อ่อมแซบจานร้อน
อ่าน: 11282ถ้าเราตั้งเป้าว่าจะเรียนรู้เรื่องใหม่ๆสักวันละ1เรื่อง
ครบหนึ่งปี เราจะได้ชุดความรู้ใหม่เพิ่มขึ้นถึง300-400เรื่อง
และถ้าออกแบบวิธีเจาะความรู้ ดึงเอาความรู้มาสู่หม้อข้าวหม้อแกง
สามารถเพิ่มผักผัดไฟแดงให้คอข้าวต้มที่แสนอร่อยขึ้นมาอีกหนึ่งเมนู
แล้วบริหารความรู้ให้กระโดดโลดเต้นเป็นตััวหนังสือในหน้ากระดาษ ในสื่อต่างๆเผยแพร่ไปสู่เพื่อนร่วมโลก
คิดดูเถิดว่าชีวิตนี้จะมีความหมายประมาณไหน
เรื่อง นี้คิดแล้วผมกระโดดลงจากเตียงเลยนะครับ เพราะโจทย์วันนี้คือพืชล้มลุกชนิดหนึ่ง ที่แอบเข้ามาในสวนเมื่อประมาณ3-4ปีมาแล้ว มาถึงก็แพร่ขยายพันธุ์ไปทั่ว ประกอบกับไม่มีหนามเมล็ดไม่มียางเหนียว หรือไต่ยั๊วเยี้ยสร้างความรำคราญให้กับพืชชนิดอื่น ผมจึงมีความรู้สึกที่ดีกับพืชที่มาอาศัยอยู่ใหม่นี้ สังเกตุอยู่เงียบๆ วันหนึ่งเดินไปเห็นมันแพร่ระบาดทั่วไปงอกงามดีเหลือเกิน จึงบอกคนงานลองตัดไปเลี้ยงหมู คนงานบอกว่า..เฮียไม่รู้อะไร ..เจ้านี่เขาเรียกว่า “อ่อมแซบ” เป็น ผักอ่อมยอดฮิตของคนอีสาน ผมฟังแล้วก็งั้นๆแหละ เพราะเห็นว่ามันเป็นผักพื้นๆเกิดง่ายตายาก จะกินเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นความรู้สึกที่อ่อนด้อยเรื่องการสัมผัสความรู้อย่างละเอียด เหมือนกับเรื่องของมะรุม เห็นแต่อ้อนแต่ออกจึงเฉยๆ มารู้ที่หลังว่ามันมีคุณสมบัติระดับพระกาฬ ก็ตาลีตาเหลือกปลูกจ้าละหวั่นตามอาการของคนเซ่อ..
ด้วย ความคิดที่โง่เขลานี่เอง ทำให้โอกาสที่จะได้ชิมผักสุดยอดล่วงเลยไป จนกระทั้งเมื่อคืนนี้ อ่านเจอในหนังสือ บอกว่าอ่อมแซบนี่นะ นอกจากจะรับประทานเป็นผักแล้ว เขายังเอาไปปั่นทำน้ำดื่มสมุนไพรรักษาโรคได้ผลดีอีกด้วย อ้าว อ้าว ! แบบนี้เห็นทีจะชักช้าไม่ได้แล้ว กระโดดลงเตียงแล้วไปเดินท่อมๆสำรวจ ได้ประเด็นมาคิดและทำต่อดังนี้
- ศึกษาสภาพทั่วไปเบื้องต้น ว่ามันเกิดบริเวณไหน กินพื้นที่เท่าไหร่ มีปัจจัยแวดล้อมหรือเอื้อต่อการเติบโตอะไรบ้าง
- ศึกษาโรคแมลงมีรบกวนไหม พบว่าอ่อมแซบเป็นพืชที่ไม่มีแมลงเตะต้อง จึงเจริญงอกงามดีกว่าวัชพืชตัวอื่น
- ศึกษาการขยายพันธุ์ อุปนิสัยของพืช ข้อจำกัด และตัวแปรต่างๆ
- เท่าที่ประเมินหยาบๆพบว่าทนแล้งได้ดีในพื้นที่ดินทราย แม้ฝนทิ้งช่วงไป22-3เดือน ใบก็ยังเขียวแตกกอกิ่งก้านหนาทึบ
- เป็นพืชที่ไม่มีหนาม หรือเมล็ดมียางเหนียว ไม่ไต่ยั๊วเยี้ยวไปรบกวนพืชที่อยู่ใกล้เคียง
- คุณค่าทางอาหารเบื้องต้น คนกินได้ หมูกินดี นกกระจอกเทศกินเพลิน
- คุณค่าทางด้านสมุนไพร ควรเร่งค้นคว้าด้านเภสัชจากระบบสืบค้นในเน็ท ถามผู้รู้ อ่านหนังสือ วิจัยด้วยตัวเอง
- หาวิธีการกระจายความรู้สู่ชุมชน
เมื่อได้โจทย์แล้ว
- ผมหาวิธีชิมผักชนิดนี้ครั้งแรกในชีวิต ด้วยการเด็ดผักมาลวก 1 กำมือ ชิมทั้งเนื้อผักและน้ำต้มผักพบว่า
- กลิ่นเหมือนผักทั่วไป ไม่เหม็นเขียว รสชาติดี ลวกแล้วอ่อนนิ่ม ผักปวยเล้ง ยอดฟักแม้ว ถึงขั้นตกจานเลยละครับ
- เหมาะที่จะเอาไปปรุงแกงจืด แกงเลียง อ่อม รองจานนึ่งปลา ลวกเป็นผักจิ้มน้ำพริก ผัดไฟแดงกะทะร้อนกินกับข้าวต้ม
- เหมาะที่จะนำไปปั่นเป็นดื่มสมุนไพรดื่ม จะปั่นเดี่ยวหรือผสมอะไรบ้างต้องถามผู้สันทัดกรณี
- ทดลองเก็บใบมาตากแห้ง ทำใบชาชิมต่อไป
- เปิดสปริงเกอร์ทุก3วัน รดน้ำให้ชุ่มเพื่อดูอัตราการงอกงามในช่วงแล้งและการเจริญทั้งปี
- ผมจะหาวิธีผักไฟแดง-ต้ม-แกงให้อร่อย แล้วจะเชิญคอข้าวต้มมาดวลฉลองในวันปีใหม่
- เตรียมเก็บเม็ลดพันธุ์ เพื่อส่งเสริมเผยแพร่ไปทั่วโลก
จบข่าว บอกเล่าเฉยๆ ก่อนเขียนนี่ผัดชิมแล้วนะครับ ถ้าใครแต่งงานสั่งผัดอ่อมแซบขึ้นโต๊รับรองดังระเบิด
แคว๊กๆๆ
« « Prev : คนเรานี่หนอ..ไม่รู้จะจุ้นไปถึงไหน?
Next : ตอบหมอเจ๊ เรื่องสืบเนื่องอ่อมจนแซบจริงๆนะ » »
5 ความคิดเห็น
สุดยอดค่ะ ทั้งเรียนรู้ วิเคราะห์ วิจัย เผยแพร่ ทำจจิง ใช้จริง ระวังเขามาชวนไปเป็นอะไรเพิ่มอีกเน้อ..อ่ะจ๊ากกก อิอิ อิอิ
ถ้าป้าหวานมาเยี่ยม จะผัดอ่อมแซบไฟแดงสุดฝีมือเลี้ยง
ใครมาชวนไปไหนเป็นอะไร ยกธงขาวแล้วละครับ
แคว๊กๆ
ผู้ที่รู้จักผักชนิดนี้ชนิดว่าเป็นเพื่อนซี้กัน คือ เครือข่ายที่มาเยี่ยมพ่อครูหลายครั้งแล้ว ทีมศีรษะอโศกนั่นแหละค่ะ ลองถามอาจารย์ขวัญดินดูนะคะ น่าจะได้รายละเอียดเพิ่มเติมถึงประโยชน์และคุณค่า
ผักชนิดนี้ปลูกง่ายตายยาก ทนแล้งได้ ยิ่งได้น้ำ ยิ่งโตงาม เคยปลูกที่บ้านแบบใช้ดินไม่มากแค่ติดต้นกระถางก็สามารถขึ้นได้ดี
ไม่แน่ใจว่าปลูกใกล้น้ำจะขึ้นได้หรือเปล่า แต่เดาว่าน่าจะงามกว่าลปูกบนดินค่ะ เมื่อก่อนเคยปลูกวางใกล้รางน้ำฝน หน้าฝนงามขึ้นมาเป็นกอใหญ่สูงเหนือเข่าเลยค่ะ ทั้งๆที่ปลูกลงไปแค่ก้านเดียวเอง
เคยเห็นดอกสีเหลือง ใบคล้ายๆอ่อมแซบสีม่วง ไม่แน่ใจว่ากินได้หรือเปล่า เพราะที่เคยเห็นคนของศีรษะอโศกกินเป็นดอกสีขาว
หากพ่อครูเจอคนของศีรษะอโศก ลองแลกเปลี่ยนดูนะคะ ว่าอ่อมแซบที่ให้ดอกสีอื่นกินได้มั๊ย
ใช่แต่ป้าหวานที่เป็นห่วง หมอเจ๊ก็เป็นห่วง เพราะว่าแทบจะไม่มีข้อมูลการวิเคราะห์ด้านวิทยาศาสตร์ที่บอกใ้ห้รู้ด้านโทษ แบบจะจะ คนทั่วไปกินเป็นผักนั้นโอเคอยู่ แต่คนที่ต้องเลือกกินควรรู้ด้านโทษของมันไว้บ้าง เพื่อจะได้ป้องกันผลที่ไม่ต้องการได้ค่ะ
สรรพคุณนะถ้าดูแค่เป็นผักใบ เขียวก็โอเคค่ะ มีคลอโรฟิลล์ที่มีฤทธิ์ช่วยเรื่องสุขภาพ สำหรับกินลดน้ำตาลสำหรับคนเบาหวาน ก็ให้ฤทธิ์เหมือนผักทั่วไป กินผักมากลดน้ำตาลได้ เป็นตรรกะที่เป็นจริงได้อยู่แล้ว
มีสิ่งที่ ไม่รู้เกี่ยวกับผักยังมีมาก อย่างเช่น ปริมาณเกลือแร่ที่อาจจะเป็นโทษสำหรับบางโรค แทบจะไม่มีข้อมูลให้ค้นและอ้างอิงแบบวิทยาศาสตร์ได้เลย สำหรับคนที่มีอวัยวะสำคัญต้องดูแลป้องกันไว้ให้ดี ยังต้องการความรู้ตรงนี้ค่ะ
สรุปว่ากินนะกินได้แน่ แต่ปลอดภัยสำหรับปัจเจกบุคคลแค่ไหนยังแบะ แบะ ในบางเรื่องค่ะ พ่อครูคุยกับศีรษะอโศกดูนะคะ เผื่อจะมีข้อมูลเชิงลึกที่ไม่ได้มาจากแค่ความเชื่อหรือทำตามๆกันมาค่ะ
ขอบคุณหมอเจ๊มากที่เตือนสติเรื่อง ผลข้างเคียงของผักแต่ละชนิด