: เรื่องของชาวสาธารณสุก

โดย sutthinun เมื่อ 16 กันยายน 2009 เวลา 16:47 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 3020

” ในสายน้ำเดียวกันนี้ทำอย่างไรจึงจะเกิดสมดุล จะกลมกลืนกันได้ ทำอย่างไรเราจะออกแบบระบบสุขภาพ ซึ่งทุกฝ่่ายได้ประโยชน์และทุกฝ่ายมีความสุข หากเกิดระบบนั้นขึ้นได้ ผมเชื่อว่าจะกลายเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เกิดพลัง เกิดการเสียสละ เกิดสิ่งดีงามในระบบสุขภาพเราได้อีกครั้งเหมือนที่เคยเป็นอยู่”

ศาสตราจารย์ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย

วันนี้จะพาทัวร์ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ80พรรษาแบบแว๊บๆ ปกติผ่านไปผ่านมาแลดูห่างๆ ด้านนอก พอเข้าไปถึงรู้ว่าโอราฬมาก ตัวอาคารสร้างได้ดีกว่าสนามบินสุวรรณภูมิเสียอีก ที่อาคารรวมมีหลายหน่วยงานกระจายอยู่ในชั้นต่างๆ เมื่อก่อนประชุมกรรมการปฏิรูปสุขภาพแห่งชาติ ต้องนั่งเรือด่วนเจ้าพระยาจากท่าพระจันทร์ไปขึ้นท่าน้ำเมืองนนทบุรี แล้วรถเข้าไปอีกทอดหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว แถมยังย้ายมาอยู่ใกล้ๆ814 กระจุกกันอยู่ในบริเวณศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ กำลังก่อสร้างไปเรื่อยๆ ส่วนไหนเสร็จแล้วหน่วยงานก็ทยอยเข้ามา สถาบันพระปกเกล้าก็อยู่ที่นี่ด้วย ก็ดีนะที่ประชุมตามมาอยู่ใกล้ๆเรา

ลงแท็กซี่เดินเข้าในอาคารที่ใหญ่โตมาก แลกบัตรพร้อมกับถามหาที่ประชุม หาง่ายเพราะเดินไป100เมตรก็ถึงห้อง มีคุณหมอมงคล ณ สงขลา เป็นประธาน หมออำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ย้ายป้ายขอมานั่งคุยด้วย ผมกับคุณหมอเป็นกรรมการสภาการศึกษาแห่งชาติด้วยกัน คุยกันถูกคอ มีกำหนดแผนงานต้นแบบเลือกเอาภาคอีสานเป็นแห่งแรก ประชุมครั้งต่อไปกำหนดเอาจังหวัดขอนแก่นเป็นเวทีขับเคลื่อนกระบวนการแผนแม่บทกำลังคน นัดยกพลขึ้นบกวันที่ 9 พฤศจิกายน พระอาจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี เป็นหัวเรือใหญ่นำพลพรรคขึ้นมาประชุมเอง ป้าหวาน อาม่า จะเสนอเรื่องไรเตรียมการบ้านให้เต็มที่ ผมเกริ่นนำไว้บ้างแล้ว ว่าที่เมืองเสียงคูณดอกแคนมีคนดี คิดดี ลุยดี แบบพวกร้อนวิชาเรียกเจ๊นั่นแหละ อิ อิ..ทุกเรื่องส่งถึงเลขาธิการได้ทันทีทันด่วน..เรื่องไข้หวัด 2009 นั่นก็ทำเอกสารตรงแน่วมาได้เลย

เที่ยวนี้มีหัวข้อประชุมเยอะมาก ขอชมฝ่ายเตรียมงานของสำนักปลัดกระทรวง จัดลำดับได้อย่างมืออาชีพ ไม่โหล่ยลุ่ยเหมือนกระทรวงอื่น เจอKey Word ใหม่ๆ เช่น “มีคานงัดกี่ตัว” จะงัดยังไง “รักษาโรคหรือรักษาคน” “สาธารณทุกข์หรือสาธารณสุข” “ตีแตก” นึกเอะใจว่า..คำตีแตกมาตกหล่นที่นี่ได้ยังไง อิ อิ รึมีใครแอบอ่านลานปัญญาก็ไม่รู้เน๊อะ สรุปว่าด้านยุทธศาสตร์หลัก มีดังนี้

1. พัฒนากลไกนโยบาย

2. ปรับระบบการผลิตและพัฒนากำลังคน

3. ปรับระบบบริหารกำลังคน

4. สร้างและจัดการความรู้

5. ส่งเสริมกำลังคนในระบบสุขภาพชุมชน

ผมขอเอกสารมาฝากชาวเฮหลายชุด บางส่วนจะส่งให้อุ้ยทางไปรษณีย์ ของอาม่า ป้าหวาน น้าอึ่งจะเอาไปให้ที่ร่มธรรม ส่วนเรื่องที่พวกเราจะเสนอเอาให้ชัดๆตรงๆจะเร็วมาก เพราะเป็นคณะกรรมการฝ่ายผลักดันนโยบายอยู่แล้ว ในส่วนการบ้านเกี่ยวกับการอบรมบุคลากรก็เยอะ คิดถึงอุ้ยจันตาอนาคตคงหัวฟูแน่ แต่ก็โชคดีที่เข้าบรรจุตำแหน่งบุคคลกรกระทรวงสาธารณะสุขให้ถึง4,000 คน มากกว่าทุกกระทรวง เขาพูดถึงปัญหาหมอชวนพยาบาลหนีไปอยู่กับภาคเอกชน ปัญหาสยองของกระทรวงนี้ กำลังหาทางเอาลูกชาวบ้านมาเรียนหมอ หนึ่งหมอหนี่งตำบล จบมาแล้วจะทิ้งทุ่นตามกันไปอีกก็ไม่รู้


ประธานเล่าว่าปัญหามันเคลื่อนตัวเร็ว เหมือนไล่จับหมากลางสนาม จะต้อนอีท่าไหนก็ไม่อยู่หมัด ต้องคิดกลยุทธใหม่ๆ เช่นการจ้างบุคลากรในหลายๆรูปแบบ ถึงแม้ปีนี้กระทรวงสาธารณสุขจะได้บรรจุสูงกว่าทุกกระทรวง แต่ตัวเลขบุคลากรสายนี้ก็ยังขาดอีกมาก ปัญหาของระบบราชการมีส่วนก่อมลภาวะให้ตัวเองไม่น้อย หมอที่ถูกคนไข้ฟ้องร้องถ้าไม่ลาออกก็ไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรเต็มที่เหมือนเมื่อก่อน ถูกฟ้องหัวโตไม่คุ้ม บางประเทศเขามีกฎหมายดูแลหมอไม่ให้โดนฟ้องคดีอาญา

เมื่อคืนหมอเฟริน เล่าเรื่องพยาบาลไปเย็บแผลเด็กที่ประสบอุบัติเหตุ โดยไม่ได้แจ้งให้หมอตรวจเสียก่อน ปรากฏว่าเส้นเลือดขาดข้างใน ต่อมาแผลเน่าต้องตัดขา ถูกฟ้องร้องค่าเสียหายจนหน้ามืด ตอนนี้คิดมากแทบเป็นบ้า เพราะไม่มีคนกลางไปรอมชอม ประเด็นนี้พูดไปถึงว่าน่าจะมีตัวแทนชาวบ้านเข้ามานั่งเป็นกรรมการบริหารโรงพยาบาล มีเรื่องขึ้นมาอาจจะเป็นกันชนหรือสื่อสารกันง่ายขึ้น ถ้ามีเรื่องฟ้องร้องบ่อยๆ ผลิตหมอพยาบาลเท่าไหร่ก็หนีหมด มีการประมวลผลออกมาว่า สาเหตุของการฟ้องร้องมาจาก

1. มีผลที่ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง

2. ปัจจัยที่จูงใจให้มีการตัดสินใจฟ้องร้อง

เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางแห่งในกรุงเทพที่เชี่ยวชาญโรคหัวใจ ชวนกันหอบผ้าไปอยู่โรงบาลเอกชนทั้งก๊วน เล่นเอาห้องว่างกลัวผีหลอก เห็นว่าจะมีมาตรการจูงใจ เช่น ค่าตอบแทนเพิ่มพิเศษ สำหรับบริการในกลุ่มโรคที่มีอัตราตายสูง

· กลุ่มโรคหัวใจ : อายุรกรรม ศัลยกรรม วิสัญญี

· กลุ่มโรคมะเร็ง : รังสีรักษา เคมีบำบัด ศัลยกรรมฯ

· แพทย์ประจำห้องฉุกเฉิน : เวชศาสตร์ฉุกเฉิน ACLS, ATLS

โรงพยาบาลทหารก็ใช่ย่อย หมอทหารเผ่นกันกระเจิงเหมือนกัน ที่เหลืออยู่เป็นพวกบ้าดาวและเครื่องแบบ ไม่ยังงั้นเปิดแน่บไม่เห็นฝุ่นเหมือนกัน เรื่องพวกนี้มีการขบคิดพอสมควร อาจจะต้องคิดใหม่ทำใหม่ในการว่าจ้างหลายๆรูปแบบ เช่น

1 จ่ายเป็นค่าตอบแทนเพิ่มพิเศษ เพิ่มจากค่าตอบแทนปกติ ให้แก่ผู้บริการในภาครัฐ สำหรับการบริการเฉพาะทาง / บริการกลุ่มโรคที่มีอัตราตายสูง

2 จ่ายตามภาระงานที่เกิดขึ้นจริง ในการให้บริการผู้มีสิทธิ์ UC ตามรายการที่กำหนด

3 งบประมาณที่ใช้ในการสนับสนุนทั้งสิ้น 414,618,000บาท

ประเด็นการขอเพิ่มอัตราตำแหน่งคงยาก เพราะรัฐบาลสั่งคุมกำเนิดข้าราชการ เมื่อรู้เขารู้เราอย่างนี้ก็ต้องหาวิธีเอาเงินกองทุน หรือชวนภาคีต่างๆมาช่วยลงขัน เช่นค่าหัวต่อการรักษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากจะตั้งงบประมาณส่งลูกหลานในท้องถิ่นเรียนแล้ว ยังสามารถจ้างงานด้านสาธารณสุขได้เอง แม้แต่กทม.มีเงินกองทุนเพื่อการนี้หลายร้อยล้าน แต่ก็ไม่รู้จะบริหารเงินบริหารงานยังไง เงินนะมี แต่จ่ายบ่ออก..เฮ้อ! ประเด็นนี้เลขาธิการกพ.บอกว่าเห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะคิดใหม่ทำใหม่ๆ อย่าดื้อตาใสมาขอตำแหน่งที่ไม่มีให้ กพ.คิดแค่เรื่องเออรีฯกับเรื่องต่ออายุข้าราชการก็แทบตกม้าตายแล้ว

เรื่องการอบรมและพัฒนาบุคลากรมีรายการยาวเฟื้อย ขืนเขียนลงไปไม่ต้องกินข้าวเย็น เอาไว้ส่งการบ้านไปให้อุ้ยจันตาช่วยดูในประเด็นนี้ ฟิตกำลังข้อไว้ให้ดีนะอุ้ยนะ การผลิตการฝึกอบรมพยาบาลควักไขว้แน่

โอ้ยโย่ ..เขียนยาวไปแล้ว ขออภัย

ผมขอสรุปเองเออเองก็แล้วกัน

รักษาโรคหรือรักษาคน

ระบบแพทย์ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์

คืนหัวใจให้ระบบสุขภาพ

ความไม่มีโรคไม่ใช่ลาภ แต่เป็นสิ่งที่เกิดจากการดูแลตัวเอง

อมยิ้ม ดีกว่าอมโรค

หมวกกันน็อคป้องกันสมองโง่ๆ ยังไม่อยากใช้อีก

« « Prev : นอนใกล้พระ

Next : พลังใจแพทย์ชนบทอีสาน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

5 ความคิดเห็น

  • #1 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 กันยายน 2009 เวลา 18:33

    ป้าหวานมี หนังสือ ชื่อ รักษาโรค หรือ รักษาคน ของคุณหมอประเวศ วะสี ค่ะ
    อยากให้ชาวเฮมีบ้างจะทำยังไง…เอาเป็นเล่าบ่อยๆนิ  ..สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่าน
    ปัญหาสาธารณสุข  หนักอึ้ง  แต่ยังไง เราชาวไทย เกิดเป็นไทย ตายเพื่อไทยค่ะ
    ขอส่งแรงใจ แรงกาย สนับสนุน  ถึงอย่างไรก็ต้องสู้  ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ
    ช่วยกันดัน  ช่วยกันดึง  ร่วมแรง ร่วมใจ อย่ามัวมองในแง่ลบ อย่ามัวติ ต่อก่อด้วย เน้อะ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 กันยายน 2009 เวลา 18:44

    ป้าหวานเจี๊ยบมาก่อนเพื่อนเลย อิ

  • #3 จันทรรัตน์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 กันยายน 2009 เวลา 20:48

    เตรียมหัวฟูจริงๆค่ะ

    ขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับเอกสารนะคะ ไม่อยากให้ครูบาเสียเวลาไปจัดส่งทางไปรษณีย์ …ถ้าน้าอึ่งอ๊อบพอมีที่ฝากซุกมาได้ไหมคะ..แฮ่ๆ น้าจ๋าได้ไหมคะ

  • #4 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 กันยายน 2009 เวลา 21:57

    ลืมนึกไป ฝากน้าไปให้ก็ได้ อิอิ วัยสรุ่นใจร้อนๆๆ

  • #5 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 กันยายน 2009 เวลา 17:26

    อยู่ที่หนูแล้วค่ะ จะหิ้วไปฝากไว้กับน้าอึ่งตอนไปร่มธรรมนะคะ
    เตรียมเจลใส่ผมไว้ด้วยค่ะ แก้ผมฟูได้
    เหอ เหอ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.60840582847595 sec
Sidebar: 0.54136514663696 sec