: ไปเยี่ยมกิ๊ก ตอนตาลีตาเหลือก

โดย sutthinun เมื่อ 26 สิงหาคม 2009 เวลา 17:14 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1353

: ตอนนี้มาเอ้งเม้งอยู่ 2 แควแล้วครับ

: ขออนุญาตส่งการบ้านย้อนหลัง

: ช้าไปบ้างเพราะมาจากจังหวัดเลย

: ทริปนี้เลย-หลง-งง-ตลอด

: กว่าหาโรงแรมเจอ ก็หลง-ขับเลย-เตลิด อีกจนได้ คิคิ

คนเรานี่นะครับ บางทีก็มีเหตุอันบอกไม่ถูกเหมือนกัน ว่าทำไมจะต้องไปที่โน่นที่นี่ ส่วนมากจะเป็นความต้องการ ความตั้งใจหรือมีความจำเป็นต้องไป แต่ไฟล์นี้ไม่ใช่ มีรายการเฉพาะเจาะจงวันที่ 27 แต่เห็นว่าไหนๆก็จะมาเมืองสองแควแล้ว ฝ่ายสำรวจโอกาสวาสนาบอกว่าเราไปจังหวัดเลยด้วยไหมละ จึงมีรายการตีโค้งไปบ้านหลัก160 อำเภอห้วยหิน จังหวัดเลยในวันนี้และพรุ่งนี้

(ระหว่างที่กินก้วยเตี๋ยวเป็ดที่หล่มสัก มีแม่ค้าขายล็อตเตอรี่มาเซ๊าซี่ ..ถามว่ามีเลข 160 ไหม ปรากฏว่าไม่มี อภินิหารมีจริง เข้ามาอีกคน ถามหาก็ไม่มีอีก คนหัวโตเย้าว่า..ซื้อเลขที่เขาไม่มีขายก็อย่างนี้แหละ คิคิ)

วันที่24 สิงหาคม 2552 ออกเดินทางจาก814เวลา8.45. ผ่านอยุธยา-สระบุรี-ลพบุรี-เพชรบูรณ์-ผานกเค้าเข้าสู่จุดหมาย16.50. ตลอดเส้นทางฟ้าเป็นใจไม่ส่องแสงจ้า ฝนตกแดดเบาๆสลับกัน ผ่านป่าไม้ครึ้มท้องนาเขียวชะอุ่ม เลี้ยวเข้าไปจอดที่ศูนย์จราจรในตัวอำเภอ โทรบอกคนเคยรักว่ามาถึงแล้วเน้อ ระหว่างที่รอฝนก็กระหน่ำอย่างหนัก

รอไปรอมา พบว่าต่างคนต่างรอคนละจุด นัดกันคนละป้อมตำรวจ(ตาหวานห้ามหัวเราะ) เราขับรถเลยไปประมาณ10กม.(มาจังหวัดชื่อเลยไม่เลยบ้างก็ผิดธรรมเนียมนะสิ) แม่ลำไยกับพ่อสุวรรณต้องบึ่งรถมารับย้อนกลับ แล้วเลี้ยวซ้ายประมาณ7กม.ก็ถึงบ้านที่อยู่ท่ามกลางแมกไม้และสมุนไพร บ้านนี้อยู่กัน2ตายาย จะมีญาติมาช่วยงานบ้างตามความจำเป็น ลูกเต้ามีครอบครัวมีอาชีพกันหมดแล้ว แม่ลำไยจึงมีโอกาสจัดสรรเวลาได้ค่อนข้างอิสระ เรื่องขอวีซ่าไม่จำเป็น ..(นึกเห็นหน้าป้าหวานแว๊บๆ)

ยามว่างจากไร่นา ก็นุ่งขาวห่มขาวเข้าวัด บางคราก็ทำผ้านวม ยามว่างก็ทำยาสมุนไพรจำหน่ายบ้างแจกบ้าง อยากทำอยากไปไหนไม่ต้องขอวีซ่า ถามใจตัวเองก็ไปได้แล้ว

เข้าไปในบ้านแม่ลำไยรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้านตัวเอง นั่งปุ๊บน้ำสมุนไพรพร้อมเลิร์ฟทยอยมาให้ชมและชิม น้ำใบหญ้านาง น้ำลูกยอ โสมไทย น้ำสมุนไพรอุ่นๆรินมาให้ชิมระหว่างคุย สมุนไพรตัวอย่าง หมอนสมุนไพร ผ้าโสร่ง บายศรีที่เตรียมไว้ หลังจากนั้นแม่ลำไยก็ชวนเข้าห้องนอน

แม่ลำไยเป็นคนเปิดเผย ดูดีใจมากกับการต้อนรับคณะเรา พาไปคุยในห้องนอน พื้นที่ส่วนใหญ่จัดเป็นโต๊ะหมู่บูชา ทีวีอยู่มุมหนึ่ง มีภาพและพระพุทธรูปรวมทั้งสิ่งที่แม่ลำไยเคารพนับถือละลานตา ระหว่างที่ไหว้พระไฟฟ้าดับ เจ้าของห้องต้องจุดเทียนไข อาศัยแสงสว่างชมสิ่งต่างๆยังกับนั่งในโบสถ์

ออกจากห้องนอนได้เวลาอาหารเย็น มีน้ำพริกผักลวก สมุนไพรทอด ไข่เจียว และอาหารที่เรียกชื่อไม่ถูกอีกอย่างสองอย่าง ข้าวกล้องแดงและข้าวเหนียว แม่ลำไยทำนาเองกับมือ รสชาติอร่อย จึงเปิบซะพุงป่อง ..แม่ลำไยเล่าว่าชอบทำงานกลางคืน เคยดำนาท่ามกลางแสงหิ่งห้อย ดำไปเรื่อยๆวันละ3-4ทุ่ม ก็ได้งานโข ข้าวที่ได้ปีละร้อยกว่ากระสอบ พ่อสุวรรณเล่าว่าสีเป็นข้าวสารจำหน่ายกก.ละ 40 บาท

ดูๆแล้วครอบครัวแม่ลำไยก็ไม่เดือดร้อนอะไร อยู่ในวงจรความพอเพียงอย่างแท้จริง จึงจัดสรรลงตัวแทบทุกอย่าง พ่อสุวรรณสนใจงานอะไรก็ทำๆไป แม่ลำไยชอบนั่งสมาธิภาวนานานๆในห้องนอน ต้องการความสงบ เลิกจู่จี๋กันหลายปีแล้ว แยกห้องต่างคนต่างนอน แต่เคยกราบสามีมาตั้งแต่แต่งงานกันก็ยังยึดปฏิบัติมิไว้วางเว้น ที่ไร่ที่นาที่มากขนาดชี้ว่าจากตรงนี้.. ยาวไปถึงโน้นๆๆจรดภูเขาที่เห็น ยกให้ลูกหลานไป ไม่ติดยึดอะไรแล้ว มุ่งทำบุญทำกุศลในชาตินี้..คุยกับแม่ลำไยได้แง่คิดเรื่องกาลเวลา

คนเราถ้าคิดถึงเรื่องการทำความดีความเพียรแล้ว เราเหลือเวลาน้อยนัก จะเป็นจะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บางทีนอนอยู่ดีๆม่องไปซะเฉยๆก็มี จึงไม่ควรประมาท

ได้ข้อสังเกตความรู้เกี่ยวกับการจัดการพื้นที่ๆมีโขดหินก้อนโตๆ ถ้าเราจะหักร้างถางพงเพื่อปลูกพืชล้มลุกคงไม่คุ้มแน่ ทางที่ดีควรจะปลูกต้นไม้แบบผสมผสานกับไม้ของเดิม เช่น แทรกต้นสัก ไม้ยืนต้น สมุนไพรต้น หรือผลไม้เช่นมะขามหวาม ซึ่งเป็นไม้ที่ขึ้นได้ดีกับสภาพพื้นถิ่น หรือไม้มีค่าทางเศรษฐกิจอื่นๆลงไป แทนการปลูกไม้เชิงเดี่ยวชนิดเดียวที่เราเห็นปลูกข้างสองทาง ซึ่งจะไม่สอดคล้องกับสภาพธรรมชาติ เช่น แปลงยูคาฯ แปลงไม้สัก แปลงปาล์มน้ำมัน แปลงยาพาราโดดๆ พืชจำพวกเป็นเถาว์ยังปลูกได้ตามความเหมาะสม อาจจะหว่านหญ้ากินี ถั่วฮามาต้า เพื่อเป็นอาหารแพะแกะและโค ในจุดที่เป็นแอ่งอาจจะปรับเป็นแหล่งน้ำใช้ หรือทำการประมงแบบเศรษฐกิจพอเพียง ชาวบ้านจะมีการงานอาชีพที่ยั่งยืนพอเลี้ยงปากท้อง มีรายได้จากการเลี้ยงปศุสัตว์ ขายนมแพะ พันธุ์แพะ ขี้แพะทำปุ๋ย ปลูกกล้วยไม้ เลี้ยงปลา เลี้ยงผึ้ง ทอผ้า แปรรูปสมุนไพร จำหน่ายผักยืนต้นและพันธุ์ไม้ ในขณะเดียวกันสภาพแวดล้อมก็ดีขึ้นตามลำดับ ไม้ที่ปลูกทิ้งไว้จะเป็นทุนสะสมในอนาคต คิดแล้วทำอย่างนี้ในพื้นถิ่นลักษณะนี้น่าจะดีไหมครับ?

พรุ่งนี้แม่ลำไยจะขอทำพิธีขอสมาอีกครั้งหนึ่ง บอกว่าคราวบุกไปทำที่สวนป่าไม่หลุด (คงหมายความว่ายังไม่ดีพอจึงขอทำใหม่) คุยไปคุยมาบอกว่าจะมาส่งแม่หวีเอง จะได้เอาสมุนไพรแปลกๆที่เราไม่มีไปปลูกด้วย เช่นกระชายแดงและว่านต่างๆที่มีจำนวนมากรวมทั้งผักหวานป่า ซึ่งมีทั้งเมล็ดต้นอ่อนและองค์ความรู้

คุยกันสักพักเราอพยพไปรีสอร์ทซึ่งอยู่ติดถนนหลวง เป็นกิจการครอบครัวลูกๆ แม่ลำไยจองไว้แล้ว3ห้อง รอกอดห้องหนึ่ง แม่หวีกับป้าจุ๋มห้องหนึ่ง ผมห้องหนึ่ง..เป็นรีสอร์ทขนาดเล็กที่มีทั้งบ้านเดี่ยวและเป็นห้องแถว บริหารจัดการกันเองภายในครอบครัวง่ายๆ

ระหว่างเดินทางผมหลับๆตื่นๆตลอด คืนนี้ทุกคนง่วงทั่วหน้า ป้าจุ๋มสะลึมสะลือ บอกว่าอาจจะเป็นเพราะกินสมุนไพรตัวไหนไม่รู้ จังหวัดเลยนั้นขึ้นชื่อเรื่องแม่คะนิ้ง ฤดูหนาวจุดเยือกเย็นเกือบจะถึงจุดเกิดเยือกแข็ง ช่วงที่มาอากาศกำลังสบาย ..เรานอนห่างจากภูกระดึงประมาณ10กม. ถึงที่นอนเอนองค์ลงบรรจถรณ์ หลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ สะดุ้งตื่นเพราะหนาวแทบชัก รีบปิดแอร์..ตาลีตาเหลือกคว้าผ้าห่มมาคลุมโปง กว่าจะความเหน็บหนาวในฤดีแดจะคลาย..เธอเอ๋ย..

ผมอยู่ในประเภทตื่นแล้วตาตั้ง

จึงลุกมาจ้อเรื่องตาลีตาเหลือกให้ฟังไว้ชั้นหนึ่ง

ยังมีเหตุระทึกระทวยใจอีกมาก

ถ้าสนใจก็เชิญติดตามตอนต่อไป คิ คิ

« « Prev : ที่นี่ >> โรงเรียนเฮฮาศาสตร์วิทยา

Next : : ตอนกิ๊กกับก๊อกพาเที่ยว » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ ": ไปเยี่ยมกิ๊ก ตอนตาลีตาเหลือก"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.12862801551819 sec
Sidebar: 0.12617087364197 sec