเจี๊ยะเต้ บนเวทีก็มีการร้องเพลงซึ้งๆจากโกไข่และคณะ ซึ่งเป็นทีมงานดนตรีมืออาชีพจากค่าอาเอส โกไข่เป็นน้องชายท่านอัยการ ท่านคนนี้ละครับละครับที่แต่งเพลง “กอด” ให้ชาวเฮ โกบอกว่าเดี๋ยวนี้มีคนเอาไปร้องกันเกร่อ โกไข่และเพื่อนๆได้มอบเพลงพิเศษให้กับหลานรักทั้งสอง เดี่ยวแซกโซโฟน นำเสียงเพลงเดินไปยังโต๊ะต่างๆ มีนักร้องรับเชิญหลายคน รวมทั้งน้องสาวของแป้งที่ชนะเลิศประกวดไงละครับ สลับฉากด้วยการแสดงหลายชุด
(ครวญเพลงรับขวัญลูกสะใภ้ นี่แหละสไตล์อัยการ)
บ่อน้ำตาแตกก็มาตอนที่พ่อแม่ทั้ง2ฝ่ายขึ้นเวที
พ่อเจ้าบ่าวอวยพรให้ลูกด้วยเสียงเพลง
อัยการนั้นร้องเพลงได้ไม่ไม่แพ้นักร้องอาชีพ
ถ้าไม่เป็นอัยการไปเปิดค่ายเพลงก็คงฮือกระเจิงไปนานแล้ว
ผมจำเนื้อเพลงได้กะท่อนกะแท่น
..ขอให้รักกันนานๆ ให้น้ำตาลแพ้ความหวานหัวใจ
ขอให้ดูแลกันตลอดไป นานๆๆ
(เธอจะรู้ไหมหนอ ว่าได้ทำให้สาวหาดใหญ่ขายดีแน่ๆ)
เจ้าบ่าวน้ำตาหยดแม๊ะ เจ้าสาวเอาผ้าเช็ดน้ำตาให้แล้วก็เช็ดหยดน้ำแห่งความปลื้มปิติของตนเอง
ผมซึ่งเป็นแขกจากทางไกลยังอดที่จะน้ำตาเล็ดไม่ได้
เป็นงานพิธีวิวาห์ที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่จะเป็นตำนานให้คนภูเก็ตกล่าวขานตลอดไป
ขอบคุณท่านอัยการและสายญาติแซ่เฮชาวภูเก็ต
ถ้าจะจัดงานแต่งลูกเขยเราจะมาอีก
ขอแสดงความชื่นชมที่จัดงานสำเร็จด้วยความเรียบร้อยทุกประการ
ขอให้คู่บ่าวสาวรักงอกงามและเจริญๆทุกๆด้าน
ขอให้อัยการและคุณแอ๊ดหายเหนื่อยเร็วๆ
แคว๊กๆๆ..
« « Prev : ครู Km.ที่โรงเรียนสตรีภูเก็ต
5 ความคิดเห็น
เอ…ผมต้องหัดร้องเพลงซะแล้วซิ ปกติผมวิ่งหนีไมค์ทุกทีที่มีงานบังคับให้ต้องร้องเพลง
เพราะเสียงผมเหมือนโอ่งแตก ดูวีดีโอคลิบที่ คอน เอามาลงไว้เมื่อคืนนี้แล้วก็ซาบซึ้งไปด้วย
อิอิ มดเดินท่วมเกาะภูเ้ก็ตเหมือนที่พ่อครูบาบอก แบบ..อลังการณ์งานสร้างจริง ๆ ค่ะ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ดีใจที่ได้ไปในครั้งนี้ ดีใจไปกับท่านอัยการ และพี่แอ๊ด ขอบคุณมาก ๆ สำหรับทุก ๆ อย่าง รวมทั้งขอบคุณพี่อร และโกเอกด้วยค่ะ
หายเหนื่อยแล้วครับ แต่ปวดหลัง เมื่อวานก็ไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายเกือบหมดแล้ว แถมเขาไม่เอาค่าใช้จ่ายด้วยคำพูดที่ว่าจะทำให้หลานไม่ได้หรือไง ก็เลยพูดไม่ออก ซาบซึ้งใจกับพี่ๆหลายท่านที่มาจาก กทม.ตอนเช้าเข้าร่วมงานเสร็จก็เดินทางกลับเลย ถ้าเขาไม่รักเราจริงเขาคงไม่มา แถมชาวลานที่นี่ยังไปล่วงหน้าได้กินได้คุยได้เที่ยวด้วยกันมันเป็นความรู้สึกอย่างแท้จริงผูกพันว่านี่ญาติมางานอย่างแท้จริง
ของหวานแปะก๊วยกับลำไย ร้านเอ็นซีเบเกอรี่บอกว่าทำมาให้หลานไม่ยอมคิดค่าใช้จ่าย
ขนมกาละแมและขนมในงานเขายกมาช่วยเฉยๆไม่ยอมคิดค่าใช้จ่าย
อุทยานอาหารไทนานทำกับข้าวสุดฝีมือ คนภูเก็ตพูดว่าอาหารงานนี้อร่อยเพราะอาหารจำนวน ๑๔๐ โต๊ะถ้ามือไม่ถึงจริงคงไม่อร่อย ผมกินข้าวเมื่อบ่ายสองโมงกว่า ยังนึกชมไทนานเลยว่าทำให้งานเรามีความสมบูรณ์
ไวนิลรูปทะเลก็ไม่ยอมคิดเงินเพราะตั้งใจให้เป็นของขวัญหลาน
เนติืกับเจ้าสาวได้ทองหลายเส้น ได้เงินเก่าเก็บเป็นแบงค์เก่าหลายราคา เงินช่วยงานเยอะมากขอบอก…คนที่ไปร่วมงานต่างพูดกันว่าคนรักผมจริง ตื้นตันใจครับ
อ้อ..หลังจากผมเข้ากลุ่มญาติแซ่เฮ คุณแอ๊ดแจกกอดเขาไปทั่วแล้ว อิอิ
เสียดาย โกไข่ ไม่ได้ร้องเพลง “กอด”