วิชาตะบี้ตะบันศาสตร์
อ่าน: 1183
..เมื่อก่อนนี้มนุษย์เราใกล้ชิดกับธรรมชาติมาก ผูกพันและสัมพันธ์กับเรื่องดินฟ้าอากาศ ฤดูกาล น้ำขึ้นน้ำลง น้ำหลากน้ำไหลน้ำท่วมและน้ำใจ เกี่ยวข้องทั้งธรรมมะและธรรมชาติ มองไกลไปถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว บอกเสียเลย คืนนี้ที่ทิศดาวเหนือจะมีปรากฏการฝนดาวตก คาดว่าผู้ที่อยู่ในชนบทห่างไกลความสว่างจากไฟฟ้าริมถนน จะมองเห็นดาวตกชั่วโมงละ4-500ดวง แต่ต้องตื่นมาดูใช่ช่วงตี3-ตี4 จะเป็นช่วงที่ท้องฟ้ามีดาวตกมากเป็นพิเศษ..อย่าลืมชวนคนพิเศษมาดั่งดูด้วยกันนะครับ
..ครั้นมาถึงทุกวันนี้ มนุษย์พึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น ส่วนมากจะละเลยธรรมชาติ จึงไม่เข้าใจแก่นสารสำคัญๆที่ทำให้โลกดำเนินไปได้อย่างปกติ อากาศ น้ำ สภาพแวดล้อมจึงเน่ามากขึ้นๆ ต่างช่วยกันยำใหญ่ใส่สารพัดมนุษย์ยุคนี้จึงตกอยู่กับวงจรเถื่อนที่มองไม่เห็นตัว มันน่าแปลกใจไหมละครับ ความรู้ก็มาก เทคโนโลยีก็เยอะ แต่การดำเนินชีวิตย่ำแย่เต็มที อาจจะเป็นเพราะมีปัญหาการปรับสภาพวิถีชีวิตยังไม่สอดคล้องกับความพอดี คนยุคนี้จึงขาดแคลนความสุข บ่มทุกข์ หาเงินเพื่อไปจ่ายค่าหมอค่าโรงพยาบาลไปเรื่อยๆ แต่ก็ใช่ว่าสุขภาพจะดีขึ้น อมทุกข์อมโศกทั่วหน้า
เมื่อวานนี้มีคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมากินข้าวด้วย นัดกันหลายวันแล้วละครับ จนกระทั้งได้จังหวะมื้อเย็นที่ผ่านมา เครือญาติจำนวน10ท่าน ขนกับข้าวที่ซื้อจากร้านในตลาดมาวางเต็มโต๊ะ ละลานตาไปหมดจนไม่รู้จะเริ่มต้นชิมอะไร แต่พิจารณาแล้วอาหารเหล่านั้นแสลงโรคผมเป็นส่วนใหญ่ เป็นของทอดน้ำมันเยิ้ม ผัดแกงต่างๆรสจัด
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมเขมือบได้อย่างอร่อย
แต่เมื่อมาทดลองกินเพื่อสุขภาพแล้ว
ทำให้เราเห็นสภาพของปัญหา
เรื่องการอยู่การกินส่วนใหญ่คนไทยยังไม่ตระหนัก
เอาสะดวก-เอาอร่อย มากกว่าเอาสุขภาพ
สายญาติผมเหล่านี้ล้วนมีการศึกษาระดับดอกเตอร์
แต่..กำลังตกอยู่กับการกินแบบตอกตำสุขภาพของตนเอง
อาจจะเป็นยังไม่ล้มหมอนนอนเสื่อกระมัง
จึงยังไม่ฉุกคิดเรื่องการบริหารจัดการสุขภาพตนเองอย่างจริงจัง
นอกจากประเทศชาติจะอ่อนแอภาคเศรษฐกิจแล้ว
ความอ่อนแอเรื่องสุขภาวะชุมชนก็อ่อนไหวไม่น้อย
ไหนจะเรื่องการศึกษาอีกเล่า..
เกิดคำถามขึ้นมาว่า
..ตอนนี้เราอยู่กับความรู้อะไร?
ระหว่างที่นั่งเขียนต๊อกๆอยู่นี้
มีโทรศัพท์เข้ามา
เสียงทัก : สวัสดีคะ ตอนนี้อยู่ไหนคะ
ตอบ : สวัสดีครับ อยู่สวนครับ
ทัก : ปีนี้ไปลอยกระทงที่ไหนคะ
ตอบ : ไม่ได้ไปไหน อยู่บ้าน ลอยในจอคอมพิวเตอร์
ทัก : หนูก็ไม่ได้ออกไปไหน ช่วงนี้ไปกรีดตาทำ2ชั้น ดัดฟันด้วยคะ
ตอบ : อ้าว!เหรอ นึกยังไงละ แพงไหม?
ทัก : เพื่อนชวนคะ จ่ายไป 40,000 คะ
ตอบ : สวยขึ้นมากไหม
ทัก : ยังไม่ทราบคะ
ตอบ : เอาใจช่วยนะ ขอให้สวยวันสวยคืน
หลังจากคุยกันผมรู้สึกว่า คนเรานี้หนอ ..ให้ความสำคัญกับภายนอกมากกว่าภายใน อยากสวยง่ายๆสวยเร็วๆ ไม่ค่อยจะคำนึงถึงความสวยถาวร ต่อไปก็ไม่รู้จะชวนกันไปกรีดไปเย็บไปเฉือนอะไรอีก ไม่เจ็บไม่ป่วย แต่ก็ทำให้ตัวเองเจอมีดเจอเข็มจนได้ ไม่ยี่หระขอแต่ให้สวยบรรเจิด เท่าไหร่เท่ากัน ผมนะเสี๊ยวเสียว
ถ้าเพื่อนชวนไปกรีดหัวใจ
เธอคนสวยจะไปไหมนี่
เรามารณรงค์ความสวยภายในดีไหมครับ
ตอบตัวเองให้ได้ว่า
จะบริหารตับไตไส้พุงของตนเองให้ปกติอย่างไร?
จบข่าว
« « Prev : เล่าเรื่องยาว ๆ จากอุบล
6 ความคิดเห็น
สาธุ….อิอิ
สงสัยจะมาจาก ตักสิลา….555
อิอิ ทายแม่น
ยังไงๆคืนนี้ชวนกันนอนดึก
ตี4 เจอกันทางเจ๊าะแจ๊ะครับ
เอ สอบทานกับเว็บของสมาคมดาราศาสตร์ เขาว่าน่าจะเป็นเช้ามืดวันพุธ (18) หนึ่งชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นครับ ข่าวบางกระแส บอกว่าอาจมากกว่าฝนดาวตกปี 2541 ซึ่งปีนั้นหนาวมาก ครอบครัวผมไปดูกันบนเขาใหญ่
สำหรับผู้ที่จะถ่ายภาพ มีวิธีการตั้งกล้องที่นี่ครับ
เรียนพ่อครูบาฯ ตามที่ผมเมล์มาบอกว่า วันที่ 18-19 ผมเกิดติดต้อนรับท่านเลขา สปก.ที่เดินทางไปดูงานที่ดงหลวง ผมต้องต้อนรับท่าน เลยทำให้ไม่สามารถมารับพ่อครูเพื่อไปเจาะเลือดที่ห้องแลปป้าหวาน แล้วไปร่วมสัมมนาที่อุบลรัตน์ แล้วกลับมาขอนแก่นนั้น
ค่ำเมื่อวานนี้ท่านรองเลขา สปก. โทรมาหาผมว่าท่านเลขาเลื่อนการเดินทางไปสัปดาห์ถัดไป ผมก็หมดเงื่อนไขในการต้อนรับที่ดงหลวง
ก็สามารถมารับพ่อครูบาได้ตามกำหนดเดิมครับ คือเช้า 19 มารับที่สนามบินขอนแก่น ไปหาป้าหวาน ไปอุบลรัตน์ ไปขอนแก่น สนามบินกลับกรุงเทพฯ..
ยืนยันตามนี้นะครับ
รับทราบครับท่านบางทราย
คนวาสนาดีก็ยังงี้แหละ
ฟ้าดินหลีกทางให้..อิอิ
..หลังจากเจาะโลหิต
คณะจะไปโรงพยาบาลน้ำพองครับ
ตอนบ่ายคลายเครียดถึงจะขยับมาประชุมที่โรงแรมในขอนแก่น
ตอนเย็นๆเผ่นกลับ กทม.
ขอบคุณล่วงหน้า 2 ปิ๊บครับ