เปิดตัวลูกครัวหัวป่าก์
อ่าน: 3867
กองคาราวานชนเผ่าแซ่เฮ เริ่มออกเดินทางยามเช้าตรู่..อากาศไม่ร้อน ขบวนจะเดินทางไปช้าๆ ได้วันละ10-12กม.ก็นับว่าไกลโขแล้ว ถ้าใครเคยนั่งเกวียนเดินทางคดเคี้ยวเลี้ยวหลบตอ ล้อส่งเสียงออดแอ๊ดๆๆ..จะง่วงเพราะเสียงล้อกล่อมเห่ เสียงสอดแทรกจากนกหัวขวานมาสับไม้โป๊กๆ ให้จังหวะผ่อนลมหายใจ หรีดริ่งเรไรที่ร้องยามบ่าย ชวนหาวนอนดีนัก..
เดินไปๆๆ..เจอผักป่า เด็กๆกระโดดลงไปแย่งเก็บผักอีลอก ผักกระโดน เจอเห็ดเก็บเห็ด เด็ดดอกกระเจียว เก็บดอกไม้ป่ามาแซมผม เจอลูกขี้หนู ลูกพีพวน ลูกมะแงวป่าสุกแดงเต็มต้น เด็กสนุกกันใหญ่ เจอสมุนไพรก็เก็บไว้ยามป่วยไข้ เจอรูแย้ รูตุ่น แม่ใหญ่จะชวนขุด หนุ่มๆไปทำบ่วงดักสัตว์ล่วงหน้า บางวันโชคดีอาจจะได้พังพอน น้ำผึ้ง ไข่นก มาเป็นเมนูพิเศษ ถ้าจะปลงพักจุดใด จะคำนึงถึงแหล่งน้ำ หญ้าให้ช้างม้าวัวควาย ความปลอดภัยจากสัตว์ร้ายและเภทภัยอื่นๆ รวมทั้งมองหาอาหารป่าในแหล่งนั้นด้วย นับเป็นความรอบคอบที่สอดประสานกับความรับผิดชอบ ทำให้การเดินทางไม่มีอุปสรรคใดๆมาใกล้กราย
หน้าที่การงานของแต่ละคน ไม่ได้มากมายซับซ้อนเหมือนสมัยนี้ ชายฉกรรจ์จะฝึกการต่อสู้ป้องกันภัย ทำงานช่างต่างๆ เป็นแรงงานหลักทำไร่ทำนา เป็นกลุ่มงานที่ใช้กำลังและความสามารถสูง สุภาพสตรีจะมีกลุ่มงานของแม่บ้านแม่เรือน ดูแลอาหารการกิน ถักทอเสื้อผ้า เครื่องประดับ เตรียมงานด้านพิธีการต่างๆ ไม่มีตำแหน่งผ.อ. ผอแอ เหมือนสมัยนี้ บางคนแม่ลำไยบอกว่า..เจ้าคนนี้รึช่วยล้างหม้อล้างจาน เก็บเครื่องครัวทำความสะอาด สมัยนั้นจะใช้ภาชนะดินเผา แต่ความกระโดกกระเด๊กทำหม้อแตกทู๊กวัน..เฮ้อ ใครนะยายคนนี้..
กลุ่มสตรีจะมีงานเกี่ยวกับครัวและในครัวเป็นส่วนใหญ่ อีกกลุ่มไปจะแยกไปทำเรื่องเครื่องนุ่งห่ม แรงงานมวลรวมได้แก่การช่วยกันเพาะปลูก วิถีชีวิตจึงอิงอยู่กับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ จิตใจจึงชุ่มเย็นเป็นเพื่อนเป็นมิตรกันได้ง่าย ไม่มีผลประโยชน์ให้แย่งชิง มีแต่ความสมประโยชน์ร่วมกัน คิดดี ทำดี มีความสุขกับการเป็นผู้ให้ แข่งกันทำทานบารมี สิ่งก่อสร้างเพื่อเป็นพุทธบูชาจึงเกิดขึ้นอย่างอลังการณ์ในครั้งกระโน้น
: สรุปว่าความรู้ของมนุษยชาติยุคหนึ่งยุคใด ขึ้นอยู่กับการเรียนรู้เพื่อนำมาใช้ มาแก้ไข มาพัฒนาการให้ปกติสุข สุภาพสตรีในอดีตชาติจึงสาละวนอยู่กับเรื่องรอบๆตัว อยู่กับเงื่อนไขทางจารีตประเพณี จะมากระดี๊กระ๊ด๊าอย่างยุคสมัยนี้หาได้ไม่ แค่ไปแอบเขียนเพลงยาว จับได้ก็ถูกโบยจนหลังแตกเลือดกระจาย แต่ยุคนี้ไม่เป็นไร ใครไม่เขียนเจ๊าะแจ๊ะเสียอีก จะถูกนินทาว่าดีแต่เอาเพลงขึ้นจอ ไม่ยอมเขียนอะไรเอาเสียเลย มิน่าละ หมาถึงกัดเอาน่องแทบขาด คิคิ
วิถีชนเผ่าต้องพึ่งพากันเองภายใน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จึงมุ่งเรื่องประจำวันเป็นหลัก เงินทองไม่ต้องใช้ อยู่อย่างประหยัดพอดีพอเพียงพอตัว การแลก การแบ่งปัน การให้ทานเป็นวัฒนธรรมเอื้ออาทร เครื่องสำอางค์ไม่รู้จัก อาบน้ำให้สะอาด สระผมให้สลวยหอมกรุ่น ใช้มะกรูดเผาไฟลูกเดียวมาชำระสระถูเรือนร่างก็เอี่ยมอ่องแล้ว อยากสปาก็พากันกระโดนน้ำตูม ตูม อิอิ
ในอดีตชาติ>>
เด็กหญิงนางหนึ่ง ใส่เสื้อบักกะแหล่ง นุ่งโจงกะเบนทะมัดทะแมง
ถือตะกร้าร่าเริงไปเก็บผักกับเพื่อนๆ
เธอรับงานเตรียมปัจจัยอาหารให้แก่กลุ่มงานครัว
เก็บทุกอย่างที่ขวางหน้า มะเขือพวง ผักแพงพวย ผักเม็ก ผักติ้ว ผักพาย เต้มตะกร้า
แต่ละวันครัวแซ่เฮต้องการพริกสดจำนวนมาก
การกินเผ็ดทำให้มีกำลังวังชา จึงคุ้นชินรสจัด
ในถุงเสบียงจะมีพริกแห้งหลายสายพันธุ์
บางทีพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง พริกขี้กา อาจจะสืบทอดกันมาแต่คราวโน้นก็ได้
พริกสดเสียบไม้ปิ้งให้สุกหอม
หอมกระทียม มะเขือพวงคั่วร้อนๆ
เอามาโขลกให้แหลก ใส่น้ำปลาร้าสุก บีบมะนาวขลุกขลิก
กินกับผักปลาที่หาได้
คดข้าวจากหม้อดินหอมกรุ่น
แค่นี้ก็เปิปอร่อยทั่วหน้า
ในนิมิต >>เธอเด็ดพริกเด็ดผักจนเล็บเหี้ยน
ในชาตินี้เธอทานมังสะวิรัต
ทำโรตีอร่อย
มีฉายา>> ตาหวาน ลูกครูบา
จะใครเสียละ ราณีคนสวย แซ่เฮ นะสิ คิคิ..
« « Prev : คนขี้เซาใช้บริการนี้
Next : คุณหมอจอมป่วนภาคพิศดาร » »
7 ความคิดเห็น
ฮ่าๆๆๆๆ เจออีกคน…
ขำ ขำ ตรงนี้ด้วยค่ะ “ใครไม่เขียนเจ๊าะแจ๊ะเสียอีก จะถูกนินทาว่าดีแต่เอาเพลงขึ้นจอ ไม่ยอมเขียนอะไรเอาเสียเลย มิน่าละ หมาถึงกัดเอาน่องแทบขาด คิคิ ”
อุ้ยตื่นมาอารมณ์ดีแต่เช้า วันนี้ขอให้หน้าบานทั้งวัน อิอิ
ไม่มีใครอยากรู้จักอดีตชาติของกามมิตหนุ่มเลยรึ
วันหลังต้องขอดูมือน้องราณีชัด ๆ เสียแล้ว อิอิ
ว่าแต่กามนิตหนุ่มจะเป็นอะไรดีคะ ตำแหน่งหัวหน้าขันที
คุณหมอจอมป่วนก็คว้าไปครองซะแร่ะ 555+
5555555555 แหมมิน่าไปสวนป่าก็เด็ดแต่พริก ^ ^
แหม พี่ครูปู จะดูว่ามือยาวใช่หรือไม่ ว่ามืองี้ ทำไมเก็บผัก มะนาวและ พริกเร็ว ก๊ากกกกกกกก
พี่เบิร์ด(รู้ได้ไงหว่า เอิ๊กๆๆๆ)