ธรรมมะในป่าไม้

อ่าน: 4576

คติเตือนสติจากวัดหนองป่าพงนั้นเด็ดดวงนัก

ลองอ่านดูนะครับ

ทำดีได้ชั่วไม่มี และทำชั่วได้ดีก็ไม่มี

มีความอาย มีความกลัว เท่านี้ก็เป็นธรรมะแล้ว

ใจสงบได้ด้วยความเห็นที่ถูก

การละบาปสำคัญกว่าการทำบุญ

อย่าไปเชื่อในสิ่งที่เขาบอกว่าถูก อย่าไปเชื่อในสิ่งที่เขาบอกว่าผิด

เมื่อเราช่วยเขานั่นแหละ  คือช่วยตัวเอง

เมื่อเราดูถูกเขานั่นแหละ  คือดูถูกตัวเอง

เมื่อเราเมตตาเขานั่นแหละ  คือเราเมตตาตัวเอง

บางคนมาวัดทุกวัน วันพระก็มานั่งหลับตาภาวนา

พอกลับบ้านก็ทิ้งเลย ทะเลาะกับลูกผัว กับใครต่อใคร

เขาเข้าใจว่า เวลานั้นเขาออกจากภาวนาแล้ว

พรุ่งนี้ผมมีการบ้านกับคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วันนี้จึงออกเดินทาง แม่ลำไยอยากจะแวะวัดหนองป่าพง ผมเองก็ร่ำ ๆ จะได้ไปหลายครั้ง แต่วาสนาบกพร่อง จึงชวดฉลูขาลทุกที แต่คราวนี้สมใจนึกเพราะตั้งใจแม่นมั่นว่าจะไปกราบหลวงปู่ชาให้ได้ และวัดนี้ก็อยู่ในเส้นทางที่เราจะผ่านด้วย จึงโป๊ะเชะทุกอย่าง เราไปถึงวัดบ่ายโมง วันนี้สงบสงัดและร่มรื่นมาก มีเด็กอนุบาลคณะเดียวมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ ช่วงเราไปกราบอัฐิหลวงปู่ที่มหาเจดีย์ไม่มีใครเลย เป็นพวกเราล้วน ๆ จึงถ่ายภาพทำอะไร ๆ ได้ดั่งใจ

วัดป่าหนองป่าพงตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้ดั่งเดิมที่ร่มรื่น สมกับเป็นวัดป่าเสียจริง ๆ สงบ สงัด บ่ายวันนี้มีเด็กอนุบาลกลุ่มหนึ่งที่ไปชมพิพิธภัณฑ์ แต่ที่เจดีย์บรรจุอัฐิหลวงพ่อชา ซึ่งมีรูปแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมอีสานกับ ล้านช้าง ไม่มีใครเลย มีคณะเรา 4 คนเท่านั้นที่เข้าไปกราบอัฐิท่านได้อย่างสำรวมแต่อิสระ ดังที่ถ่ายรูปมาอวด


วัดหนองป่าพง ตั้งอยู่ที่บ้านพงสว่าง ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ เป็นวัดที่มีบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ เหมาะแก่การเล่าเรียนพระธรรมวินัย และปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เมื่อพ.ศ. 2497 หลวงปู่ชา (พระโพธิญาณเถร) ได้ทำการบุกเบิกปรับปรุงพื้นที่ให้เหมาะสมแก่การปฏิบัติธรรมและได้จัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ขึ้นในปีนั้น และเปลี่ยนสภาพเป็นวัดในโอกาสต่อมา วัดแห่งนี้เป็นต้นแบบของวัดป่าสายหลวงปู่ชาอีกกว่า 100 แห่ง ทั้งในและต่างประเทศ บริเวณวัดสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจคือ พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) เป็นอาคารที่จัดแสดงเครื่องอัฐบริขารและหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ชา สุภัทโท เปิดให้เข้าชม ตอนเช้า เวลา 10.30-12.00 น. ตอนบ่าย เวลา 14.00-18.00 น. และภายในมีเจดีย์ศรีโพธิญาณ เป็นสถานที่พระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่ชา การเดินทาง จากตัวเมืองใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2178 (สายอุบล-กันทรลักษ์) ประมาณ 6 กิโลเมตรมีทางแยกขวาอีก 2 กิโลเมตร

วัดหนองป่าพงมีเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ ประกอบด้วย โบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถระ กุฏิพยาบาลหลวงพ่อชา กุฏิพระ กุฏิแม่ชี กุฏิหลวงพ่อชา ระหว่างที่มาอยู่วัดหนองป่าพง หลวงพ่อได้ยึดหลักคำสอนของพระพุทธองค์ที่ตรัสว่า “ทำตนให้ตั้งอยู่ในคุณธรรมสมควรเสียก่อน แล้วจึงสอนคนอื่นที่หลัง จึงจะไม่เป็นบัณฑิตสกปรก”

วัดหนองป่าพงได้รับอนุญาตให้สร้างในปี ๒๕๑๓ ปี ๒๕๑๖ หลวงพ่อได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองป่าพงและได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่พระโพธิญาณเถรปี ๒๕๑๙ สิ้นเงิน ๕ ล้านบาท ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้เดินทางไปประกาศสัจธรรมในภาคพื้นยุโรปเป็นครั้งแรกปีพ.ศ. ๒๕๒๒ ได้เดินทางไปอังกฤษ อเมริกา คานาดา เพื่อประกาศสัจธรรม เป็นครั้งที่ ๒

ปี ๒๕๒๕ หลวงพ่อชาอาพาธ เป็นโรคเกี่ยวกับสมอง มีอาการเวียนศีรษะและความจำเสื่อม จนต้องผ่าตัดสมอง หลังจากการผ่าตัด ท่านไม่สามารถพูดได้เคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องอาศัยพระภิกษุในวัดช่วยปรนนิบัติเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด การบริหารวัดทั้งหมดมอบให้อาจารย์เหลื่อม เป็นผู้รักษาการแทน

หลวงพ่อชาถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๓๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๓๖

” การฝึกจิตไม่เหมือนฝึกสัตว์

จิตนี่เป็นของฝึกยากแท้ ๆ

แต่อย่าไปท้อถอยง่าย ๆ

ถ้ามันคิดไปทั่วทิศก็กลั้นใจมันไว้

พอใจมันจะขาด มันก็คิดอะไรไม่ออก

มันก็วิ่งกลับมาเอง ให้ทำไปเถอะ”

« « Prev : อานุภาพความห่วงใย

Next : ยั่วให้คิดยุให้เขียน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

8 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 กันยายน 2009 เวลา 5:30

    ดูก่อนอาเหลียง

    ” ท่านสอนว่า แต่เดิมกระโถนไม่มีชื่อ จะเรียกว่าอะไรก็ได้ทั้งนั้น
    เพราะความเป็นจริงแล้วกระโถนไม่มี
    เป็นสักแต่ว่าธาตุได้เกาะกุมกันขึ้นเท่านั้น”

  • #2 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 กันยายน 2009 เวลา 7:21

    ส่งใจถึงพ่อครูค่ะ

  • #3 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 กันยายน 2009 เวลา 7:27

    ป้าหวานจ๋า
    วันนี้มีบรรยายที่คณะวิทยาศาสตร์ ม.อุบล 2รอบ  เช้า-บ่าย
    มีนักศึกษาเข้าฟังประมาณ 300-400 คน/ครั้งๆ ละ 2 ชั่วโมงเศษ
    แต่วางแผนช่วยตัวเองไว้แล้ว
    โดยการบรรทึกคำบรรยายเป็นช่วงๆ
    แถมป้าหวานยังส่งใจมาอีก
    คงจะพอเอาตัวรอดได้

    หลังจากพบนักศึกษาแล้ว
    ช่วง 4 โมงเย็นนักคุยกับนักศึกษา-อาจารย์ คณะบริหารศาสตร์
    คาดว่าจะถึงบ้าน 5 ทุ่ม
    คนเรานะป้าหวาน  ไม่ทำงานก็ไม่รู้จะทำอะไร
    จึงอิอิ แอ๊ะๆไปตามเรื่อง
    วันที่ 4 ตอนเที่ยงจะถึงขอนแก่น แล้วจะต่อไปเลย

  • #4 Panda ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 กันยายน 2009 เวลา 16:49

    เรียนรู้ และ ทำงาน จนไม่มีชีวิต
    เมื่อไหร่ไม่มีชีวิต ก็ได้หยุด ทั้งการเรียนรู้และการทำงาน
    ชีวิต คือ การต่อสู้  ศัตรูคือ……..อิอิ แล้วแต่ตัวท่านเอง

  • #5 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 กันยายน 2009 เวลา 17:06

    พ่อครูคะ  ตอนผ่านมาขอนแก่น ถ้าเป็นไปได้  ป้าหวานขอพาไปทานข้าวเหนียวส้มตำ ไก่ย่างค่ะ
    ไม่แน่ว่า อาม่าจะรีบกลับไหม  ตอนเช้า วันที่ 4 อาม่าอยู่ขอนแก่นค่ะ อิอิ

  • #6 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 กันยายน 2009 เวลา 22:24

    ผมประชุมอยู่กรุงเทพฯครับ

  • #7 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 กันยายน 2009 เวลา 23:49

    พรุ่งนี้จะไปถึงขอนแก่นบ่าย2โมง
    แม่ลำไยไปด้วครับ
    ถ้าป้าหวานมาเจอตัวเป็นๆก๊ดี
    ไม่ทราบจะว่างช่วงนั้นหรือเปล่า

  • #8 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 กันยายน 2009 เวลา 0:06

    ทำให้ว่างได้ค่ะพ่อครู  ขอบพระคุณค่ะ ป้าหวานจะติดต่อไปนะคะ  อาม่าต้องกลับก่อนค่ะ  คงมีเวลาพบกันอีกในโอกาสต่อๆไป  ดีใจจังมีโอกาสพบพ่อครู และแม่ลำใย


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.069872140884399 sec
Sidebar: 0.047137975692749 sec