หมายเหตุ:ว่าด้วยเรื่องกอดล้วนๆ
อ่าน: 2200
ผมไม่รู้ว่าในหมู่ชาวเฮเกิดธรรมเนียมการกอดขึ้นมาอย่างไร ไม่มีใครพูดถึงและริเริ่มขึ้นมาก่อน จู่ๆก็มีขึ้นมาตามธรรมชาติ ทำให้เรามีวัฒนธรรมองค์กรในเรื่องนี้ การกอดเกิดขึ้นแล้วและเป็นไปตามสถานการณ์และเหตุการณ์ เป็นสัญลักษณ์ประจำเผ่า เป็นแรงบันดาลใจที่แสดงออกถึงความยินดี ส่งมอบความประทับใจให้แก่กันในยามที่ได้พบและอำลา กอดเป็นใบอนุญาตแห่งคุณค่าที่เปี่ยมสุข เป็นสัญลักษณ์ว่าเราเป็นญาติกันนะ ผมจำกอดแรกได้เสมอ และจำได้ว่าประทับใจอย่างไร
(จัดวงโสทนาแบบอยู่บ้าน จะนั่งจะนอนย่อมได้ สบายๆแบบนี้มีที่ไหน?)
· กอดเมตตา เมื่อครั้งจัดเฮครั้งแรก มีประวัติศาสตร์หลายเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์ คราวนั้นเครือญาติสายใต้ใจถึงมาก แป๊ดกับเมตตาขนลูกหลานจากหาดใหญ่ขึ้นมาบุกอีสานอย่างทรหด มาถึงสวนป่าก็มืดสลัวแล้ว ผมออกไปรับที่หน้าบ้าน จำได้ว่าเมตตาถลาเข้ามากอดเป็นคนแรก กอดด้วยแขนข้างเดียวด้วยนะ มืออีกข้างยังอุ้มเจ้าตัวเล็กอยู่เลย หลังจากนั้นแป๊ดก็ลุยเข้ามากอดๆๆ..กอดเป็นใบเบิกทางที่ทรงคุณค่ากว่าตั๋วใบใดในโลกนี้
(กินกับกอดมาเป็นอันดับแรก)
· กอดหมอเบิร์ด มีคราวหนึ่งผมกับรอกอดไปรับหมอเบิร์ดที่หน้าโรงแรมเอเชีย เบิร์ดยืนรอที่หน้าโรงแรม พอเห็นพ่อก็ถลาเข้ามากอด ท่ามกลางสายตาพนักงานและผู้คนที่สัญญาจรไปมาพลุกพล่าน ทุกคนก็ตาค้างนะสิครับ นอกจากจะสนเท่ห์แล้ว อย่างน้อยก็คงเห็นความสุขที่มนุษย์เผ่าพันธุ์นี้มีให้แก่กัน ฝรั่งบางคนอาจจะคิดว่าอย่างนี้ก็มีด้วย..และอยากจะมีอย่างนี้บ้าง ไม่แน่นะ ฝรั่งอาจจะเปลี่ยนการเช็คแฮนด์มาเป็นการกอดก็ได้
· กอดหมู หมูเป็นอาจารย์สอนอยู่วิทยาลัยพยาบาลสุพรรณบุรี บ่นนานแล้วว่าอยากจะมาสวนป่า วันหนึ่งเธอก็ขับรถลุยมาคนเดียว เพื่อมาพบปะพี่น้องชาวเฮที่มาชุมนุมรออยู่แล้ว จอดรถได้เธอก็โถมกอดแบบทิ้งทุ่นทั้งตัว คนตัวใหญ่โผกอดคนตัวเล็กแทบล้มไปด้วยกันทั้งคู่ เธอเป็นคนบ่อน้ำตาตื้น ประทับใจอะไรก็จะน้ำซึมออกตา บางทีการโถมกอดก็เป็นการถ่ายทอดความตั้งใจที่ได้พยายามฝ่าฟันอุปสรรคมางานนี้จนได้ การกอดเป็นการบอกเล่าถึงจุดมุ่งหมายความตั้งใจที่ทำสำเร็จได้ดีกว่าการรำพึงรำพัน
· กอดดร.วรภัทร ภู่เจริญ หรือพระอาจารย์ไร้กรอบ เจอกันครั้งใดก็จะกอดๆๆ คนที่น้ำหนักใจเท่ากันก็จะใช้วิธีกอดเป็นพิธีกรรมโดยธรรมชาติ ซึ่งมีคุณค่าไม่น้อยกว่าการไหว้หรือการเคารพกันด้วยวิธีอื่น ที่จุดประกายใจอย่างเนียนด้วยกันทั้ง2ฝ่าย แม้แต่กอล์ฟเอง ศิษย์เอกของพระอาจารย์ มาหาที่ห้อง ก็ขอกอดพ่อก่อนกลับทุกครั้ง บางทีลืมยังทวงกอดอีกแน๊ะ..
· กอดอุ้ย เจอกันครั้งแรกก็ได้รับกอดแล้ว ในงานนัดพบชาวบล็อกที่เชียงใหม่ พวกเราหน้าใหม่ๆมาเจอกัน ต่างกอดมะรุมมะตุ้มถ่ายรูปกันอย่างชื่นมื่น บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข อุ้ยเดินมาข้างหลังบอกว่า..ขอกอดครูบาหน่อย เพราะเหตุที่จำกอดแรกได้ดีนี่เอง ในคราวที่ชาวเฮมาสวนป่าผมจึงเอาคืน..บอกว่าจะจัดงานมหกรรมกอดอุ้ย ก่อนที่จะขึ้นรถกลับ พวกเรามารอกันอยู่หน้าอาคาร อาจารย์Handyวิ่งไปเปิดเพลง”กอด” พวกเราขยายวงออก อุ้ยหันมามอง..นึกว่าครูบาพูดเล่น จะเอาจริงๆหรือนี่ ..และแล้วอุ้ยต้องเดินกอดและโดนกอดไปรอบวง เป็นการจากลาที่วิเศษมากเลยใช่ไหมอุ้ย ทริปนี้เล่นเอาตัวและหัวใจน่วมไปเลย อิ อิ..
· กอดครูอ้อย ครั้งหนึ่งมีการนัดพบกันที่ภัตตาคารสกายไฮที่ราชดำเนิน สมาชิกที่อยู่กรุงเทพมากันมากหน้าหลายตา ครูอ้อยก็มาเฮฮาด้วย คนที่มาถึงก่อนก็จะนั่งรออยู่ที่โต๊ะส่ายตามองหาเพื่อนที่จะตามมา ใครเดินเข้ามาก็จะลุกขึ้นกอดต้อนรับเรียงลำดับทุกคนไป แขกที่มากินอาหารคงแปลกใจ ทำไปคนกลุ่มนี้กอดกันได้กอดกันดี ไม่เลือกที่และกาลเวลา เจอหน้าเป็นกอดและกอด.. ทราบว่ามีคุณครูหลายท่าน เอาพัฒนาการกอดไปใช้กับลูกศิษย์ตัวจ้อย กลายเป็นครูในดวงใจไปก็ไม่น้อย เรื่องนี้ต้องถามครูคิม จะมีประสบการณ์ตรงไว้หลายเข่ง
· กอดลุงเอก เป็นมหกรรมการกอดครั้งใหญ่ ตอนที่เราจัดประกวดภาพถ่ายกันที่สวนป่า ครั้งนั้นมีอาจารย์แป๋วมาเป็นกรรมการตัดสินด้วย ในระหว่างแจกรางวัล นอกจากจะได้รับโล่จากลุงเอกแล้วยังได้รับกอดและหอมแก้มแถมอีกด้วย หมอจอมป่วนโดนเข้าไปเต็มๆ ฮาครืนกันยกใหญ่ ลุงเอกเป็นผู้ใหญ่อารมณ์ดี กอดเมื่อไหร่มีภูมิคุ้มกันสลายความเหงาเมื่อนั้น เจ้าหนูจิจึงชอบและใครๆก็ชอบกอดลุงทั้งนั้น เมื่อไหร่ลุงเอกจะว่างมาให้กอดอีกก็ไม่รู้เน๊าะ อิ อิ..
· กอดคนชื่ออึ่ง ในสาระบบมีครูอึ่งกับน้าอึ่ง ทำไมมีต่อคำว่า”อ๊อบ”ก็ไม่รู้นะ 2อึ่งนี่เป็นบรรทัดฐานเลยว่าจะไม่ลืมกอดทุกครั้งไป เป็นกอดญาติผู้ใหญ่เบาๆ แต่น้าอึ่งนี่พิเศษกว่านั้น กอดแล้วยังลูบพุงอีกต่างหาก ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ ลูบพุงก็เหมือนลูบใจนะน้านะ คิ คิ..
· กอดลูกหว้า คนอื่นเขากอดเบาๆ มีอาจารย์ลูกว่านี่แหละกอดแบบงูเหลือม มาถึงก็กอดขวับหนักแน่นเหมือนพวกมวยปล้ำ ยังดีที่กอดไม่นานรีบคลาย ไม่งั้นตับไตไส้พุงเคลื่อนหมด กอดของลูกหว้ามีเอกลักษณ์เฉพาะให้จดจำ หมู่นี้หายหน้าไป บ่นว่างานหนัก หรือว่าไปตกหลุมรักหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้นะ ช่วยเขียนเล่าในบล็อกหน่อยคนสวย พวกเรายังคิดถึงกอดลูกหว้าอยู่นะจ๊ะ
· กอดครูปู ครูปูนี่นอกจากจะกอดกันเองแล้ว ยังสั่งให้เป็นตัวแทนไปกอดใครๆได้ดั่งใจปรารถนา Logosชื่อก็พ้องแต่ใครๆไม่กล้ากอด ได้หมอเบิร์ดกับครูปูนี่แหละเป็นมือพิฆาต..ไปตลุยกอดสำเร็จทุกครั้ง ถ้ากดปุ่มเป็นได้เรียกเสียงฮา ความสุขไหลมาเทมาอย่างทะลักทะลาย ใครๆก็ยากที่จะรอดนักกอดมืออาชีพประจำเผ่าเฮไปได้ ..สั่งมาโลดจะให้ไปกอดไผ รับประกันความผิดพลาดและผิดหวัง100%
· กอดอัยการ อัยการเป็นคนร่างสูงใหญ่ ถ้ากอดคนตัวเล็กจะต้องโน้มตัวลงมากอดอย่างทะนุถนอม เหมือนครูอนุบาลกอดลูกศิษย์ เพลงกอด ที่อัยการกรุณาแต่งให้อย่างไพเราะ ได้อธิบายความมุ่งหมายของการกอดตามสไตล์ของชาวเฮอย่างสมบูรณ์ สะท้อนถึงความสุขและมิตรไมตรีที่มวลมนุษย์มีต่อกัน เป็นธรรมเนียมชาวเฮเชิงสัญลักษณ์ไปแล้ว เพลงนี้ถ้าได้เข้าตลาดดนตรี อาจจะดังไม่รู้เรื่องไปแล้วก็ได้
ยังมีอีกหลายกอดที่ฝากไว้ก่อน
ถ้าเขียนถึงทั้งหมดก็จะยาวเกินควร
จึงขอขยักไว้เล่าในตอนต่อไป
..แต่นี้ไปก็ขอให้รักกันไว้ให้มั่น
อย่าเอาจุดเล็กจุดน้อยมากระแซะจุดพิเศษที่เราช่วยทะนุบำรุงกันมา
ขอให้เห็นประโยชน์สุขของมวลชนแห่งชาวเฮเป็นที่ตั้ง
งอนได้แต่พองามจะน่ารักที่ซู๊ด! ขอบอก
แคว๊กๆ..
« « Prev : กินง่ายอยู่ง่ายตายสบาย
3 ความคิดเห็น
“ผมไม่รู้ว่าในหมู่ชาวเฮเกิดธรรมเนียมการกอดขึ้นมาอย่างไร ไม่มีใครพูดถึงและริเริ่มขึ้นมาก่อน” มีบันทึกใน GotoKnow เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2549 พูดถึงการกอดกันอุตลุดในงานมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติ คร้งที่ ๓ ที่ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ผู้เขียนบันทึกนั้น ยังงงสงสัยว่ากอดใครได้ กอดใครไม่ได้; แล้วก็มีบันทึกตรงประเด็นเรื่อง “พลังของการกอด” (พร้อมทั้ง 68 ความคิดเห็น) อยู่ในบล็อกของขวัญจากวันวานเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2550 ครับ
ขอบคุณครับที่ค้นตำหรับกอดฉบับปฐมฤกษ์มาให้
หมอเบิร์ดเขียนเรื่องนี้ได้ดีจริงๆ ด้วย ขอตีมือให้2แปะ นะเบิร์ด นะ
ฐานข้อมูลของ GotoKnow ผมมีแบ็คอัพอยู่จนถึงประมาณกลางปี 2551 จึงค้นบันทึกเก่าๆ ได้ แม้ว่าจะไม่มีรูปนะครับ — ผมค้นมาเฉพาะบันทึกที่มีชื่อบันทึกที่มีคำว่ากอด แต่ไม่ได้ค้นจากเนื้อความของบันทึกหรือความคิดเห็นที่มีคำว่ากอดหรอกครับ