ลานสวนป่า

: การออกแบบค่าย SCG Paper

: การจุดประกายความคิด/ความรู้/ความสามารถ

: การทดลองใช้ชีวิตบนฐานความไม่พร้อม

: การสร้างเครือข่ายความรู้

: การตีแตกบริบทKM.

>> การออกค่ายของชาวSCG.Paper คราวนี้

เป็นอะไรที่ลงตัวพอสมควร

ที่สำคัญชาวSCG.Paper น่ารักมาก

ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเกี่ยวความคิดไปปะติดปะต่อความรู้อย่างเต็มที่

ทุกขั้นเวลานาทีแกะกันไม่ออกจากวงสุมศรีษะกัน

จึงยืดหยุ่นให้ตามความที่น่าจะเป็น

>> ที่จริงท่านรอกอดรายงานเป็นระยะทุกวันแล้วนะครับ  ผมขอเพิ่มเติมในส่วนที่ค้างคาอยู่บ้าง ..ดีใจด้วยกับชาวค่ายที่ผมจัดให้เจอกับฤๅษีแห่งอาศรมระเมียรไม้ได้อย่างลงตัว  เพื่อเป็นการปูพื้นฐานแนวคิดแนวทางของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ที่ตั้งโจทย์แล้วทำตามความตั้งใจได้อย่างยอดเยี่ยม  รายการนี้คงจะทำให้ชาว SCG. เริ่มตะงิดๆกับข้อฉุกคิดที่ฤๅษีเล่าให้ฟัง  ผมดูเวลาแล้วน่าจะพาชาวค่ายขึ้นบนภไปดูปล่องภูเขาไฟ และได้ชมทิวทัศน์เบื้องสูงของเมืองบุรีรัมย์ ลงมาแล้วตะวันยังค้่างฟ้า จึงพาไปสนทนาริมฟั้งแม่น้ำมูล โดยมีสะพานสตึกเป็นแบ๊คกราว แล้วเล่าที่ไปที่มาของอนุสาวรีย์แห่งความไม่ชอบมาพากลที่โทนโท่ประจานความมูมมามของคนไม่สมประกอบ

>> เรามาถึงสวนป่าเอาจวนเย็นย่ำสนธยา พาเข้าที่พักแล้วมานั่งโจ้มื้อเย็นกันจนอิ่มอื้อตื้อ หลังจากนั้นก็คุยกันพอหอมปากหอมคอ  เหนื่อยอ่อนจากการตื่นเช้า จึงแยกย้ายกันนอนประมาณ 4 ทุ่ม  แต่ก็ตื่นเช้าได้กันถ้วนหน้า ระหว่างอาหารเช้ามีแขกพิเศษจากสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน มาร่วมสังเกตุการณ์ 1 รถตู้ นำโดยท่านผู้ตรวจการ เลขาธิการ รองเลขาธิการ และทีมงานพร้อมหน้า หลังจากอิ่มมื้อเช้าก็แยกกันลงพื้นที่ ผมไปกับกลุ่ม 1 มีคณะผู้ตรวจการร่วมลงทุ่งไปด้วย ทริปนี้เป็นการนำไปพูดคุยกับเกษตรกรตัวเอ้ ที่พิสูจน์เรื่องการพึ่งตนเองได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ที่สวนแห่งนี้ ทีมข่าวทีวีสี ช่อง 7 ติดตามมาสัมภาษณ์ ผมได้โอกาสก็เลยฟุ้งเรื่องเจ้าเป็นไผ กับขบวนการเฮฮาศาสตร์ กระเจิดกระเจิงไปแล้วนะขอรับ กลับมาถึงสวนเอาจวนเที่ยง ล่อข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่างไปพลางๆ  คณะที่ไปดูงานฝั่งมหาสารคาม ตามมาบ่าย 2 โมง หิวซกๆมาเลยละครับ

>> ช่วงบ่ายแก่ๆพาไปปลูกต้นเอกมหาชัย ท่านผู้ตรวจการแผ่นดินได้ปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึกด้วย งานนี้เล่นเอาเหงื่อซึมเหมือนกัน มื้อเย็นจึงเจริญอาหารเป็นพิเศษ ช่วงกลางคืนทั้ง 4 ทีมมาเล่าเรื่องที่ได้ลงพื้นที่ให้เฮฮากันพอหอมปากหอมคอ ตบท้ายด้วย ดร.ศักดิ์พงษ์ หอมหวล แล้วก็แยกย้ายกันนอน

>> เช้าวันที่ 26 โปรแกรมแรกจะพาเดินชมสวน แต่ชาวค่ายมะรุมมะตุ้มกับการทำการบ้าน จึงปล่อยให้ทำงานตามความสนใจ หลังจากอิ่มก้วยเตี๋ยวญวนแล้ว  พวกเราทยอยเข้าห้อง เพื่อรับฟังการบรรยายเรื่องการสร้างเครือข่ายของชาวเฮฮาศาสตร์  แต่เปิดเวทีด้วยการเรียนเชิญท่านผู้ตรวจการแผ่นดินมาพบปะสมาชิก ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ท่านอธิบายจะแจ้งถึงวัตถุประลงค์ว่า ..ตั้งใจจะมาหาเครือข่ายหาพันธมิตร ได้อธิบายระบบงานของสำนักงานตรวจการแผ่นดิน ว่าพวกเราจะได้ร่วมมือทำประโยชน์ได้ด้วยวิธีการไหนอย่างไร? ช่วงท้ายยังมีของมาแจกพวกเราทุกคน ผมได้รับหนังสือที่เป็นประโยชน์ในการที่จะทำความรู้จักกันให้กระจ่างแจ้งอีกจำนวนหนึ่ง

>>  ผมเปิดประเด็นเรื่องการสร้างเครือข่ายเฮฮาศาสตร์ แบบหน้าม้า..อิอิ..แล้วก็โยนไมค์ให้ท่านรอกอดรับไม้ต่อ รอกอดก็ร่ายทวนชวนให้ขบคิดในวิธีการต่างๆที่ชาวเฮฮาศาสตร์ หลังจากนั้นอาม่าหลินฮุยก็รับไม้ต่อ ร่ายยาวเรื่องอาหารและสุขภาพแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ได้รับคำถามเป็นจำนวนมาก ตอบกันไปมาจนกระทั้งใกล้เที่ยงวัน ไมค์โคโฟนจึงย้อนมาอีกรอบหนึ่ง  ผมเจ๊าะแจ๊ะเพิ่มเติมให้สมควรแก่เวลา ก็โยนไมค์ให้เจ้าลูกชายโทน ที่มารับหน้าที่ดำเนินรายการต่อไป.. เรื่องไปลงเอยที่ขนมจีน น้ำยา 3 ชนิด หลังจากนั้นคณะผู้ตรวจการเดินทางกลับ ผมปล่อยให้พักผ่อนตามอัธยาศัย จนกระทั้งถึงบ่ายแก่ๆ จึงชวนคณะพัฒนาชาติไทย SCG. ไปซ่อมถนนทางเข้าที่เป็นหลุมบ่อ เราออกเดินเป็นการวอร์มอัพประมาณ 400 เมตร ก็จึงจุดที่จะขุดดินมาถมถนน ทุกคนช่วยกันคนละไม้ละมือ ได้ออกกำลังเหงื่อซึมไปตามๆกัน ท่านรอกอดพิเศษกว่าเพื่อน เตรียมจอบมาจากกรุงเทพ คราวนี้ได้แอ๊คชั่นสมใจ  ไม่รู้ว่าคืนนี้จะปวดกระดูกกระเดี้ยวแค่ไหน เพราะทุ่มเทแรงกายแรงใจเหลือเกิน ..

>> ไปแอบดูแต่ละทีมทำกับข้าว

โอ้โฮ โอ้โฮ ไม่ธรรมดา

กลับไปเปิดภัตตาคารสบายๆ

มื้อนี้เป็นการประชันเสน่ห์ปลายจวักกันสุดฤทธิ์สุดเดช

เอาไว้ชิมแล้วจะมาเล่าต่อดีไหมครับ

และคืนนี้จะมีการนำเสนอการบ้านของแต่ละกลุ่ม

คืนสุดท้ายแล้ว ชาวคณะอาจจะปล่อยฝีมือกันแบบทิ้งทวนก็ได้ อิอิ

« « Prev : แด่ ดวงพร เลาหกุล

Next : ปิดค่าย SCG paper อิ อิ » »